บล็อก SMS หลอกลวงไม่ได้ผล! พบเหยื่อถูกตุ๋นเพิ่มไม่หยุด ตร.รับ หาตัวจับยาก

ผู้ที่เคยถูกหลอกลวงออนไลน์ ก็ยังคงร้องเรียนเข้ามาทางข่าว 3 มิติเรื่อยๆ โดยที่บางคนแม้จะระมัดระวังตัวแต่ก็ตกเป็นเหยื่อได้ ด้วยวิธีการที่แนบเนียนของขบวนการนี้ แต่ดูเหมือนการปราบปรามและป้องกันก็ยังมีปัญหาที่หน่วยงานภาครัฐ ยังไม่สามารถให้เครือข่ายค่ายมือถือปิดกั้นSMS หลอกลวงทางออนไลน์ได้ ทำให้ขณะนี้มิจฉาชีพได้เพิ่มทั้งปริมาณแอปพลิเคชั่นหลอกลวงออนไลน์ และยังได้มีการจ้างพนักงานคอลเซนเตอร์ให้เข้าร่วมทำงานมากขึ้น แม้จะมีการเตือนภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

การลักลอบเข้าไปทำงานในประเทศเพือนบ้าน ของคนไทย ซึ่งถูกเจ้าหน้าทีติดตามจับ บริเวณแนวชายแดน ระหว่างขับรถหลบหนี โดยผู้ถูกจับกุมระบุว่าเดินทางมาจากหลายจังหวัด มารวมกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะมีผู้มารับ เป็นผู้ที่ติดกันทางแอดมินเพจจัดหางานในประเทศกัมพูชา แต่ถูกจับได้ก่อน ซึ่งกลุ่มคนไทยเหล่านี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าน่าจะไปทำงานเป็นคอลเซนเตอร์หลอกเหยื่อคนไทยด้วยกันทางออนไลน์ ซึ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับคนไทย ที่ขาดรายได้และต้องการกู้เงินอยู่ในขณะนี้

ถึงแม้มิจฉาชีพจะไม่ได้ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ แต่ได้ทำร้ายจิตใจอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อถูกหลอกก็ไม่รู้ว่าผู้ร้ายเป็นใคร อย่างเช่นเหยื่อที่มีอาชีพเกษตรกรรายนี้ เมื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพแล้ว มิจฉาชีพยังหลอกซ้ำให้เดินทางจากต่างจังหวัดมาติดต่อที่ออฟฟิศในกรุงเทพฯ เมื่อถ่ายรูปให้ดูว่ามาถึงแล้ว ก็หลอกว่าจะมีคนมารับ เสียเวลารอทั้งวันก็ไม่พบใครมารับและติดต่อไม่ได้อีกเลย

แม้แต่ผู้ที่ระวังตัวแล้วก็ยังตกเป็นเหยื่อเพราะมิจฉาชีพ มีการโทรเข้ามาอ้างตัวเป็นพนักงานฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร และจะส่ง SMS แอปเงินกู้ที่จูงใจด้วยดอกเบี้ยต่ำ แต่ต้องโอนเงินให้มิจฉาชีพก่อน เมื่อมียอดเงินปรากฎในแอปจริง แต่ไม่สามารถถอนได้ มิจฉาชีพจะใช้กลอุบาย ขู่ว่าผู้กู้ผิดพลาด โดยจะเติมเลขต่อท้ายเพิ่มให้กับบัญชีผู้กู้ทุกคน และจะกล่าวโทษผู้กู้กรอกบัญชีผิด การขู่เรียกเงินก็เริ่มขึ้นเช่นนี้ทุกราย

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบถึงปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้นของอาชญกรรมทางออนไลน์ และหลายคดียังไม่สามารถจับกุมได้ ซึ่งจะเน้นทั้งการป้องปรามให้คนรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพทางออนไลน์ และเร่งให้ทุกโรงพัก รวบรวมคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ย้อนหลังไป 2 เดือนเพราะคดีทางอนนไลน์จะเกินขีดความสามารถของโรงพัก จะต้องเพิ่มการบริหารจัดการในภาพรวมซึ่งมีตำรวจที่ผ่านการอบรมเข้าไปเป็นพี่เลี้ยง

ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี 4 หน่วยงาน ที่รองรับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และมีตำรวจที่เข้ารับการอบรมแล้ว 6 รุ่นรวม 2พันคน เพื่อรับมือกับคดีอาชญากรรทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด