เลือกตั้งและการเมือง
ทบ.รัวโต้เฟคนิวส์เขมร อ้างไทยโจมตี 'ปราสาทพระวิหาร' ใช้ F-16 โจมตีคนเขมร ซัดกลับใช้พลเรือนโล่กำบัง
โดย petchpawee_k
26 ก.ค. 2568
439 views
วานนี้ (25 ก.ค.2568) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชา ได้ทำหนังสือถึงองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดยกล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนในการปฏิบัติการทางทหาร ทำให้ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย
ในเรื่องนี้ กองทัพบก (ทบ.) ขอเรียนว่า ปฏิบัติของกำลังทหารไทยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการตอบโต้เฉพาะต่อกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา โดยไม่ได้มุ่งเป้าไปยังพื้นที่พลเรือน หรือสถานที่ใด ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารแต่อย่างใด และพื้นที่ตัวปราสาทพระวิหารไม่ได้อยู่ในแนวทิศทางของการใช้อาวุธฝ่ายไทย
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชาที่ระบุว่าปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายจากการโจมตีของฝ่ายไทย จึงถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน รวมทั้ง ทบ.ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีความพยายามเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจากฝ่ายกัมพูชาในหลายประเด็นอย่างต่อเนื่อง
ทบ.ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างรอบคอบภายใต้หลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อบุคคลหรือทรัพย์สินที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหาร
นอกจากนี้ พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยังกล่าวถึงกรณีสื่อกัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้อากาศยานโจมตีเป้าหมายพลเรือน ตามที่มีรายงานข่าวจากสื่อบางแห่งในประเทศกัมพูชา ระบุว่า…ประเทศไทยใช้เครื่องบินรบ F-16 ติดอาวุธโจมตีฐานทัพ และพื้นที่พลเรือนในฝั่งกัมพูชานั้น ว่า กองทัพบกขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยสิ้นเชิง และเห็นว่าเป็น ข่าวบิดเบือน (Disinformation) ที่อาจถูกใช้เพื่อหวังผลต่อการรับรู้ในเวทีต่างประเทศ จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงตามลำดับดังนี้ 1.ยืนยันฝ่ายไทยใช้ปฏิบัติการทางทหารดำเนินการต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลัก จำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามทางทหาร ดำเนินการอย่างระมัดระวัง ภายใต้ หลักการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL)
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า 2.มีข้อมูลด้านการข่าวระบุว่า ฝ่ายกัมพูชา พยายามตั้งจุดยิงอาวุธสนับสนุน เช่น ปืนใหญ่ และจรวด ใกล้พื้นที่ชุมชน เข้าข่ายเป็นการใช้ “ใช้พลเรือนเป็นโล่กำบัง” (Human Shields) ซึ่ง ขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง 3.ไทยหลีกเลี่ยงเป้าหมายที่อาจกระทบพลเรือน แม้จะมีสิทธิในการตอบโต้ตามหลักการป้องกันตนเอง แต่ฝ่ายไทยพยายามไม่ดำเนินการทางทหารต่อเป้าหมายที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อพลเรือน โดยไม่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อแสดงออกถึงการให้ความสำคัญต่อมาตราฐานมนุษยธรรม
4.ทหารไทยยึดถือกติกาสากลอย่างต่อเนื่อง หากติดตามสถานการณ์มาโดยตลอดจะเห็นได้ชัดเจนว่า ฝ่ายไทยดำเนินการทุกขั้นตอนโดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตสหประชาชาติ และพันธกรณีด้านมนุษยธรรม
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า 5.การปฏิบัติการทางทหารของกองทัพบกดำเนินการบนพื้นฐานของเหตุผลความจำเป็นเคร่งครัดในกรอบกติกา ผ่านการพิจารณารอบด้าน แม้ในยามถูกยั่วยุหรือถูกใส่ร้าย และ 6.การใช้อากาศยานเพื่อนำพาอาวุธไปสู่เป้าหมายทางทหาร มีความน่าเชื่อถือสูงในความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง ต่อการทำลายที่หมายในลักษณะแบบจำกัดวง ต่างจากอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอื่นๆ ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขาดความแม่นยำต่อเป้าหมายแบบเฉพาะจุด ที่ผ่านมาจึงเป็นเหตุให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ กองทัพไทยยืนหยัดในการป้องกันตนเอง ปกป้องประชาชน และผืนแผ่นดินไทยด้วยความสง่างามให้เป็นที่ยอมรับ ภายใต้หลักสากล
แท็กที่เกี่ยวข้อง ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ,CambodiaOpenedFire ,กัมพูชาเริ่มก่อน