นายกฯ ลงพื้นที่สุรินทร์ ตรวจเยี่ยมโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว - ให้คำมั่นชาวศรีสะเกษ ได้ดิจิทัลวอลเล็ตปลายปีแน่

ภารกิจวันที่ 3 ในการลงพื้นที่ภาคอีสาน ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยช่วงเช้าวันนี้ จะลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ส่วนช่วงบ่ายจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครเพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Love Pride Parade 2024 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) และจะเดินทางกลับ มาที่จังหวัดนครราชสีมาในช่วงเย็น หลังเสร็จภารกิจที่กรุงเทพมหานคร เพื่อลงพื้นที่ต่อในการประชุมคณะรัฐมนตรีและสถานที่อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม


สำหรับภารกิจการลงพื้นที่ราชการที่จังหวัดสุรินทร์เช้าวันนี้นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว ตำบลรัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี


เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงได้ทักทายประชาชน โดยมีประชาชนขอจับมือนายกฯ พร้อมบอกว่า “โอ๊ย มือนิ่มจังเลยนายกฯ” นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านเข้ามาขอโอบกอดและถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกให้ที่เอวและมอบพวงมาลัยให้ ขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านนำเสื่อมามอบให้นายกฯด้วย โดยนายกฯรับเสื่อและอมยิ้มเล็กน้อย


จากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วบ้านสร้างบก ตำบลหนองบัวบาน อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จากนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้ระยะเวลาดำเนินการ 180 วัน งบประมาณ 15 ล้านบาท โดยนายกฯได้สอบถามความคืบหน้า ก่อนเดินดูพื้นที่โครงการ


ก่อนเดินทางไปจุดต่อไปนายกรัฐมนตรีได้แวะทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านขอให้นายกฯมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมบอกว่า “รักนายกฯเศรษฐา ดีใจที่นายกฯมาใกล้ชิดประชาชน นายกฯมาวันนี้อากาศเย็นสบาย ดีใจจังเลย เป็นขวัญใจประชาชน ชาวรัตนบุรี“ ขณะที่คุณยายถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้เจอนายกฯ บอกที่ผ่านมาไม่เคยมีนายกฯคนใดลงมาในพื้นที่


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ นายกฯยังคงใช้รถยนต์ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร คันเดิม


ขณะที่วานนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 11.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังจังหวัดศรีษะเกษ เพื่อรับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติด และเป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 พรรคเพื่อไทย ร่วมต้อนรับ


เมื่อมาถึงประชาชนได้ผูกผ้าขาวม้าให้การต้อนรับนายกฯ ขณะที่นายกฯได้เดินทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง ก่อนรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ ของพื้นที่ เช่น ปัญหาน้ำ ราคาทุเรียนภูเขาไฟ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เป็นต้น


จากนั้นรับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติด และเป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงาน


นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายในที่ประชุมว่า จากการรับฟังตัวเลขยาเสพติดของจังหวัดรู้สึกเป็นห่วง เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ สาธารณสุข การปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ช่วยกันดูแลเรื่องนี้มา ส่วนเรื่องของงบประมาณเป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องการใส่ใจก็ถือเป็นอีกเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เรื่องที่เราสามารถทำให้ผู้ที่เคยเสพและไม่กลับไปอีก 92% ถือเป็นตัวเลขที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ตัวเลขนี้เป็น 100% เรื่องเหล่านี้สำคัญ ซึ่งเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ตนได้เดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด อยากให้เป็นจังหวัดสีขาวทั้งหมด จะไม่มีผู้เสพยาเสพติดหรือติดยาเสพติด หากร้อยเอ็ดสำเร็จก็จะเอาโมเดลนี้มาทำในทุกพื้นที่


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ รวมถึงบูธทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดยประชาชนได้มอบทุเรียนและกล้วยหอมให้นายกฯ พร้อมบอกกับนายกฯว่า ให้กล้วยจะได้ทำอะไรกล้วยๆ จากนั้นนายกฯยังได้ชิมทุเรียนภูเขาไฟ


นอกจากนี้ยังมีประชาชนถือป้ายรอต้อนรับ โดยมีข้อความระบุว่า ขอบคุณนายกฯและรัฐบาลที่ทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น ,เป็นกำลังใจให้ท่านนายกเศรษฐาสู้ๆ ,หมู่เฮาฮัก นายกเศรษฐา ฮักพรรคเพื่อไทย ,ปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดด้วยเด้อ ,เงินดิจิทัล 10,000 บาท จะได้กี่โมง เป็นต้น ทั้งนี้ ยังได้มีประชาชนทวงถามเงินดิจิทัลฯโดยนายกฯ กล่าวว่า ไตรมาส 4 สิ้นปี


เวลา 14.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงวิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย และจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีตสส.สุรินทร์ เขต 6 พรรคเพื่อไทย เป็นต้น ได้มารอต้อนรับ


นายกรัฐมนตรีได้เขียนชื่อลงบนว่าว เพื่อทำพิธีเชิญว่าวขึ้นสูงเสาไม้ไผ่สูงให้เหมือนลอยขึ้นสู่บนท้องฟ้า เพื่อเป็นการสักการะบูชาคุณหลวงปู่สรวง ตามความเชื่อของชาวบ้านว่าหากใครได้ถวายว่าว พร้อมกับเขียนชื่อจริง นามสกุลจริงใส่ไว้ในว่าวที่นำมาถวายหลวงปู่สรวง จะส่งผลทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ประสบผลสำเร็จ ก้าวหน้า ยิ่งขึ้น ต่อมานายกฯได้ตีฆ้อง 3 ครั้ง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/hmxGmvcuAOk