เลือกตั้งและการเมือง
'ราชทัณฑ์' แจงยิบ พักโทษ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ ผู้ต้องหาคดีจำนำข้าว เป็นผู้ป่วยกลุ่ม 608
โดย olan_l
6 ธ.ค. 2567
64 views
กรณีกรมราชทัณฑ์ปล่อยตัว เสี่ยเปี๋ยง 1 ในผู้ต้องหาคดีจำนำข้าว ล่าสุดกรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ปล่อยตัว แต่พักโทษ เพราะเข้าข่ายเหมือนนายบุญทรง
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมทีมผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีการปล่อยตัว พักการลงโทษของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งถูกจำคุกในคดีร่วมกันทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "โครงการรับจำนำข้าว" เมื่อปี 2558 หลังก่อนหน้านี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นร้องเรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงการปล่อยตัวพักโทษดังกล่าวด้วยตัวเองแทนการออกเอกสาร
นายสมบูรณ์ ย้ำว่า การพักโทษนั้น ไม่ใช่การพ้นโทษ ผู้ได้รับการพักโทษยังคงอยู่ระหว่างการต้องโทษ ยังต้องมารายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ หากผู้ได้รับการพักโทษไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ก็จะต้องกลับสู่สถานที่คุมขัง
กรณีของ เสี่ยเปี๋ยง นาย สมบูรณ์ ศิลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ชี้แจงว่า จัดเป็นผู้ป่วยกลุ่ม 608 หรือมีอาการเจ็บป่วย 8 โรคร้ายแรง ได้แก่ โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคความดันโลหิตสูง โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับชนิดรุนแรง โรคต่อมลูกหมากโต โรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งเสี่ยเปี๋ยงเป็นโรคไต เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตสูง หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งเข้าเกณฑ์ได้รับพักโทษเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งยังรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หลังได้รับอภัยโทษมา 5 ครั้ง เหลือโทษ 21 ปี 11 เดือน 38 วัน จึงมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการเรือนจำฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติ 8 ต่อ 0 เห็นว่า เสี่ยเปี๋ยงควรได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ก่อนจะส่งต่อให้คณะอนุกรรมการของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีทั้งหมด 19 คน เป็นบุคคลทั้งจากกรมราชทัณฑ์ ตำรวจ ศาล และกรมควบคุมความประพฤติ เป็นผู้พิจารณาต่อไป
ปัจจุบันในเรือนจำคลองเปรมมีผู้ต้องขังที่ต้องฟอกไต 120 ราย แต่เป็นผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 15 ราย ซึ่งกลุ่มนี้ หากได้รับโทษครบ 1 ใน 3 ก็มีโอกาสได้รับการพิจารณาพักโทษเช่นกัน
นายแพทย์ วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เสี่ยเปี๋ยงมีอาการผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2565 ภาวะตัวบวม ปัสสาวะน้อย ไตทำงานผิดปกติ และอาการทรุดลงเรื่อยๆ จนแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีกับแพทืย์เฉพาะทางโรคไต ซึ่งลงความเห็นว่า เสี่ยเปี๋ยงมีอาการไตเสื่อมระยะสุดท้ายต้องฟอกไตทุกวัน จนเมื่อปลายปี 2566 แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี พิจารณาให้เสี่ยเปี๋ยงเข้ารับการปลูกถ่ายไต ที่โรงพยาบาลพระราม 9 หลังจากนั้นก็ต้องรับยากดภูมิต่อเนื่อง
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นาย วัชระ เพชรทอง ได้ลุกขึ้นถามคำถามทีมผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ถึงกรณีการพักโทษนายบุญทรง และเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตสร้างความเสียหายให้แก่รัฐกว่า 9 แสนล้านบาท ได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามคำพิพากษาศาลแล้วหรือไม่ กรณีนี้ ผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรม ตอบว่า ไม่มีใครเห็นข้อมูล เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ง.ในการอายัดและยึดทรัพย์สินให้เป็นของแผ่นดิน ซึ่งดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่คงเหลืออีกเท่าไรนั้น ไม่ทราบ
นอกจากนี้ นาย วัชระยังถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกจำคุก ก่อนจะที่เข้ารักษาอาการเจ็บป่วยที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ มีหลายหน่วงานขอดูเวชระเบียน รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ด้วย ได้ส่งแล้วหรือยัง นาย สมบูรณ์ ชี้แจงว่า การส่งมอบเวชระเบียนนั้น เป็นสิทธิของคนไข้ที่จะให้หรือไม่ก็ได้ ซึ่งกรณีนี้กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถส่งเวชระเบียนให้ ป.ป.ช. ได้ เพราะคนไข้ไม่อนุญาต
ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องขังในคดีจำนำข้าวอีก 2 รายที่เป็นข้าราชการระดับสูง และยังอยู่ระหว่างการได้รับโทษต้องขัง เนื่องจากต้องโทษจำคุกสูงและไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jKLJsk7JT6Y