'ทวี' แจง 'บุญทรง' ได้พักโทษ ใส่กำไล EM - ลูกเตรียมพาพ่อกลับเชียงใหม่ ไม่กังวลเสียงวิจารณ์

รมว.ทวี ยัน บุญทรงได้รับพักโทษ ตามเงื่อนไข หลังจำคุกไปแล้ว 2 ใน 3 และต้องใส่กำไล EM

วานนี้ (2 ธ.ค.2567) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 42 ปี ในคดีร่วมกันทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) หรือคดีรับจำนำข้าว เมื่อปี 2558 ล่าสุดได้รับการพักโทษ ซึ่งเป็นการพักโทษตามเงื่อนไข

เนื่องจาก นายบุญทรงได้รับการพระราชทานอภัยโทษมาแล้ว 4 ครั้ง จนกระทั่งเหลือโทษจำคุก 10 ปี และนายบุญทรง ถูกจำคุกมาแล้วกว่า 7 ปีถือว่า เป็น 2 ใน 3 ของการรับโทษ จึงเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ แต่ยังไม่ทราบว่า ได้รับการปล่อยตัวแล้วหรือไม่ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ไม่จำเป็นต้องรายงานมายังรัฐมนตรีฯ แต่การพักโทษตามกฎหมาย ยังถือว่ายังอยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติและมีเงื่อนไข

โดยการพักโทษทุกครั้ง จะมีคณะอนุกรรมการการพิจารณาการพักโทษ จากหลายฝ่าย ทั้งผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ แพทย์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คน โดยมีรองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานฯ และการพักโทษในครั้ง ก็มีผู้ได้รับการพักโทษอีกกว่าพันคน ทั้งผู้สูงอายุ และผู้ที่เหลืออัตราโทษไม่มาก โดยนายบุญทรงเป็น 1 ในนั้น

สำหรับเงื่อนไขเบื้องต้นทราบว่า นายบุญทรง อายุยังไม่ครบ 70 ปี ต้องติดกำไล EM ส่วนเรื่องอาการเจ็บป่วย ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ พิจารณาว่า จะต้องติดหรือไม่ และการพักโทษจะต้องมารายงานตัวกับกรมคุมประพฤติด้วย

ส่วนที่มีข้อสงสัยว่า การที่นายบุญทรงได้รับการพักโทษ แต่ยังอยู่ในระหว่างการควบคุมอีก 3 ปี 5 เดือน จะสามารถขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย เพื่อให้สามารถพ้นโทษก่อนกำหนดได้หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงยุติธรรม

สำหรับภาพของนายบุญทรง ที่ปรากฎก่อนหน้า ลักษณะแต่งชุดขาวไปร่วมงานศพ ในระหว่างที่ถูกคุมขังนั้น พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ไม่ได้เห็นภาพดังกล่าว แต่ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ นักโทษเด็ดขาด สามารถยื่นขออนุญาตลาไปงานศพได้ ส่วนกรณีที่นายบุญทรง ได้รับการพักโทษแล้ว ยื่นความจำนงค์ไปพักอาศัยกับผู้อุปการะหรือผู้ปกครองที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ที่ผ่านมา หากนักโทษมีผู้อุปการะหรือผู้ปกครอง อาศัยอยู่ที่จังหวัดไหนก็สามารถทำได้

ในขณะที่ผู้ต้องขังคนอื่นของคดีนี้ ในส่วนของนายภูมิ สาระผล นั้น ได้มีการรับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี โทษสุดท้ายเหลือ 8 ปี และได้รับการปล่อยตัวพักโทษตั้งแต่เดือน ก.ย. 67 และจะครบกำหนดการคุมประพฤติในวันที่ 25 ส.ค. 68 ขณะที่นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งมีโทษจำคุก 48 ปี ล่าสุดไม่ได้รับการพักการลงโทษ ยังคงอยู่ในเรือนจำฯ เนื่องด้วยยังมีคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน

----------------------------------------

ลูกชายบุญทรง เผย พาพ่อกลับเชียงใหม่พรุ่งนี้ จากนี้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว-ผ่าตัดหลัง รักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มองเป็นสิทธิ์ที่ควรได้รับการพักโทษ มั่นใจไม่มีนักการเมืองในไทย ติดคุกนานเท่าพ่อแล้ว

นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางรับพ่อออกจากเรือนจำเมื่อช่วง 10.00 น. ตอนนี้มาพักอยู่ที่บ้านที่กรุงเทพและจะพาเดินทางโดยรถยนต์ กลับบ้านที่เชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ โดยนักกรมคุมประพฤติเข้ารายงานตัวในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ช่วงแรกจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ปรับตัวเอง แล้วก็จะหาเวลาไปหาหมอ ดูเรื่องของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาน เพราะระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ 7 ปี คุณพ่อเลือกจะผ่าแค่ที่คอ เมื่อออกจากเรือนจำแล้วก็คาดว่าจะเป็นการรักษาหรือผ่าตัดที่หลัง

ทั้งนี้ เรื่องการพักโทษ เป็นการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ กับนักโทษที่เข้าเงื่อนไขได้รับการพักโทษ แล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของเราที่ควรได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอถึงรอบเขามองว่าเราเข้าข่าย เขาก็ทำเรื่องให้

เมื่อถามว่า ตอนนี้ก็เริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้รับการปล่อยตัว จะโทษทีค่อนข้างหนักหลายปี นายเดชนัฐวิทย์ กล่าวว่า "ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะคุณพ่อใช้เวลารับโทษของเขามานานพอสมควรแล้ว ตนเชื่อว่าไม่เคยมีนักการเมืองในคดีไหน ที่ติดแล้วจำคุก นานเท่าคุณพ่อของตนแล้วในประเทศไทย ตอนจนไม่ได้กังวลอะไรกับเสียงวิจารณ์"

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/E1jMyj4YINc