เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ ย้ำ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 มาแน่ ย้ำ “ยุบสภา” ตามไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค.69
4 ชั่วโมงที่แล้ว
64 views
นายกฯ ย้ำ “คนละครึ่งพลัส” เฟส 2 มาแน่ ก่อนยุบสภา ยันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ย้ำ “ยุบสภา” ตามไทม์ไลน์เดิม 31 ม.ค.69 เพื่อรักษาสัญญากับพรรคประชาชน หลังส่งให้นั่งนายกฯ แต่รับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่งบนเวที แสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ว่า ประเด็นเศรษฐกิจ ความความสามารถในการแข่งขัน ในช่วงเวลาสี่เดือนนี้ โฟกัส นโยบาย Quick Big Win ซึ่งได้ทีมเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 ท่าน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งสามท่าน มีความเข้าใจกลไกของรัฐ เป็นอย่างดี และเป็นผู้ปฏิบัติซึ่งเราเน้นเรื่องปากท้องประชาชนสำคัญที่สุด เช่น นโยบายคนละครึ่งพลัสก่อนหน้านี้ถูกกล่าวหาว่าเลียนแบบคนอื่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่เคยคิดถึงตรงนั้น คิดแค่เพียงว่าประชาชนได้อะไร หากประชาชนได้ และ กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะกี่เปอร์เซ็นต์มันก็ก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือการมีเม็ดเงินในระบบ ไม่ใช่การแจกฟรี ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนประชาชนที่อยู่ชายขอบ ก็มีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเติมเงินเข้าไปให้ ซึ่งก็ win-win จำนวนเงินที่ทุกคนจะได้เท่ากัน เฉลี่ยประมาณ 2,000 บาท ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ขวัญกำลังใจคนในประเทศดีขึ้น เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่อย่างน้อย 4 เดือนก็ได้ทำ
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็เดินหน้าเรื่องการแก้หนี้ครัวเรือน พยายามปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกิน 100,000 บาทสำหรับผู้นำประชาชนที่หาเช้ากินค่ำทั่วไปถือเป็นสิ่งที่มีความหมายและความมีความสำคัญ
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เดินหน้านโยบายไฟฟ้าชุมชน ทั้งหมด 1,500 เมกะวัตต์ทั่วประเทศ และ ชุมชนละไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ หากใช้ไม่ถึงก็สามารถขายคืน นำเงินนั้นมาเป็นกองทุนหมู่บ้าน ต้องทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจบริบทคำว่า green economy เราต้องสร้างความคุ้นเคยเรื่องนี้ให้ได้ เพราะสมัยนี้เราต้องอยู่ในโลกที่กติกาใหม่ เราต้องรักธรรมชาติให้มากที่สุด สร้างความเป็นมิตรให้โลก สร้างการแข่งขันบนเวทีโลก โดยที่รัฐบาลนี้ สร้างพื้นฐานไว้ให้รัฐบาลในอนาคต นำไปต่อยอด
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้สำเร็จในช่วงเวลา 4 เดือน ว่า คือการยุบสภา ในวันที่ 31 มกราคม 2569 นั้นคือเลทที่สุด / ส่วนโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ต่อ ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงที่เข้ามาเป็นรัฐบาลภายใน 3 สัปดาห์ / ส่วนคนละครึ่งพลัสในเฟสที่ 2 นั้น คาดว่าจะทำได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จก่อนยุบสภา
นอกจากนี้ยังมีการผลักดันค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ ที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลชุดก่อน และยกระดับความเป็นอยู่ทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น
นายกรัฐมนตรียังย้ำอีกว่าตั้งแต่ตอนเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่เคยมีกระสุนสักลูกตกเข้ามา ไม่มีจรวดไม่มีระเบิดไม่มีใครขาขาด ไม่มีพี่น้องทหารบาดเจ็บ สิ่งใดที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน เช่นการเปิดด่าน จะเป็นสิ่งสุดท้าย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ที่งาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ“Thailand’s Next Forntier : A National Economic Vision” วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่ สะท้อนแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่พรมแดนใหม่ของโอกาส การเติบโต และความยั่งยืน
นายอนุทิน กล่าวว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่าได้พยายามบรรลุทุกเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ตนบอกตัวเองว่ามีเวลาเพียง 4 เดือน ในการบริหารราชการแผ่นดินแบบเต็มรูปแบบ หรือเรียกว่าอำนาจเต็ม ซึ่งก่อนที่เราจะเข้ามาก็มีการเร่งประชุมกับทีมงานตลอด และวางกรอบการทำงาน เพื่อให้เป็น 4 เดือนที่เราจะทำงานอย่างเดียว สิ่งที่ทำได้จะทำ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ภายใน 4 เดือน จะต้องรอรัฐบาลใหม่ โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นที่มาของ Quick Big Win รวมถึงการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่มีกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ การเร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากความแย้งกับประเทศพื้นบ้าน จากการปะทะกัน และเรื่องของภัยธรรมชาติ แค่นี้ก็เยอะแล้วภายใน 4 เดือน
ส่วนการยุบสภาจะเป็นไปตามไทม์ไลน์คือวันที่ 31 มกราคม 2569 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าในบริบท 4 เดือน คือสิ่งที่เราได้มีสัญญาไว้กับพรรคประชาชนตาม MOA ที่ลงนามไว้ การติดต่อเข้ามาเป็นรัฐบาลได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาชน ว่าด้วยสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น การยุบสภา เลือกตั้งใหม่ และคืนอำนาจให้ประชาชน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่หากจำกันได้ตอนนั้นไม่มีคนยุบสภา แม้กระทั่งพรรคที่เป็นรัฐบาลอยู่ก็ยังมีประเด็นว่าจะมีนายกรัฐมนตรีที่ยุบสภาหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงหยุดปฎิบัติหน้าที่
ดังนั้น เราคุยกับพรรคประชาชนแล้วเห็นพ้องกัน ว่าผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีไม่น่าที่จะมีอำนาจยุบสภา ดังนั้น คงไม่มีวิธีการที่จะทำให้เกิดการยุบสภา ขณะที่พรรคประชาชนก็ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยเล่นตามกติกาอยู่แล้ว เพราะพรรคประชาชนมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า
นายอนุทิน ยืนยันนั่งยันนอนยันมาตลอด ว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิม มีคนคิดว่าจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นเอามาเป็นข้ออ้างได้ ผมได้ฟังแต่รับรองว่าจะไม่ปฏิบัติตามแน่นอน เพราะในฐานะที่เราร่วมกับพรรคประชาชน ก็ต้องยอมรับว่าพรรคประชาชนทำให้ผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องรักษาสัญญาที่มีให้กับพรรคประชาชน เมื่อครบ 4 เดือน ผมก็ต้องยุสภาไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น
ส่วนอาจมีการยุบสภาก่อนหากถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์แต่ละช่วงเวลา และต้องดูว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร ถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการล้างแค้นเอาคืน กว่าสภาจะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งคือเดือนธันวาคม อีกทั้งตนก็ตั้งใจจะยุบสภาวันที่ 31 มกราคม 2569 อยู่แล้ว คงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นๆฟรีๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกมการเมือง แล้วรัฐบาลสู้ทางการเมืองไม่ได้ก็ยุบสภาไป ห่างกันแค่เดือนเดียวคงไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก ดังนั้น เราจะตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แต่สิ่งที่มั่นใจได้คือรัฐบาลนี้ทำงานอย่างมีความตั้งใจเต็มที่ว่าจะทำสิ่งที่ดีที่สุดในบ้านเมือง
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีที่เข้ามาในรัฐบาลนี้มีความเสียสละมาก เพราะแต่ละท่านหากอยู่ที่เดิม ทั้งรายได้บทบาทต่างๆในอนาคตของพวกเขาอยู่ตรงนั้น แต่ตนไปพูดให้พวกเขาฟัง ว่าถ้าพวกเขาเข้ามาทำงานตรงนี้ แล้วเปลี่ยนบริบทให้ประเทศไทยได้สร้างมาตรฐานใหม่ ให้การบริหารราชการแผ่นดินไม่มีระบบโควตา ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมีความหวัง เราก็น่าจะมีประเทศไทยที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนได้เพียงชั่วข้ามคืน ถ้าเราตั้งใจที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมจริงๆ แล้วเอาประโยชน์ส่วนตนออก เอาคำว่าพรรคพวกออก ประเทศไทยจะกลับมาได้เร็ว ซึ่งตนเชื่อว่าตนมีตรงนั้นอยู่
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่ามีความพร้อมตั้งแต่เอาตนออกจากรัฐบาลแล้ว เรื่องการเลือกตั้งหากไปถามสมาชิกพรรคภูมิใจไทย วันที่เข้าสภามาเมื่อปี 2566 วาระแรกที่แจ้งเพื่อทราบกันคือเตรียมเลือกตั้ง เพราะเกิดได้ทุกวัน ตนปลูกฝังคนของพรรคภูมิใจไทยว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าพรุ่งนี้เลือกตั้งก็ต้องไปเลือกตั้ง
ส่วนมีความพร้อมที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ดีเหมือนกัน ถามว่าพร้อมหรือไม่ก็ต้องพร้อมเพราะวันนี้เป็นแล้ว แต่ตอนแรกที่ยังไม่ได้เป็นก็กลัวๆกล้าๆ แต่พอได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นว่าสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองได้ ถ้าเราทำได้ดีเรื่องจะเป็นยาวเป็นสั้นไม่ได้มีความสำคัญสำหรับตนเลย เป็นแล้วก็คือเป็น ตนเชื่อว่าต้องแต่ปี 2547 ถึง 2549 ที่ได้เป็นรัฐมนตรี แล้วมีการรัฐประหารทำให้ต้องออกจากการเมืองไป 13-14 ปี ก็มีคนเรียกตนว่ารัฐมนตรี และหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี 3-4 เดือน คนอื่นก็คงเรียกตนว่านายกฯ เหมือนที่ตนเรียกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรียกนายทักษิณ ชินวัตร ว่าท่านนายกฯ ดังนั้น ช่วงเวลาที่มีอยู่ตนจะทำให้ปังสักเรื่องให้เป็นภาพจำ การจะได้กลับมาหรือไม่ได้กลับมาก็ไม่ใช่เรื่องแล้ว เพราะเราสามารถบอกตัวเองได้แล้ว ว่าขณะที่เราเป็นนายกรัฐมนตรีเราได้ทำสิ่งเหล่านี้ไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง