เลือกตั้งและการเมือง
“กมธ.ทหาร” เผยไม่เชิญ “กัน จอมพลัง” ให้ข้อมูลเพิ่ม แต่ขอความร่วมมือส่งเอกสารอนุเคราะห์จากหน่วยงานรัฐทั้งหมด
31 ต.ค. 2568
84 views
“กมธ.ทหาร” เผยไม่เชิญ “กัน จอมพลัง” ให้ข้อมูลเพิ่ม แต่ขอความร่วมมือส่งเอกสารขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานรัฐทั้งหมด- พร้อมให้โฆษก ทบ.ส่งเอกสารคำร้องขอยุทธภัณฑ์ ยันไม่ได้ เพ่งโทษใคร แต่วางระบบการรับบริจาค และเสริมเขี้ยวเล็บให้แนวหน้า เชื่อ หาก “รบ.-รมว.กห”  ลงไปดูหน้างาน จะเข้าใจว่าต้องแก้ปัญหาอย่างไร
31 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงวาระการประชุมวันนี้เกี่ยวเนื่องจากที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา รับหลักการร่างกฎหมายเกี่ยวกับคลื่นความถี่ฯ ที่มีปัญหาทับซ้อนกัน ระหว่างสาธารณะกับบริการภาคประชาชน เนื่องจากภาคเอกชนร้องเรียนว่าการจัดสรรคลื่นความถี่อาจเกิดความไม่เป็นธรรม ทับซ้อน เนื่องจากประเภทสาธารณะที่กองทัพถือครองอยู่มีการนำไปหารายได้ แข่งขันกับผู้ประกอบการ ทำให้วิทยุชุมชนรายเล็กได้รับความเดือดร้อน กรรมาธิการจึงต้องตรวจสอบ
“ว่าคลื่นความถี่ที่ทหารถืออยู่มีการหารายได้เข้ามาอย่างไร มีการยื่นการประกอบกิจการกับ กสทช. ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่จัดการให้ มีการจัดสรรและแสดงรายได้เนื้อหาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย กสทช. หรือไม่“ นายเอกราชกล่าว
นายเอกราช ยังกล่าวว่าการประชุมเมื่อวานนี้ได้รับข้อมูลจากนายกัน จอมพลัง เพียงบางส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อยุทธภัณฑ์ ที่มีการใช้คำว่าขอความอนุเคราะห์โดยตรงและไปซื้อกับบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้เห็นรายละเอียด คาดว่าจะเป็นหน่วยทหารแนวหน้าที่ส่งคำขอยุทธพันธ์มา ผ่านมูลนิธิกันจอมพลัง ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงิน ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการหลังจากนี้คือการขอเอกสาร ที่หน่วยงานส่งคำขอต่อมูลนิธิไปทั้งหมดว่ามีรายการอะไรบ้าง กรรมาธิการยังขอเอกสารกับ พล.ท.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามกรรมาธิการได้ และตอบรับที่จะรวบรวมเอกสารส่งกรรมาธิการ ซึ่งแสดงว่าทหารแนวหน้าขาดแคลนในสิ่งที่กองทัพปฏิเสธข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาตลอด
นายเอกราช กล่าวยืนยันว่าการตรวจสอบของกรรมาธิการไม่ได้เป็นการมุ่งหมายตรวจสอบเพื่อเพ่งโทษใคร แต่เพื่อวางระบบของกองทัพ วางมาตรการแนวทางในการรับบริจาคที่ถูกต้อง พร้อมกับประกาศให้สาธารณะชนทราบว่าสิ่งใดที่กองทัพรับบริจาคได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้บริจาคทุกอย่าง และเมื่อถึงเวลาก็ดำเนินการอย่างไม่เป็นระเบียบ จึงต้องดำเนินการวางระบบให้ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน ในเรื่องนี้อาจนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติยุทธภัณฑ์ การจัดซื้อจัดจ้างซึ่งด้านหนึ่งอาจมีปัญหาเรื่องอุปสรรคต่อการจัดซื้อจัดจ้าง ที่ต้องหาทางแก้ไขปรับปรุงต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ อาจไม่ต้องเชิญ ”กัน จอมพลัง“ แล้ว กรรมาธิการจะส่งหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์เอกสาร จึงขอความร่วมมือ ในส่วนกองทัพทางโฆษกกองทัพรับปากว่าจะรวบรวมเอกสารมาให้ ที่ต้องดูว่าเอกสารดังกล่าวนั้นจะครบถ้วนหรือไม่ เพราะกรรมาธิการก็มีข้อมูลจากแนวหน้าในเรื่องการขาดแคลนและความต้องการในพื้นที่ โดยเน้นย้ำว่าทางกองทัพจะต้องไม่ปกปิดข้อเท็จจริง หรือให้เพียงแค่ดูดี
“ไม่ใช่การปกปิดข้อเท็จจริง หรือพูดไปเพียงแค่ให้ดูดี แต่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมา และช่วยกันหาทางออกก็จะเป็นสิ่งที่ที่ดีที่สุด วันนี้เรามาเสริมติดเขี้ยวเล็บและแพร่กับกองทัพ แนวหน้าตรงไหนร้องขอกรรมาธิการก็พยายามไล่บี้ เช่นตำรวจตระเวนชายแดนพบว่าขาดเยอะ สอบถามหน่วยงานรัฐได้รับคำชี้แจงอย่างเป็นที่พอใจแล้ว เช่นเดียวกันเชื่อว่าหากนายพลที่อยู่แนวหลังใส่ใจกับทหารชั้นผู้น้อย ลงไปดูหน้างาน ดูรายละเอียดนิดนึง รวมถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงไปดูหน้างานความเข้าใจจะทราบว่าต้องแก้ไขอย่างไร” นายเอกราชกล่าว
นายเอกราช กล่าวว่า หากกองทัพส่งเอกสารไม่ครบถ้วน กรรมาธิการจะรวบรวมข้อมูลเอง เพื่อปรับปรุงในเชิงนโยบาย เพื่อเสนอแนะการปฏิรูปกระบวนการจัด งบประมาณของกองทัพ ว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้หน่วยงานทหารแนวหน้าได้รับความเดือดร้อน แต่เป็นการติดเขี้ยวเล็บให้กับแนวหน้า โดยเฉพาะการจัดยุทธภัณฑ์ให้กับแนวหน้าไม่ตรงกับความต้องการนั้น อาจมองว่าผู้บัญชาการระดับบนจะมีปัญหาในการสั่งการดำเนินการ
นายเอกราช ยังเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศพร้อมสนับสนุนทหารแนวหน้า จึงต้องการรู้ว่าฐานแนวหน้าขาดยุทธภัณฑ์อะไรบ้าง ซึ่งหากทราบข้อมูลได้มากเท่าไหร่ เท่ากับว่าติดเขี้ยวเล็บได้มากเท่านั้น แต่ไม่ใช่ทำเป็นไม่รู้แล้วจัดหาแบบไม่ถูกต้อง
โดยชี้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หากสิ่งที่กองทัพต้องจัดหายุทธภัณฑ์ให้กับแนวหน้า แต่กลับให้หน่วยงานภายนอกจัดหาให้
แท็กที่เกี่ยวข้อง ข่าวการเมือง ,กันจอมพลัง