เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ เผยได้รับข่าวค่อนข้างบวก ลงนามสันติภาพ "กัมพูชา" จะถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด

26 ต.ค. 2568

118 views

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันที่ 26 ต.ค. มีการหารือกับทางเลขาธิการสหประชาชาติ จะพบกับประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า หลังจากนั้นจะมีการพบปะแบบ 4eye กับ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต่อด้วยพิธีลงนามปฏิญญากำหนดแนวทางเพื่อสร้างสันติภาพกับกัมพูชา ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย

ส่วนการพบกับ นายโดนัล ทรัมป์ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องคุยเรื่องการสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะขอการสนับสนุนเรื่องการเร่งลงนามในสัญญาทางการค้า “ภาษีทรัมป์” ซึ่งจะพยายามอย่างเต็มที่จะขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้การพิจารณาในเรื่องของอัตราภาษีให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จะเชิญ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะว่างเว้นจากการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มา 10 กว่าปีแล้ว พร้อมกันนี้จะมีการพูดคุยถึงการสนับสนุนทางด้านความมั่นคง ด้านการค้า เรื่องที่เป็นอุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงการปราบปรามสแกมเมอร์ด้วย ซึ่งจะได้พบ 5 นาที หวังว่าจะได้พบกันต่อในเวทีเอเปก ที่ประเทศเกาหลี เพราะเวทีนั้น อาจจะมีเวลามาก การประชุมตัว T กับ U ติดกัน อาจจะมีโอกาสเก็บตก ซึ่งต้องมีการดูสถานการณ์

ส่วนการลงนามสันติภาพ มีความคาดหวังมากน้อยเพียง นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การมาถึงจุดนี้มันก็มีเงื่อนไขและมีข้อปฏิบัติที่ต่างฝ่ายต่างตกลงกัน แต่ว่าการปฏิบัติจะต้องเริ่มจากทางฝ่ายกัมพูชาก่อนที่มี 4 ข้อ ที่ตนเองเคยพูดตลอดเวลา หากเป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้ ซึ่งได้รับข่าวค่อนข้างจะเป็นบวกจากทางการกัมพูชาว่า เมื่อมีการลงนามเรียบร้อย เขาก็จะดำเนินการตามเงื่อนไข 1 และ 2 คือการถอนอาวุธหนักและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดออกไป และเราก็จะเร่งในส่วนของเรา เมื่อมีความมั่นใจว่าต่างฝ่ายต่างปฏิบัติตามข้อผูกพันกันแล้ว เราก็จะส่งคืนเชลยศึก ที่เราควบคุมตัวอยู่ 18 คน ก็จะมีการจัดให้ตรวจสุขภาพของทั้ง 18 คน เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเราปฏิบัติกับเขาตามหลักสากล ตามหลักสากลเจนีวา ในการปฏิบัติต่อ POW เพื่อให้เกิดความชัดเจน กลับไปมีความสมบูรณ์ทุกคน ก็จะทำให้ประเด็นทั้งหลายดรอปลงไป แล้วก็จะหาวิธีสานต่อว่าจะปฏิบัติการต่ออย่างไรเพื่อให้ความเป็นไทยต่อการลดน้อยลง

ขณะที่หากลงนามไปแล้วกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามการลงนาม นายอนุทิน ระบุว่า ขออย่าเพิ่งไปคิดอะไรในเรื่องไม่ดี เพราะเรามีเรื่องไม่ดีมาเยอะแล้ว เราก็ต้องคิดว่ากว่าจะไปถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน มันเป็นการทำงานอย่างหนักของทั้งฝ่ายกองทัพและการทูต และการสร้างข้อตกลงนี้ขึ้นมาผ่านการเจรจาหลายระดับ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้มันก็น่าจะมีแนวโน้มที่ชัดเจนว่ามันจะต้องไปในทิศทางที่ดี เราลงนามตรงนี้ลงนามต่อหน้าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ประสานในเรื่องของการหาข้อยุติในปฏิญญานี้ พร้อมกับลงนามต่อหน้านายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เป็นประธานของอาเซียน เทียบเสมือนว่าได้ลงนามที่อาเซียนเป็นพยาน และมีประเทศผู้สานคือสหรัฐอเมริกา เป็นพยานอยู่ การจะผิดเงื่อนไขหรือทำอะไรที่มันบิดเบือนข้อผูกพันในปฏิญญานี้ เขาไม่ทำกัน

นายอนุทิน ระบุอีกว่า จะกลับมาประชุมอีก เพราะมีเรื่องของการพบปะผู้นำอีกหลายประเทศ และเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญ และมีประเด็นหลายประเด็นสำคัญและจะต้องมีการไปต่อประชุมที่เอเปก ที่จะมีการเจรจาแบบทวิภาคี ซึ่ง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเทศที่มีความสำคัญ

ส่วนคาดหวังกับการประชุมอาเซียนครั้งนี้อย่างไรนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เราทำมาทั้งหมดก็หวังใช้วิธีอาเซียนในการแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนคนไทย สามารถที่จะสร้างสันติภาพในภูมิภาคนี้ ตลอดจนการขยายตัวในเรื่องการการค้า เศรษฐกิจ ความมั่นคง ความร่วมมือต่าง ๆ ในประเทศในภูมิภาคนี้ เราอยู่ตรงกลางอาเซียน เราก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับใครคนใดคนหนึ่ง หากเราเป็นศัตรูกับใครคนใดคนหนึ่งที่เขาอยู่รอบเราอยู่ มันก็จะทำให้วงจรมันถูกตัดไป เราควรจะทำให้วงจรนี้มันกลม พอครบปุ๊บ เราก็จะอยู่ตรงกลาง เราจะเป็นไข่แดง เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เราสามารถที่จะเป็นฮับ เป็นแหล่งที่สร้างรายได้มากมาย สร้างโอกาสมากมายให้เราด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำอีกว่า เรื่องสแกมเมอร์ ก็ได้ดำเนินการแล้ว และเราจะทำอย่างเต็มที่

คุณอาจสนใจ

Related News