เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ ขอใจเย็นๆ ปมไทย-กัมพูชา สั่ง กต.ตรวจสอบ หลังสะพัดนายกฯ เกาหลีใต้แฉ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์

19 ต.ค. 2568

134 views

นายกฯ ขอใจเย็นๆ หลังถูกวิจารณ์รัฐบาลเงียบ ปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสั่งกต.ตรวจสอบ หลังสะพัดนายกฯ เกาหลีใต้แฉ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์กัมพูชา บอกคุยกับ ปธน.เกาหลีใต้สัปดาห์ก่อน ไม่มีเรื่องนี้ ลั่นหากพบผิดจริงไม่มียกเว้น

ช่วงหนึ่งของการกล่าว ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ธรรมาภิบาลทางการแพทย์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึงเรื่องการแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาโดยกล่าวว่า ขอให้ใจเย็นๆ เราไม่มีการเสียเปรียบแน่นอน มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมรัฐบาลเงียบจัง ขอถามว่าถ้าไปรบกับใคร สามารถบอกแผนการได้หรือไม่ ขอให้ทราบว่าไม่มีทางที่คนเป็นรัฐบาลไม่ว่าใครก็ตามจะยอมให้ประเทศเสียเปรียบกับประเทศใดก็ตามที่มีความขัดแย้งกับเรา เราต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศเราอย่างเต็มที่ ตอนนี้มีสื่อโซเชียลทำให้ท่านได้เสพเยอะใน 10 เรื่อง อาจจะเป็นจริงเพียง 3-4 เรื่องแต่ไม่ได้เป็นจริงทั้ง 10 เรื่อง ส่วนที่บอกว่าประเทศไทยไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยให้เขาทำฝ่ายเดียว ก็ขอให้ทราบว่าทุกวันนี้ไม่มีการยิงเข้ามา ไม่มีการรุกราน ไม่มีการยั่วยุอะไร ตามชายแดน เพราะข้อความไปถึงเขา ว่าถ้ามาก็จะจัดเต็ม ในเมื่อเขารู้ว่าถ้ามาจะจัดเต็ม เขาก็ต้องคิดและมั่นใจว่าเขาคิดแล้วว่าไม่มาดีกว่า แต่เรื่องเหล่านี้ตนเองจะไปบอกว่า ถ้าเข้ามาส่งกองกำลังไปคงเป็นไปไม่ได้ เราจะเอาสิ่งที่เราแพลนอยู่ไปบอกไม่เคยมีอยู่ในสมองของนายกรัฐมนตรีคนนี้อยู่แล้ว เราต้องทำทุกอย่าง ทราบดีว่าคนไทยต้องการอะไร ตนเองไปหาเสียงที่ไหน โดยเฉพาะคนที่อยู่ตามแนวชายแดน เรารู้ว่าเขาเดือดร้อน ถามว่าให้เปิดด่านหรือไม่ ร้อยเปอร์เซ็นต์บอกว่าไม่ให้เปิด เราฟังเขาไม่เปิดด่านจนกว่าความเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยจะหมดไป เรื่องเปิดด่านไม่มีแน่นอน ถ้าอยู่ในเขตเรา เราไล่อยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่เขตเขาเราต้องอยู่ใช้ทางสากล ซึ่งเรื่องของการเจรจาเราทำได้ไปในระดับหนึ่งแล้ว

“ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร เข้ามามีบทบาทตรงไหนก็เจอแต่ของหนักทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีปัญหา หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Been there done that แต่ผมเชื่อว่าจะผ่านสถานการณ์โควิดมาได้ อย่างน้อยก็ผ่านความอดทน ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แต่ถ้าช้าเกินไปจะถูกกระทืบ แต่สุขุมดีกว่า ให้เกิดความรอบคอบแล้วค่อยตัดสินใจ รับรอบว่าจะไม่ทำอะไรที่จะทำให้การเสื่อมเสียเกียรติภูมิ เกียรติยศ อธิปไตยอะไรเท่าไหร่ก็ต้องแลก ขอให้ท่านมีความมั่นใจ” นายอนุทินกล่าว

นอกจากนี้ นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางเพจอ้างว่า นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ออกมาระบุว่ามีนักการเมืองไทย 7 คน ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชา ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและทีมงาน สืบหาข้อเท็จจริง ขออย่ากังวลหากมีรายชื่อมา เราก็จะดำเนินการ และหากมีหลักฐานใดที่ทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีอยู่แล้ว ไม่มีข้อยกเว้น และย้ำว่าอย่ากังวลเรื่องนี้

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทางเกาหลีใต้ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ท่านยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับตนเอง และไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ถึงได้บอกว่าให้รอการตรวจสอบก่อน พร้อมถามกลับว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมาจากเพจใช่หรือไม่ หากมาจากเพจ เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะเพิ่งได้หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย แต่หากเรื่องนี้เป็นความจริงก็จะมีโอกาสได้พบกับผู้นำเกาหลีใต้ ในการประชุมเอเปกอีกสองอาทิตย์ และหากมีการเปิดเผยชื่อออกมาก่อน ก็จะดำเนินการตรวจสอบ ว่าหากมีหลักฐานก็ต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากจะให้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการตรวจสอบที่เกาหลีใต้ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมเอเปก แต่นายอนุทิน ยังฟังคำถามไม่จบ ก็พูดต่อทันทีว่า “สั่งแล้วครับสั่งแล้ว เดี๋ยวเอา LINE ให้ดูเลยว่าสั่งไปแล้ว และให้ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยในเกาหลีใต้ตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบ และปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกจากตำแหน่งเนื่องจาก ถูกกล่าวหาว่ามีความสนิท กับนาย เบน สมิธ และได้ตั้งทีมทนายความเดียวกันกับตัวเอง ไปช่วยนายเบน สมิธ ในการสู้คดี นายอนุทินกล่าวว่า การตั้งทนายความ ถ้าหากตนจะตั้งทนายมาทำคดี ก็ต้องตั้งคนที่มีความใกล้ชิดกับตน เราก็ต้องคนที่ไว้วางใจและคุยกันรู้เรื่อง จะปลดหรือไม่ปลดอยู่ที่รูปคดี อยู่ที่คำพิพากษา และการกระทำผิด ขอให้ถามเรื่องงานอย่าไปถามเรื่องชื่อบุคคลแบบนี้ไม่ได้

เมื่อถามต่อว่า ประชาชนรอดูท่าทีเชิงรุกของรัฐบาลในการปราบปราม สแกมเมอร์และ อาชญากรรมออนไลน์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ก็มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ กระทรวงดิจิทัลฯ เข้ามา ว่าสามารถดำเนินการจับกุมได้ 37 รายและอยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลต่างๆ อีกมากมาย และวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมชุดใหญ่เรื่องการปรับสแกมเมอร์ เพื่อมอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน ดำเนินการต่อยอด จากสิ่งที่เขาทำไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าหลายประเทศได้จับมือกันคว่ำบาตร และบรรยากาศทางการเงิน กลับบริษัทของกัมพูชาที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับสแกมเมอร์ ไทยจะร่วมด้วยหรือไม่ และวันพรุ่งนี้จะมีการนำเรื่องนี้เข้าร่วมหารือด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่าง เรื่องสแกมเมอร์ถือเป็นวาระของภูมิภาคนี้ วาระของโลกด้วยซ้ำ เราก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือในการปราบปราม ทุกวิถีทางและเต็มรูปแบบ

ส่วนมาตรการตัดเน็ต และการขนส่งน้ำมันที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้กับฝั่งเมียนมา จะมีการ นำมาใช้ในการปราบสแกมเมอร์ กับฝั่งกัมพูชาด้วยหรือไม่ นายกฯ ถามกลับว่า ไฟถูดตัดไหมครับ ทุกวันนี้หากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เราก็ดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีบริษัท ปริ๊นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ มีที่ตั้งอยู่ในอาคาร Sino-Thai Tower นายกรัฐมนตรี รีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ พร้อมกับพูดว่า จะต้องรีบไปเปิดงานต่อ และกล่าวต่อว่า “เขาตอบไปแล้วนี่ครับ อย่าถามนำ ไม่เกี่ยวข้องนะครับ”


คุณอาจสนใจ

Related News