เลือกตั้งและการเมือง
“ทวี” หนุนแก้ รธน. 3 ฉบับ เหน็บ “รัฐบาลอนุทิน” บุญหล่นทับ สนิท สว.
6 ชั่วโมงที่แล้ว
21 views
“ทวี” หนุนแก้ไข รธน.ทั้ง 3 ฉบับ เหน็บ “รัฐบาลอนุทิน” บุญหล่นทับ สนิท สว. ลั่นรัฐบาลหน้าต้องอยู่ไม่นาน ร่าง รธน.เสร็จควรยุบสภาทันที เพื่อใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่โหยหา
14 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเป็นประธานในที่ประชุม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตนสนับสนุนทั้ง 3 ร่างเพื่อเปิดประตูสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้ยืนยันหลักพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย รัฐสภามีอำนาจริเริ่มเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีประชาธิปไตยโดยตรง ทำประชามติสอบถามเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยตรง ซึ่งปกติจะต้องเป็นคำถามที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นประเด็นคำถามที่ไม่ควรให้เกิดความสับสน ซึ่งยังมีความกังวลว่าจะมีการใช้คำถามทำประชามติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคง ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรามีนายกฯ มาแล้ว 3 คน 2 คนแรกถูก สว.ยื่นร้องสอบคุณสมบัติต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนจะถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก และปรากฏการณ์ MOA เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยแบบพิลึก โดยฝ่ายค้านเสียงข้างมากมีเจตนาขอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันบุญหล่นทับได้เป็นนายกฯ รัฐบาลนี้จึงเป็นรัฐบาลภายใต้อาณัติมอบหมาย เนื่องจากมีคนเข้าใจว่ารัฐบาลนี้สนิทกับ สว.จำนวน 138 คน ซึ่งการสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญจะต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 หรือ 66 คน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีโครงสร้างมากเกินไป โดยเฉพาะรัฐอิสระที่เรียกว่า วุฒิสภา องค์กรอิสระ และตุลาการที่สูงเกินไปจนสามารถชี้ชะตากรรมของพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมา ส่วนที่น้อยเกินไปคืออำนาจของประชาชนและอำนาจของพรรคการเมือง รัฐบาลเสียงข้างมากถูกจำกัดไม่สามารถที่จะผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนได้ ส่วนที่ไม่มีเลยคือ กลไกการตรวจสอบกองทัพ องค์กรอิสระ หรือการปฏิรูปศาล ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การทำให้ประเทศอยู่ภายใต้กติกาที่ไม่สมดุลระหว่างอำนาจของประชาชนกับอำนาจชนชั้นนำ ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าการเมืองการปกครองเป็นเรื่องของชนชั้นนำและองค์กรอิสระไม่ใช่เรื่องของประชาชน วันเลือกตั้งเสียงของประชาชนกลับไม่มีความหมาย เกิดความเหลื่อมล้ำคุณภาพชีวิต สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งเกิดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ระหว่างเมืองกับชนบท ดังนั้นเราต้องคืนความสมดุลให้กับประชาชน
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงเหตุผลที่คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ผ่านมา เพราะห่วงว่าจะได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง ทั้งเรื่องศาสนา การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร การปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบเศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง ยกตัวอย่างผลกระทบด้านการศึกษา ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และ 2550 เขียนไว้ว่าบุคคลย่อมมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่พบว่ารัฐธรรมนูญปี 60 กำหนดไว้ว่ารัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงจบภาคบังคับ ทำให้สิทธิ์ไม่เสมอกัน ไม่ทั่วถึง ทำให้มีเยาวชนเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา และเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษาราว 2.2 ล้าน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ส่วนความเหลื่อมล้ำทางด้านเกษตร รัฐธรรมนูญฉบับก่อนระบุว่าจะอุ้มชูเกษตรกร ผลผลิตจะขายในราคาสูง แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา 73 ให้เกษตรกรไปขายในตลาด ซึ่งยิ่งถูกยิ่งดี ที่ซ้ำร้ายเจ็บปวดที่สุดคือ เกษตรกรไม่มีที่ทำกินจำนวนมาก ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อต่อเกษตรกรเหล่านี้ มีการทวงคืนผืนป่ากว่า 40,000 คดี หรือ 10,000 ชุมชน ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ มีเรื่องวินัยการเงินการคลังและยุทธศาสตร์ชาติ มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นงบการลงทุนน้อยลงมีระบบเสือนอนกินหรือสัมปทาน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อดีตเป็นบทเรียน แต่ปัจจุบันและอนาคตเป็นความรับผิดชอบของเรา เราเดินทางมาถึงการทำประชามติที่จะสอบถามประชาชน ซึ่งจะต้องพิจารณาทั้ง 3 ร่างเพื่อไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาล ไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และทำให้เจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รู้วิธีการและเนื้อหา สำคัญที่สุดคณะกรรมาธิการที่ตั้งควรใช้เวลาไม่เกิน 45 วัน ซึ่งสามารถทำร่างประชามติ ครั้งที่ 1 และ 2 รวมกัน เพื่อถามประชาชนได้ วันนี้เราต้องการรัฐธรรมนูญที่ดีไม่ใช่ลอกเลียนเอามาจากต่างประเทศ แต่รัฐธรรมนูญที่ดีต้องสามารถตอบสนองบริบทของคนไทยและสามารถตอบรับความเป็นสากลได้ รัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องมีการแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดินให้กับประชาชน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดเรื่องเศรษฐกิจ
“วันนี้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเรายังไม่ได้ร่าง แต่เรากำลังจะร่าง รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดจึงยังไม่ได้เกิดแต่กำลังจะเกิด และจะเกิดได้อยู่ที่พวกเราที่จะเปิดประตูเชื่อมต่อให้ประชาชนร่วมกันแสดงความเห็น วาระการเลือกตั้งที่จะมีหลังจากนี้ 4 เดือนจะได้สมาชิกเข้ามา รัฐบาลชุดหน้าก็ไม่ควรอยู่นาน เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็ควรมีการยุบสภา เพื่อให้ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ที่เราเรียกร้องและโหยหามานาน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทวีสอดส่อง ,รัฐบาลอนุทิน ,แก้รัฐธรรมนูญ