เลือกตั้งและการเมือง

“สุชาติ” ชูผลงานโควิดยุค “หมอหนู” มีวิสัยทัศน์เยี่ยม มั่นใจโหวตนายกฯ “อนุทิน” เอาอยู่

โดย JitrarutP

3 ก.ย. 2568

178 views

“สุชาติ” ชูผลงานโควิดยุค “หมอหนู” มีวิสัยทัศน์เยี่ยม มีประสบการณ์แก้ปัญหา มั่นใจ “อนุทิน” เอาอยู่ ลั่นโหวตนายกฯ คนที่ 32 เป็นเอกสิทธิ์ครั้งต่อไป ชี้ครั้งก่อนหนุน “แพทองธาร” หมดไปแล้วหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินพ้นตำแหน่ง

ที่พรรคภูมิใจไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเซ็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชนว่า กลุ่มของตนจากพรรครวมไทยสร้างชาติมีจำนวน 16 คน รวมทั้งพรรคร่วมที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จึงนัดหารือกัน และทานข้าวร่วมกันที่พรรคภูมิใจไทย หลังจากนี้จะกลับไปทำหน้าที่สส.ในสภาต่อ

ขณะที่การขับเคลื่อนการบริหารประเทศในช่วงระยะเวลา 4 เดือนนั้น นายสุชาติ ระบุว่า ตนเชื่อมั่นว่า ก่อนที่นายอนุทินจะมีการเซ็นข้อตกลง ต้องมีการพูดคุย และตกผลึกกันแล้วว่า 4 เดือนนี้จะเดินหน้าเรื่องอะไรก่อน ส่วนพวกตนใช้เอกสิทธิ์ในฐานะสส. ในการสนับสนุนนายอนุทิน ให้ได้รับการโหวตเห็นชอบจากสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี และขั้นตอนต่อไปต้องรับฟังหัวหน้ารัฐบาลคนใหม่

ส่วนประเด็นเรื่องการยุบสภานั้น ตนติดตามตลอด ดูตั้งแต่ขั้นตอนของกฤษฎีกาตีความ และเลขาธิการครม.มีหนังสือเวียน จึงไม่ขอก้าวล่วง เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมาย แต่ต้องฟังคนที่มีความรู้ด้านกฎหมาย พร้อมทั้งเชื่อว่า ที่กฤษฎีกามีการตีความมาได้ถกเถียงด้วยเหตุและผลแล้ว

นายสุชาติ ยังย้ำว่า กลุ่มของตนเองที่มาร่วมรัฐบาลจำนวน 16 คน มาตั้งแต่วันแรก ที่จะสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเอกสิทธิ์ของพวกตน ไม่ได้มาเพื่อประโยชน์อื่นสิ่งใด แต่มาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างสวยงาม

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวย้ำว่า ไม่ได้มีการพูดถึงขั้นตอนนั้น มีเพียงการพูดคุยเรื่องนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เราได้หารือกันมาโดยตลอดว่า เราจะเดินทางไหน ถ้าไม่มีเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวตัดสิน เราก็ยังอยู่ที่เดิม และทำงานในตำแหน่งเดิม แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเอกสิทธิ์ของพวกเราที่ต้องตัดสินใจ พร้อมมองว่า เอกสิทธิ์ที่ใช้เลือกนางสาวแพทองธาร หมดไปแล้วตั้งแต่วันที่นางสาวแพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่ง และวันนี้เป็นเอกสิทธิ์ครั้งต่อไปที่ตนจะเลือกใช้

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาสส.พรรคประชาชน บางคนเป็นไม้เบื่อไม้เมากันจะทำงานอย่างไร นายสุชาติ เชื่อว่า ทุกคนจะมองข้ามเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ เพราะเราเองในทางการเมือง นักการเมืองมีการกระทบกระทั่งกันมาตลอด แต่ก็อยู่บนพื้นฐานความจริงและความถูกต้อง เราเจอเราก็ทักทายกัน ไม่มีความอาฆาต เพราะเป็นเพื่อนสมาชิกด้วยกัน มีสิทธิ์ที่จะถกเถียงกัน

นายสุชาติ ยังกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเรื่องของความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา รวมถึงความมั่นคงชายแดน ซึ่งหากเลือกนายกรัฐมนตรีที่ทำให้การแก้ปัญหาเดินต่อไปไม่ได้ ตนก็รู้สึกผิด ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง และต้องมีวิสัยทัศน์เป็นที่ยอมรับของประชาชน ที่สำคัญที่สุดคือต้องแข็งแรง มีความเพียบพร้อมของการเป็นนักการเมือง ถ้าหากไม่มีนายกรัฐมนตรีไม่มี ความเป็นนักการเมืองเลย ก็จะไม่เข้าใจงานในสภาหรือความต้องการของสส. แต่หากเป็นนักธุรกิจอย่างเดียว ก็จะรู้แค่เรื่องธุรกิจ เราต้องรับฟังเสียงสะท้อนจากข้างล่าง แต่หากนายอนุทินชาญวีรกูล ซึ่งเป็นทั้งสส. เป็นรองนายกรัฐมนตรี

และตนเคยร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2562 ที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จริงเชื่อว่าวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาโควิด -19 ที่ผ่านมา ยังแก้มาด้วยกันได้ จึงเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์นี้ เพราะถือเป็นคนที่มีประสบการณ์ และผ่านการแก้ปัญหาโควิด-19 แต่หากคนที่มาไม่เคยเจออุปสรรค และไม่เคยแก้ไขปัญหา มาแก้ผิดแก้ถูก ลูกหลานข้างหน้าจะทำอย่างไร ยืนยันว่า ตนไม่ได้ว่าใครดีไม่ดีแต่หากมีตัวเลือกให้ 1 กับ 2 ตัวเลือก จะขอใช้เอกสิทธิ์ตนเอง

คุณอาจสนใจ

Related News