เลือกตั้งและการเมือง
"พร้อมพงศ์" แฉ 4 ดีลลับ "ปชน." ยอมโหวตให้ "ภูมิใจไทย" ทั้งที่อุดมการณ์ต่างกันสุดขั้ว
โดย nutda_t
3 ก.ย. 2568
614 views
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน มีมติโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตจากพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคประชาชนหันไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่อุดมการณ์จุดยืน อุดมการณ์คนละแนวคิด แต่สุดท้ายกลับไปร่วมมือทางการเมืองกันจนได้ ตนได้ตรวจสอบจากสื่อต่างๆ ที่ประชาชน แสดงความคิดเห็น ต่างรู้สึกเศร้าใจ ผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคประชาชน ขณะเดียวกันยังก่อให้เกิดกระแสข่าวความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชนตามมาด้วยว่า ทั้ง 2 ฝ่าย มีดีลลับอะไรกันมากกว่าที่ปรากฏตามข่าวใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น
1.กระแสข่าว 44สส. จากพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ที่มีส่วนร่วมแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 มีการรับปากจะไปตกลงเจรจาอะไรให้หรือไม่
2.กระแสข่าวการเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีคนนอก ให้พรรคประชาชน 8 ตำแหน่ง จริงหรือไม่อย่างไร
3.กระแสข่าวข้อเสนอตกลงเป็นการภายในพรรคประชาชน ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่ยกเว้นหมวด 1-2 และอาจจะรวมไปถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
4. คดีความของ สส.พรรคประชาชน ที่มีกับแกนนำที่สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย อยู่ในดีลลับครั้งนี้ด้วยหรือไม่
นี่คือคำถามที่ผู้นำพรรคประชาชนต้องตอบ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอตั้งคำถามต่อไปยังพรรคภูมิใจไทย การไปขอเสียงจากพรรคประชาชน ให้โหวตสนับสนุน ชนิดที่ยอมทุกอย่าง ให้ทุกเงื่อนไข พรรคภูมิใจไทย เคยประกาศไม่ขอร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล สส.ในพรรคไม่โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แตกต่างจากสส.เพื่อไทยทุกคน ได้โหวตให้ นายพิธา การคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากพรรคประชาชน สมาชิกพรรคภูมิใจไทยเคยยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล จากการปฏิบัติอย่าง 2 มาตรฐาน ต่อการขับสส.ออกจากพรรค รวมทั้ง สส.ของพรรค เคยอภิปรายโจมตีการแก้ไขมาตรา112 อย่างรุนแรง ขณะที่พรรคประชาชนเอง มีดีลลับอะไรแอบแฝง นอกเงื่อนไขที่หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงไว้ ถึงแม้จะพยายามให้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาลงนาม MOU ยอมรับข้อตกลงต่างๆนานา ไม่ใช่แค่ตั้ง สสร.แก้รัฐธรรมนูญ ให้นายกฯคนใหม่ อยู่ในอำนาจ 4 เดือน ยุบสภาฯ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น เพียงแค่เปิดเผยไม่ได้ ใช่หรือไม่
“ในอดีตพรรคภูมิใจไทย เคยมองพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชน อุดมการณ์ต่างกันสุดขั้ว เป็นคนละแนวคิดการเมือง อนุรักษ์นิยม กับ เสรีประชาธิปไตย ชนิดที่ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วย เป็นปลาคนละน้ำ แต่ในวันนี้ดูเสมือนว่าจะกลับตาลปัตร พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมทุกเงื่อนไข พรรคประชาชนเอง ทำตัวน่าผิดหวัง ตัดสินใจอย่างนี้ จะเป็นตราบาป ติดตัวไปตลอด และมีกองเชียร์จำนวนมากรู้สึกเศร้าใจ ขอให้เตรียมรับผลกระทบที่จะตามมาทางการเมืองด้วย” นายพร้อมพงศ์ กล่าว