“ภูมิธรรม” ยึดเจรจาหยุดยิง “ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น” ลั่นไม่เป็นไร ถูกแจ้งความทำประเทศเสียเปรียบ

“ภูมิธรรม” ยึดเจรจาหยุดยิง “ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น” หลังกัมพูชาใช้มวลชนกดดันชายแดน ไม่เป็นไรหลังถูกแจ้งความจับเหตุทำประเทศเสียเปรียบ แจงยังไม่ยุบ ศบ.ทก.

วันที่ 18 ส.ค.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ที่มีชาวกัมพูชาอพยพหนีการสู้รบมาสร้างหมู่บ้าน และไม่ยอมออกจากพื้นที่ ซึ่งจะมีการผลักดันออกจากพื้นที่หรือไม่ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ตามข้อตกลงหยุดยิงคือ ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้งในคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ในวันที่ 7-8 กันยายน ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับระบุว่า ชาวกัมพูชาไม่สามารถเข้ามาได้ เพราะตอนนี้มีการวางแนวรั้วลวดหนามไว้แล้ว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน และปลุกปั่นยั่วยุ เจ้าหน้าที่ทหารไทยตามแนวชายแดน นายภูมิธรรม ย้ำว่า รอให้มีการพูดคุยกัน เพราะการพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้นอยู่ระหว่างที่ต้องพูดคุยกันต่อ เราก็ต้องยืนยันในพื้นที่ของเรา หากฝ่ายกัมพูชาบุกรุกมา เราก็ต้อง ยืนยันเช่นกัน

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค หรือ RBC ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังกัมพูชาขอเลื่อน จากวันที่ 21 ส.ค. 68 เป็นวันที่ 27 ส.ค. 68 นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าเรายืนยันแล้ว ก็จะถูกบันทึกไปเรื่อยๆ ว่า ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือหรือไม่ แต่เรายังมีการประชุมอีกหลายระดับไม่ว่า จะเป็นคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC

นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองขอนแก่น แจ้งความดำเนินคดี​ โดยอ้างว่าทำประเทศเสียหายและเสียเปรียบในเวทีโลก กรณีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไม่ตั้งใจยิงใส่โรงพยาบาลและคนไทย ทั้งทหารลาดตระเวนขาขาด ว่าเป็นอุบัติเหตุ ว่า ไม่เป็นอะไร เพราะคนดังกล่าวเคยเป็นนักการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และก็ไม่ได้เสียงอะไรเลย ก็ว่าไปตามกฎหมาย

ถ้าคิดว่าไปแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับทำคดี และหากส่งเรื่องไปยังศาล แล้วศาลเรียกตนก็จะไป ตนว่าสบายๆ ตนคิดว่าสังคมไทยตอนนี้ต้องไปทบทวนกฎหมาย หลายอย่างเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทำอะไรก็สามารถทำได้ เรื่องนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ตนไม่มีปัญหา

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงความชัดเจนของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ว่า ครั้งที่แล้วมาถามว่าเป็นอย่างไร จึงบอกไปว่าต้องไปสรุปสถานการณ์กัน ถ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ต้องมี ให้เข้าสู่ภาวะปกติ ขอรอการประชุม ศบ.ทก.ก่อน ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ประชุม แล้วไปตีความกันว่าจะยุบ ซึ่งไม่มีเลย

และเมื่อสื่อมวลชนมาถาม ก็ได้บอกว่าขอประชุมหารือเพื่อประเมินก่อน หากคิดว่าเหมาะสมแล้วก็หยุด ถ้าคิดว่ายังจำเป็นก็ยังทำอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประชุมต่อ คงต้องรอที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ก่อน

เมื่อถามว่าในการประชุม สมช. วันนี้ จะเป็นการประเมินภาพรวมทั้งหมดใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยรวมเป็นอย่างนั้น เป็นการประชุมประเมินสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน ว่า จะกำหนดอย่างไรต่อไป รวมถึงท่าทีของเราในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา หรือ JBC และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา หรือ GBC ครั้งต่อไปด้วย ซึ่งอยู่ที่ประเด็นตามที่ สมช. เสนอมา ถ้ามีการหยิบยกขึ้นมาก็จะพูดคุยกัน ส่วนจะได้ข้อสรุปอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม

เมื่อถามต่อว่า การประชุมวันนี้จะรวมถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในประเทศด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องกัมพูชา แต่เรื่องที่เป็นองค์ประกอบ ถ้ามีการหยิบยกมาก็ไม่มีปัญหา