เลือกตั้งและการเมือง

“ธนาธร” ลั่นถ้าได้เป็นนายกฯ เปลี่ยนประเทศได้แน่ ปัดดีลลับการเมือง เชื่อ ปชน.ยึดมั่นอุดมการณ์

โดย nicharee_m

18 ก.ค. 2568

546 views

“ธนาธร” บอกเปิดเอกสารงบแต่ละนายกฯ ปิดชื่อ “บิ๊กตู่-เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง” เนื้อหาเหมือนกันเป๊ะ ซัดจัดแบบนี้ ไม่มีทางพาประเทศไปข้างหน้าได้ ลั่นถ้าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนแน่นอน! รับได้ ปชน.ดีลกับพรรคอื่น ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่ผลไม้พิษ

วันที่ 18 ก.ค. 2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน จัดโดยเครือเนชั่น ถึงการจัดงบประมาณของประเทศ ว่า ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ 2 ปี พูดได้ว่าจัดสรรงบประมาณไปปัจจุบัน ไม่มีทางพาไปประเทศไทยไปข้างหน้าได้

“ตอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอนคุณเศรษฐา ทวีสิน และคุณแพทองธาร ชินวัตร ถ้าไปดูเอกสารงบประมาณ ปิดปี ปิดชื่อนายก เนื้อหางบประมาณเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงรัฐบาลคุณประยุทธ์ เศรษฐาหรือแพทองธาร” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าธนาธรเป็นนายกฯ จะเปลี่ยนหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เปลี่ยนแน่นอน ตามนโยบายที่เรามีหลายด้าน เราจะทำให้การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และขณะเดียวกันถ้าประเทศไทยไปข้างหน้าได้ด้วย

ถ้าตั้งใจผลักดันวาระของตัวเองจริงๆ เพื่อให้ประเทศไทยไปข้างหน้าในทิศทางที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน มากน้อยเกิดผลได้แน่นอน ถ้าฝ่ายการเมืองมีเจตจำนงเพียงพอ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความก้าวหน้าที่จะผลักดันไป มากน้อยก็ผลักดันประเทศไทยให้ไปไกลกว่านี้ได้แน่นอน

เมื่อถามว่าปัญหาอะไรที่ต้องแก้บ้าง นายธนาธร กล่าวว่า มันมีหลายเรื่องของฝ่ายบริหาร หลายเรื่องเป็นของสภา แต่ต้องทำควบคู่กัน หนึ่งอย่างที่สำคัญ เครื่องมือที่จะขับเคลื่อนประเทศสำคัญที่สุดคืองบประมาณ ต้องจัดงบประมาณใหม่ ตนคิดว่าสิ่งที่เราพยายามสื่อสารกับสังคมในช่วงที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เราคิดว่าต้องเพิ่มความมั่นคงในชีวิตมนุษย์ ลดความเหลื่อมล้ำ ค่อยๆ ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น แล้วเอางบประมาณที่ไม่จำเป็นนั้น ไปเพิ่มสวัสดิการให้กับสังคม เพื่อให้คนมีความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น เวลาเราพูดเรื่องนี้ คนอาจจะนึกว่าเป็นเรื่องนามธรรม

นายธนาธร ยังเปิดกราฟ GDP ของประเทศไทย พร้อมระบุว่าดูผิวเผินก็เติบโตดี แต่จริงๆ แล้วขีดความสามารถลดลง ไม่ว่าจะมีภาษีทรัมป์หรือไม่มี ปรากฏการณ์นี้มันเกิดอยู่แล้ว ภาษีทรัมป์ทำให้น้ำลดตอผุด เห็นชัดยิ่งขึ้น เศรษฐกิจของเรามันไม่ใช่วิกฤต แต่มันค่อยโตช้าลงเรื่อยๆ

ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มันบ่งบอกว่าเราแข่งขันกับโลกไม่ได้ ดังนั้น ถ้าถามว่าจะต้องจัดสรรงบประมาณอย่างไร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคุยกันให้ชัด ไม่มีนโยบายระยะสั้น จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะยาวได้ จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะยาว ต้องทำทีละก้อน ก่อบ้านใหม่ วางทีละก้อน

“ฝ่ายบริหารมักจะพูดว่าระยะยาวมันไม่ตอบโจทย์ ผมพูดตรง ๆ ไม่มีระยะสั้นที่จะแก้ปัญหานี้ได้ภายใน 2 ปี ปัญหานี้จะแก้ไขได้อย่างเดียวคือการสร้างขีดความสามารถของประเทศให้ต่อสู้กับโลกได้ ซึ่งใช้เวลาเป็น 10 ปี ปัญหาเศรษฐกิจจะได้ภายในปีเดียวไม่มีทาง เพราะมันค่อย ๆ ซึมมาเป็น 10 ปี” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ในระยะเร่งด่วนแก้ได้หรือไม่ ว่ามีทางออก ตนอยากเชิญสังคมทุกภาคส่วน สื่อ ภารการเมือง ภาคธุรกิจ อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ใช้โอกาสนี้มาร่วมกันออกแบบ มาคิดกันใหม่ มีข่าวดีและข่าวร้าย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้ว เป็นก้าวแรกก้าวเล็กๆ ถ้าเราส่งเสียงดังพอให้เป็นการตกลงร่วมกันของสังคมว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะในปี 2569, ปี 2570 เลือกตั้งให้ทำประชามติร่วมกัน จะเป็นการลดงบประมาณ ในการทำประชามติและเป็นการรส่งเสริมกนะบวนการแลกเปลี่ยนถกเถียงในสังคม จะทำให้สุขภาพประชาธิปไตยดีขึ้น ข้อเสนอ คือ ประชามติผ่านแล้ว อย่าให้เสียของ มาทำประชามติร่วมกันในการเลือกตั้งใหญ่ มาทำประชามติร่วมกัน

นายธนาธร ได้เล่ายกเหตุการณ์ธงเขียว ในปี 2539 ซึ่งตนอยู่มัธยมปลายที่ยังไม่สนใจการเมือง ตอนนั้นนตนตื่นเต้น ถ้าใครจำสติกเกอร์ทุกอาชีพ ทั้งทหารชาวนา กลไกทางการเมืองที่เป็นกับดักเป็นเรื่องโครงสร้าง รัฐธรรมนูญ เป็นความพยายามบุคคลที่จะหยุดการเมืองไว้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นทางเดียวแก้ปัญหาหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า ปัญหานักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหานี้จะต้องแก้ที่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประชาชนเห็น แต่กฎหมายไม่เดิน ปัญหาต้องทำให้การบังคับใช้กฎหมายเดินหน้าเสมอภาคกันทุกคน ทุกพรรคทุกชนชั้น มีแต่กระบวนการฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นจะพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติได้

พรรคประชาชนเรียกร้องความยุติธรรม แต่ทำไมเป็นฝ่ายค้าน ค้านไม่เต็มบาท มีดีลอะไรหรือไม่ นายธนาธร ระบุว่า ตนคิดว่ามีความพยายามที่จะบอกว่าเพื่อนของตนที่อยู่ในพรรคประชาชน เอียงแดงบ้าง เอียงน้ำเงินบ้าง ซึ่งตนเชื่อมั่นในพวกเขา ตนเชื่อมั่นในเพื่อนที่อยู่ในพรรคว่า พวกเขาทำอะไรก็จะซื่อตรงต่ออุดมการณ์ตลอด แน่นอนที่สุดการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองมันมีแน่นอน เพราะสภาฯ มันเป็นที่ของการพูดคุยกัน เส้นต่างหากที่สำคัญ ถ้าข้ามเส้นของการเอาผลประโยชน์ของประเทศไปต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนเมื่อไหร่ ยังงี้ถือเป็นการพูดคุยที่เป็นผลไม้พิษของสังคม แต่ถ้าพูดคุยการหาทางออกร่วมกัน ก็เป็นเรื่องปกติ

เมื่อพิธีกรถามว่า ได้คุยกับผู้นำแดง ผู้นำน้ำเงิน บ้างหรือไม่ ธนาธร กล่าวว่า ในการทำงานตั้งแต่ระดับ สส. กรรมาธิการ ไปจนถึงระดับแกนนำของพรรคมีการพูดคุยกัน โดยที่ส่วนตัวของตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพูดคุยต่างๆ เหล่านี้ ถ้าลองสังเกตดูว่า ถ้ามีสัญญาณว่าแกนนำของพรรคหรือพวกเราคนไหนไปคุยกับพรรคอื่นหรือกลุ่มการเมืองอื่น และเอาผลประโยชน์เข้ากับตัวเอง ตนคิดว่าตรงนี้จะไม่มีสัญญาณ แต่เรื่องที่มีการคุยกันหรือไม่นั้น มีแน่ๆ เช่น เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือนิรโทษกรรมจะเอาอย่างไร ซึ่งมีการคุยกันเชิงประเด็นอย่างนี้ ซึ่งการพูดคุยกันของเพื่อนตนที่อยู่ในพรรคประชาชนไม่ล้ำเส้นนี้แน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

คุณอาจสนใจ

Related News