เลือกตั้งและการเมือง

“ภูมิธรรม” สั่งแก้ยาเสพติดใน 3 เดือน ขู่ย้าย “ผู้ว่า-ผู้การ-นอ-ผกก.” หากทำไม่ได้

โดย JitrarutP

17 ก.ค. 2568

268 views

“ภูมิธรรม” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และรักษาการแทนนายกฯ ประกาศเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers" ผนึกกำลังชุมชน สั่งเข้ม ต้องแก้ปัญหา “ยาเสพติด” ให้ได้ภายใน 3 เดือนขู่ย้าย “ผู้ว่าฯ-ผู้การ-นายอำเภอ-ผู้กำกับ” ทันที หากแก้ไม่ได้-มีเอี่ยว ลั่นมีทั้งกำปั้นเหล็ก-ถุงมือกำมะหยี่ตอบแทนคนทำดีและเอาผิด

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระพรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers" ผนึกกำลังชุมชมชนปลอดยาเสพติด โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมวิดีโอ conference จากสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ไปยังผู้อำนวยการเขต ผู้กำกับการ/หัวหน้าสถานีตำรวจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย Re X-Ray ทุกหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ปราบปรามผู้ค้ารายย่อยและนายทุนที่อยู่เบื้องหลังให้สิ้นจากหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างแท้จริง

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปฏิบัติการ "No Drugs No Dealers" ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่มุ่งหวังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยรัฐบาลจะติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนจะมีความปลอดภัยจากยาเสพติดอย่างแท้จริง

ขณะที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเผชิญอาชญากรรมนอกประเทศ มีการลักลอบค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย ซึ่งเป็นบ่อนทำลายร้ายแรงต่อประเทศไทยอย่างยาวนาน แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นต้นตอ แต่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเส้นทางยาเสพติดมีการแพร่ระบาดยังหมู่บ้าน ชุมชนหรือส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งสร้างปัญหาทำลายชีวิตของผู้คน ทำลายความสงบสุขของชุมชน และทำลายโอกาสดีๆ ของลูกหลานไทยไม่จบสิ้น จึงเป็นภาระแห่งชาติที่รัฐบาลตั้งใจขจัดให้หมดไป ที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่องโดยมาตรการและปฏิบัติการต่างๆทั้งการวางแผนปฏิบัติการและการแก้ไขปัญหายาเสพติดปี 2568 ได้มีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปฏิบัติการ ซีล สต็อป เซฟ เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 และมีการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ โดยขยายผลไป 10 จังหวัดนำร่อง รัฐบาลต้องการให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ และหมู่บ้านเราจึงจะสามารถขจัดปัญหายาเสพติดได้อย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลใช้ ธวัชบุรี และท่าวังผาโมเดลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

โดยครั้งนี้ รัฐบาลต้องการ ผลักดันการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระจังหวัด อำเภอและชุมชนทั่วประเทศ ผ่านการปฎิบัติการ "No Drugs No Dealers"

ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดว่าภายใน 3 เดือนนี้ หมู่บ้านชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดจะต้องหมดไป หมู่บ้านและชุมชนปลอดยาเสพติดไม่มีผู้ค้าและผู้เสพต่อไป ขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจับมือกันร่วมกันทำงานป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนโดยจะต้องมีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลและการจัดกำลัง เพื่อสนับสนุนภารกิจซึ่งกันและกัน


โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็น ผู้ว่าฯซีโอ จะต้องเป็นเจ้าภาพในการจัดการบริหารการแก้ไขปัญหา บนข้อมูลและสถานการณ์จริงผู้ว่าฯต้องรู้พื้นที่ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การทำงานให้มีเอกภาพ และประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเข้าใจและเข้าถึงประชาชนระดับจังหวัดถึงหมู่บ้าน โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึง ชรบ. 6-7 แสนคน ร่วมเอกซเรย์เฝ้าระวังตรวจตราและเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะสถานบันเทิงหากพบผู้เสพยาต้องนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูเพราะคนเหล่านี้รู้ข้อมูลในชุมชนของตัวเอง ซึ่งจะรวมพลังเป็นตาสับปะรด เอ็กซเรย์ตามความหมายที่ปปสตั้งไว้ นอกจากนี้ต้องนำกลไกการปกครองมาใช้ในพื้นที่เพื่อขยายผลไปสู่ผู้ค้ายาเสพติดและ นำตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ต่อยอดสู่การทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งระบบ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่

สำหรับการบำบัดบำบัดรักษาและฟื้นฟูขอให้ทางจังหวัดให้ความสำคัญกับสถานฟื้นฟู เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคม โดยไม่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำอีก โดยให้ร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราอยากให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด หากให้คิดว่าถ้าเป็นครอบครัว ลูกหลาน เราติดยาเสพติดจนกลายเป็นอาชญากร ตนเชื่อมั่นว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราทำอย่างจริงจังหรือไม่

“ปกติผมอยากให้กำลังใจคนทำงาน แต่หลายคนกล้าหาญกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เราต้องควบคุมพวกเรากันเอง หากพบว่าเจ้าหน้าที่นิ่งเฉย ทั้งระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ บังคับการตำรวจภูธร นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ถ้าไม่รักประเทศชาติแล้วเราจะจะอยู่กันอย่างไร”



นายภูมิธรรม ได้เน้นย้ำว่า หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จะย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายอำเภอและผู้กำกับ จะย้ายออกจากพื้นที่ทันที แล้วถูกดำเนินคดี โดยไม่ต้องรอให้มีกระบวนการต่างๆเกิดขึ้น เพราะเรามีตัวชี้วัดและการข่าวอยู่แล้ว

“วันนี้ไม่ใช่เรื่องการข่มขู่ แต่อยากจะบอกว่าถ้าเราไม่ใช้กำปั้นเหล็กในการจัดการปัญหา เราทำทั้งถุงมือกำมะหยี่และการปั้นเหล็ก ถ้าคนทำดีเราให้คุณตอบแทน ให้สามารถทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น แต่ใครที่มีส่วนร่วม ได้รับผลประโยชน์และเกิดปัญหา เราจะจัดการทันทีโดยเบื้องต้นคือการย้ายออกจากพื้นที่ วันนี้ที่เชิญมาคุยกันก็คืออยากจะขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ผมไม่เชื่อว่าพลังของหน่วยราชการทั้งหมดและคนไทยทั้งหมดจะไม่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราเอาจริงหรือไม่ และกล้าดำเนินการอย่างจริงจังหรือไม่เพราะวันนี้ถึงเวลาแล้ว ปัญหากระทบมากจึงต้องมีการนำมาแก้ไขปัญหา“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้การจังหวัดที่กำลังจะเกษียณราชการหรือไม่เกษียณราชการและมีผลประโยชน์เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งเราพบอยู่ในหลายจังหวัด ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ตรวจราชการ หากเจอปัญหาหรือแหล่งยาเสพติด ตนย้ายเลยทุกระดับ อย่างน้อย 3 เดือน ต้องเห็นการเปลี่ยนแปลง





คุณอาจสนใจ

Related News