เลือกตั้งและการเมือง

“ยิ่งชีพ” อัด สส.รัฐบาล นิรโทษกรรมให้กับข้อหากบฏ-ก่อการร้าย คนที่ตั้งใจปิดสนามบิน-สี่แยก ทำคนเสียหายเป็นพัน

โดย chutikan_o

16 ก.ค. 2568

120 views

“ยิ่งชีพ” อัด สส.รัฐบาล นิรโทษกรรมให้กับข้อหากบฏ-ก่อการร้าย คนที่ตั้งใจปิดสนามบิน-สี่แยก ทำคนเสียหายเป็นพัน ด้าน “ศศินันท์” โวย บางคนบอกโลกสวย-โง่ ย้ำ 112 ไม่พูดวันนี้ สักวันหนึ่งก็ต้องพูดอยู่ดี ลั่น เราหนีความจริงเรื่องนี้ไม่ได้

16 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งพิจารณาต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้ชี้แจงร่างของภาคประชาชน กล่าวสรุปว่า เราไม่ได้ยิน สส. คนไหนเลยที่ไม่อยากให้อภัยประชาชน ที่ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมือง และไม่เห็น สส. ท่านใด ที่ตั้งข้อรังเกียจแบ่งแยกว่าคดี ม.112 เป็นคดีที่เกินกว่าให้อภัยได้ แต่มีความเห็นต่างบางอย่างซึ่งยอมรับกันได้ว่าคดี ม. 112 มาจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา และควรได้รับการราชการหรือพิจารณาไม่ต่างจากคดีอื่น สำหรับความเห็นต่าง เราเคารพ และขอแสดงเหตุผลว่าทำไมต้องอภัยให้คนในกลุ่ม และไม่ควรทอดทิ้ง ม.112 จากคดีที่ผ่านมา

นายยิ่งชีพ ยกตัวอย่างคดีนายมงคล หรือ บาสบาส อายุ 20 กว่าปี ที่เดินทางไปร่วมชุมนุม ไม่ใช่แกนนำ ไม่ใช่นักปราศรัย ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีใครรู้จัก แต่วันที่มีคนถูกคุมขังในเรือนจำ เขาแสดงออกหน้าศาลด้วยการอดอาหารประท้วง เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัว โดนคดีรวมทั้งสิ้น 3 คดี ศาลพิพากษาจำคุก 75 ปี ลดเหลือ 54 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ในเรือนจำ และถือสถิติคนที่ถูกลงโทษด้วย ม.112 สูงที่สุดเท่าที่มีมา พร้อมตั้งคำถามว่าแบบนี้ถือว่าเป็นความเป็นธรรมหรือไม่ เรียกว่าสังคมสันติสุขหรือไม่ คดีต่อมา เป็นเรื่องของณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ พยาบาลแหวน ซึ่งเป็นพยาบาลอาสาอยู่ร่วมในเหตุการณ์คนเสื้อแดง และเป็นพยานว่าเห็นกระสุนมาจากฝั่งทหาร มีคนบุกไปจับกุมถึงที่บ้าน และนำไปขังที่ค่ายทหาร ถูกปิดตาข้ามคืนไม่ได้นอนจนตาบอบช้ำ สุดท้ายก็ไม่มีความผิด ติดคุกฟรี และคดีสุดท้ายนายธเนศ (สงวนนามสกุล) ที่ส่งอีเมลหนึ่งฉบับในปี 2553 เนื้อหาในอีเมลขอให้ชาวต่างชาติช่วยคนเสื้อแดงที่กำลังถูกสังหารในระหว่างการสลายการชุมนุม ศาลยังลงโทษจำคุก 3 ปี 8 เดือน วันนี้นายธเนศ รับโทษครบ แต่ยังกลับไปใช้ชีวิตโดยปกติสุขไม่ได้เลย

นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า ตามร่างที่มีการเสนอมาจาก สส. ฝ่ายรัฐบาล กลับพบว่าการนิรโทษกรรมให้กับข้อหากบฏ ข้อหาก่อการร้าย ให้กับคนที่ตั้งใจปิดสนามบิน ตั้งใจทำให้ผู้โดยสารเป็นพัน เป็นหมื่นคน ได้รับความเดือดร้อน ให้ประเทศเสียหาย ตั้งใจนิรโทษกรรมให้กับคนที่ยึด 4 แยกสำคัญ ๆ ของประเทศ ปิดศูนย์ราชการ และทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำให้คนในเมืองหลวงใช้ชีวิตปกติสุข เรียกว่าเป็นความสันติสุขหรือไม่ อย่าเอาคดี ม.112 มาเป็นอุปสรรคให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ เราต้องช่วยคนอีกจำนวนมาก

“ผมไม่ได้มาร้องขอท่าน แต่ถ้าวันนี้ท่านจะลงมติเพื่อให้ผมเดินกลับบ้านได้คนเดียวในคดีบางคดี และจะให้คนอื่น ๆ เดินเข้าเรือนจำ หรือหลายคนที่อยู่ในเรือนจำไม่มีโอกาสได้ออกมา ผมขอยืนยันว่าผมไม่เอานิรโทษกรรมแบบที่ท่านว่า แบบที่ได้บางคน แบบที่ไม่ได้บางคน แล้วขอร้องว่า ท่านไม่ต้องอ้างอิง เพราะเราตัดสินแทนคนที่ถูกดำเนินคดีไม่ได้ บางท่านอาจจะรับ แต่ก็มีหลายท่านที่ไม่รับ ดังนั้น ผมพร้อมที่จะเดินไปศาล พร้อมที่จะไปต่อสู้คดี“ นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวอีกว่า สส. หลายท่านที่บอกว่ามีประชาชนหลายท่านไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ม. 112 ซึ่งตรงนี้เรายอมรับว่ามีประชาชนที่เห็นเช่นนั้นจริง ๆ และเราต้องเคารพความเห็นของทุกท่าน แต่ตนก็ยืนยันว่าในประวัติศาสตร์การนิรโทษกรรมของไทยทั้ง 23 ครั้ง ทุกครั้งก็มีความเห็นที่แตกต่าง ทุกคนไม่ได้เห็นพ้องตรงกัน

ขณะที่ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวสรุปว่า เราจะส่งเสริมสันติสุขเสริมสร้างสันติสุขและสลายขั้วจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มหนึ่งไว้อย่างไร ตนฟังเพื่อนสมาชิกอภิปรายตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจนมาวันนี้ พรรคประชาชนใช้พลังมหาศาลในการแบกความหวัง ความเชื่อ ความจริงใจเพื่อเข้าไปพูดคุยกับพรรคต่างๆ แม้จะมีความเป็นไปได้เพียง 1% ก็ยินดีที่จะทำ ตนเองได้รับข้อความจาก สส.หลายคนที่บอกว่าเห็นใจ เข้าใจ และทำไม่ได้หรอกเรื่องมาตรา 112 กลัวจะถูกยุบพรรค บางคนบอกว่าการแก้กฎหมายยังมีปัญหาเลย

เกือบ 2 ปีมานี้มีผู้ต้องขังทางการเมืองยังอยู่ในเรือนจำ หลายคนระหกระเหินออกไปไกล ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา พรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากพวกเขา “พวกเขา” ไม่ได้หมายความถึงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่หมายถึงประชาชนทุกกลุ่ม หลายพรรคก็ต้องแบกความหวังของคนไว้เหมือนกัน เรากำลังถกเถียงอยู่ในห้องแอร์ว่าควรจะนิรโทษกรรมให้คนกลุ่มนั้นก่อน กลุ่มนี้ก่อน คดีนั้นยังไม่พร้อม คดีนี้ยังไม่ดี เราไม่ได้คำนึงเลยว่า กลุ่มไหนสีไหน คดีอะไร ทุกคนต่างเป็นประชาชน

เราถกเถียงกันว่าควรเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารประเทศ แล้วผู้ที่ถูกคดี 112 ไม่มีความรู้ความสามารถหรือ หลายคนมีโอกาสได้ไปต่างประเทศ ได้ทุนการศึกษา แต่ออกนอกประเทศไม่ได้ ทุกพรรคเห็นเหมือนกันว่าต้องให้โอกาสคนดีกลับเข้ามา แล้วคนอื่นที่ท่านทิ้งไว้ เขาไม่ควรได้รับโอกาสหรือ ท่านบอกว่าประชาชนกลุ่มหนึ่งจงใจละเมิดกฎหมาย หากใช้ตรรกะนี้คนอีกกลุ่มที่ท่านจะนิรโทษให้เขาไม่ได้จงใจละเมิดกฎหมายหรือ พวกท่านรู้ดีว่าแต่ละคนมาด้วยวัตถุประสงค์อะไร ทุกคนหวังดีกับประเทศไม่ต่างกัน

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย บอกว่าความเห็นยังแตกต่างกันอยู่ รอให้สังคม เห็นตรงกันก่อนค่อยผ่านกฎหมาย ขอยืนยันว่ากฎหมายหลายฉบับที่เราผ่านกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนเห็นตรงกัน อยู่ที่ว่าเรามีความกล้าหาญเพียงพอหรือไม่ ยิ่งมีความไม่เป็นธรรมมากมายเท่าไร ในสภาฯ ถกเถียงมากขนาดไหน ในศาลมีกระบวนการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมยิ่งเป็นคดีการเมือง หลายคนบอกว่าคดีมาตรา 112 เป็นคดีอาญาแล้วคดีที่อภัยโทษให้แต่ละครั้ง แต่ละคดีไม่ใช่คดีอาญาตรงไหน

เราจะส่งเสริมสันติสุข สลายขั้วออกจากความขัดแย้งโดยทิ้งคนอีกกลุ่มไว้อย่างไร ตนเองคิดไม่ออก แม้จะมีความหวังอยู่น้อยนิด การไปคุยกับพวกท่านก็รู้ว่าลึก ๆ ในใจว่ามีธงอยู่ แต่ยังเชื่อเหลือเกินว่าวันนี้ร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชนจะได้ผ่านเข้าไปเหมือนกับร่างอื่น ลำพังเสียงของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่เคยร่วมต่อสู้กันมา เราผ่านได้ทุกร่าง

“บางคนบอกว่าดิฉันโง่ ซื่อ บ้าหรือเปล่า ไปเจรจาเป็นไปไม่ได้ ทนายแจมโลกสวย แต่ดิฉันมีความเชื่อว่าลึก ๆ ในใจ รู้ว่าปัญหาคืออะไร 112 ไม่พูดสักวันหนึ่งก็ต้องพูดอยู่ดี เราหนีความจริงเรื่องนี้ไม่ได้”

นางสาวศศินันท์ ยืนยันว่าร่างของพรรคก้าวไกลไม่มีมาตรา 112 อยู่ในนี้ หลายพรรคมองว่าร่างของเราประนีประนอมมากที่สุด เป็นไปได้มากที่สุด บางพรรคชื่นชมว่าเป็นร่างที่ดีที่สุด ครอบคลุมที่สุด ร่างของพรรคก้าวไกลไม่มีตรงไหนที่ขัดกับหลักการกับร่างอื่น

“ถ้าท่านยังมีความกังวล ฝ่ายความมั่นคงมีความกังวลถึงเรื่องต่างๆก็ตาม ดิฉันเข้าใจดีการที่จะกดรับร่างของดิฉัน การที่จะกดรับร่างของภาคประชาชนมันทำได้ยาก มันตะขิดตะขวงใจอมันลำบากใจ มันกลัว มันกังวล มันอะไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุด ท่านงดออกเสียงได้ ท่านงดออกเสียงให้เราได้หรือไม่ ถ้าท่านยังเห็นว่าท่านยังต้องการจะเสริมสร้างสันติสุขตามที่ทางท่านเขียนไว้คล้าย ๆ กัน แค่งดออกเสียงก็เพียงพอที่จะให้ทุกร่างได้เข้าไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งหากว่าในหลักการแล้ว ดิฉันมีความเชื่อว่าทุกคนควรจะมีโอกาสได้รับการนิรโทษกรรมโดยไม่แบ่งแยก และนี่เป็นเพียงแค่วาระแรก ขอดึงสติทุกท่าน ว่านี่เป็นแค่วาระหนึ่ง ท่านจะปิดประตูความหวังของประชาชนตั้งแต่วาระหนึ่ง ดิฉันคิดว่าหลายท่านในที่นี้คงจะไม่ใจร้ายถึงขนาดนั้น ขอเรียกร้องความกล้าหาญทางการเมือง ถ้าพวกท่านเห็นใจเข้าใจประชาชน ก็ขอเปลี่ยนความเห็นใจนั้น เป็นกดงดออกเสียงให้กับร่างของพรรคก้าวไกลและร่างของพรรคประชาชนก็ยังดี” นางสาวศศินันท์ กล่าวอย่างมีอารมณ์





แท็กที่เกี่ยวข้อง  ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ,นิรโทษกรรม

คุณอาจสนใจ

Related News