เลือกตั้งและการเมือง

‘อนุทิน’ รับชวน ‘เนวิน’ กินข้าว ‘ทักษิณ’ โต้กระแสนายกฯคนละครึ่ง - ‘โรม’ มึน 'ภท.-พท.' ใครกันแน่เป็นแกนนำรบ.

โดย petchpawee_k

9 ต.ค. 2567

127 views

“อนุทิน”รับแล้วชวน “เนวิน”กินข้าวบ้านจันทร์ส่องหล้า บอกไปเบิร์ดเดย์บอย ด้าน"ทักษิณ" มอบแจ็คเก็ตเป็นของขวัญ ยัน ไม่เคยมีปัญหา ก่อนย้อนถามวลีเด็ด "มันจบแล้วครับนาย" ใครจะกล้าพูด โต้กระแส"นายกฯ" คนละครึ่ง เป็นไปไม่ได้ ชี้ "ครูใหญ่" อวยพรเป็น "นายกฯ" ก่อนติดตลก อวยกันมาเป็น 10 ปีแล้วยังไม่ได้เป็นเลย

วานนี้  8 ต.ค. 2567 นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายเนวิน​ ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดเข้าพบนายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ตนเป็นคนชวนนายเนวิน​ ไปรับประทานอาหารมื้อเย็น​ ที่บ้านของนายทักษิณจริง​ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายเนวิน​ ครบรอบ 66 ปี​ ก่อนจะบ่ายเบี่ยงขอพูดเรื่องงาน​ เพราะการทานข้าวเป็นเรื่องภายในเป็นเรื่องส่วนตัว


ผู้สื่อข่าวจึงพยายาม ย้อนถามถึงงานวันคล้ายวันเกิดของนายเนวิน​ ที่จังหวัดบุรีรัมย์​ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่มีข้าราชการของกระทรวงมหาดไทยไปร่วมด้วย​ จะถือว่ามีความผิดหรือไม่ หากมีผู้ไปร้อง นายอนุทิน ชี้แจ้งว่า ไปตรวจความคืบหน้าของโครงการน้ำประปา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และของรัฐบาลตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ในการมุ่งขยายโครงการให้ชาวบ้าน ให้น้ำประปาดื่มได้​


ส่วนหากมีคนยื่นร้องจะกังวลหรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ จะไปกังวลอะไรเราไปทำงาน แล้วเกี่ยวอะไรกับวันเกิดของนายเนวิน เพราะตนไปลงพื้นที่ดูเรื่อง โยธาธิการ อะไรต่างๆ พร้อมย้อนถามสื่อฯว่า แล้วตอนนี้ตนทำงานอยู่หรือเปล่า ที่ลงมาให้สัมภาษณ์ตอนนี้ก็โทรสั่งงานเรียบร้อยแล้ว


ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าในวันเกิด นายทักษิณได้มอบอะไรให้เป็นของขวัญแก่นายเนวินหรือไม่นานอนุทิน​ ระบุว่า ท่านเป็นคนใจดีให้เสื้อแจ็คเก็ตมา 1 ตัว ซึ่งตนก็ไม่ได้ พร้อมยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างนายเนวินและนายทักษิณ ว่า ไม่ได้มีการโกรธอะไรกัน


"เรื่องคำว่ามันจบแล้วครับนาย ใครก็ไม่รู้เป็นคนพูด ผมอยู่มาเป็นสิบกว่าปี​ ยังไม่เคยได้ยินเลยก็ใส่กันไป​ กล้าพูดหรอถามจริง​ กับคนที่เป็นเจ้านาย แล้วเราไปพูดคำว่ามันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอกครับ พูดมาไม่รู้กี่ครั้งก็ยังเอาคำนี้กลับขึ้นมา"


ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแสดงว่าบรรยากาศ แฮปปี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ก็ต้องมั่นใจว่าแฮปปี้ เพราะคนที่ชวนคือตน


ส่วนมีการพูดคุยถึงเรื่องตำแหน่งหรือไม่นายอนุทิน หันหน้าหนีก่อนกล่าวต่อว่าไม่เอาแล้ว เอาเรื่องอื่น พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะไปพูดคุยได้อย่างไรเพราะคนแก้ไขคือพวกผม คนที่นั่งอยู่ในครม.และสภาฯ


ส่วนที่กระแสข่าวนายกฯคนละครึ่งนั้น นายอนุทิน​ กล่าวว่า เรื่องคนละครึ่งหมดไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ตนตั้งใจมาทำงาน รับใช้สนองงานนายกฯแพทองธาร ให้ดีที่สุด​ ซึ่งนายกเรียกตนว่าอาหนูทุกคำ​ จนตนต้องไปกราบขอท่านไม่ต้องเรียกอาหนูแล้ว​ เรียกไม่ได้แล้ว จนตอนนี้ท่านเรียกท่านรองฯ ไหวทุกคนเป็นอาคนจะเข้าใจความรู้สึกเอง ว่าเรามีหน้าที่ตอบสนองอะไรเขา


นายอนุทิน​ ยังยืนยันว่า​ กระแสข่าวนายกคนละครึ่งไม่ใช่ว่าไม่ใช่เรื่องจริงแต่เป็นไม่ไปไม่ได้เลย เพราะนี่คือรัฐบาล การไปหุ้นกัน คนละครึ่ง​ คนละเสี้ยว​ เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ตนและพรรคภูมิใจไทย ตั้งใจทำงานเต็มที่ให้กับรัฐบาลชุดนี้ ส่วนที่นายเนวิน​ อวยพรให้ตนเป็นนายก นายอนุทินย้อนถามกลับว่า จะให้ท่านอวยพรว่าจะเป็นผู้จัดการฟุตบอลบุรีรัมย์หรืออย่างไร ก่อนจะกล่าวต่อว่าคนอวยพรผมมาเป็น 10 ปียังไม่ได้เป็นนายกฯ


นายอนุทินกล่าวกลับสื่อมวลชนว่า​ จบแล้วนะ​ ไม่ถามอีกแล้วเพราะตนรอนายดนัย​ พูดให้จบเฉยๆ​ และเมื่อวานก็ไม่ได้หนีแต่แกล้งผู้สื่อข่าว

----------------------------------

“โรม” มึน! พรรคไหนเป็นแกนนำรัฐบาลกันแน่ หลังมีกระแส “อนุทิน-เนวิน” ดอดพบ “ทักษิณ” ชี้ ตอนนี้ “ภูมิใจไทย” คอยชี้นำรัฐบาล หัวเราะข่าวลือ “นายกฯคนละครึ่ง” โอดเล่นผลัดกันเป็น “เก้าอี้ดนตรี” 

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์สองหล้า ว่า ตอนนี้เราเองก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่หากเป็นความจริง มันก็คงสะท้อนการเมืองหลายอย่าง อย่างแรก ก่อนหน้านี้ นายเนวินเคยพูดในทำนองว่าอยากให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในวันนี้เป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร การพูดในทำนองนี้ยอมรับว่ามันอาจจะสะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพทางการเมือง เราจะเห็นว่าบทบาทของพรรคภูมิใจไทยเป็นบทบาทที่ชี้นำหลายอย่างของการเมืองฝั่งรัฐบาลอยู่มาก


 “จนตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจว่าใครคือพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำ แล้วที่เหลือเป็นอาจเป็นพรรคร่วม เราบอกได้ว่าตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแกนนำตัวจริง เพราะการตัดสินใจหลายๆ อย่าง การพลิกไปพลิกมาที่เราเห็นของฝั่งรัฐบาล ล้วนถูกชี้นำโดยพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ถ้าเรามองในประวัติศาสตร์อาจจะพบว่าคุณเนวินกับคุณทักษิณ ก็เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและมีความขัดแย้งกันมา วันนี้ก็ต้องกลับมาร่วมกันอีก อาจจะด้วยเหตุผลทางการเมือง เขาถึงบอกว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยกันได้ เราก็ไม่รู้ว่าจะซ้ำรอยไหน รอยร่วมทุกข์ร่วมสุขหรือรอยที่มันจบแล้วครับนาย เราก็ไม่ทราบ”


 นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เราจะเห็นว่าบทบาทของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ชี้นำทางการเมือง เช่น รัฐธรรมนูญ เหล่านี้ล้วนเกิดจากพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ดังนั้น เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลที่มันไม่แน่นอน ต้องยอมรับว่ามันเกิดจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง ต่อให้มีนายทักษินเป็นกาวใจ ก็อาจจะไม่แก้ปัญหาอะไร สุดท้าย ความฝันของนายเนวินจะเป็นจริงหรือไม่ก็คงต้องติดตามก็ดูต่อไป


เมื่อถามว่าหลังจากมีการพบกันได้มีกระแสนายกฯคนละครึ่ง นายรังสิมันต์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแบ่งคนละครึ่ง แบบนี้มันไม่สมควร เพราะสำคัญที่สุดคือประโยชน์ของประชาชน การที่เราต้องมาแบ่งคนละครึ่ง ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิด การเมืองที่เราอยากเห็นคือการเมืองที่มีเสถียรภาพ มันไม่ใช่เก้าอี้ดนตรี ที่จะมาผลัดกันนั่งผลัดกันเล่น การเมืองที่เราอยากเห็นคือการเมืองที่ตรงไปตรงมา การผลัดกันในลักษณะนี้ แม้อยู่ในฝั่งพรรคร่วมเดียวกัน ไม่มีทางที่การเมืองจะมีเสถียรภาพได้ ถ้าคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ อย่าทำให้ตำแหน่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นเก้าอี้ดนตรี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uaGTmTElyoc

คุณอาจสนใจ

Related News