เลือกตั้งและการเมือง

สภาเดือด! ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ซัดกันนัว อภิปรายฝายแกนดินซีเมนต์ - ‘วิโรจน์’ แจงไม่ได้เต้นในสภาแค่ “ดิ้น” ให้ดู

โดย petchpawee_k

22 มี.ค. 2567

56 views

สภาฯ โต้เดือดปมฝายแกนดินซีเมนต์ ‘เพื่อไทย’ ท้า ‘สุรเชษฐ์’ ลาออกลั่นห้องประชุม ยัน ไม่มีฮั้วทำโครงการ จวกแรง ไม่คิดว่า สส.จะมีความคิดเช่นนี้ ชวน ลงพื้นที่ด้วย หากไม่รู้จริงอย่าเสือก เหน็บ คนมีพื้นที่ทรมาน ไม่เหมือนคนไม่มีพื้นที่พูดได้แค่บนโต๊ะ-นั่งบนเก้าอี้แล้วพร่ำไปเรื่อย - ขณะที่ วิโรจน์โพสต์แซะเพื่อไทย สร้างฝายสำคัญแต่ผลโหวตกลับเห็นชอบให้ตัดงบ แจงไม่ได้เต้นในสภา แค่ทำท่า “ดิ้น” ให้ดู

เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2 และ 3 ในมาตรา 20 กระทรวงมหาดไทย  ประเด็นฝายแกนดินซีเมนต์ เป็นไปอย่างดุเดือด มีการลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงและประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง


โดยช่วงหนึ่งหลังจากนายนายวิสุทธิ์ ไชยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิง  นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนคิดว่าหลายคนเป็น สส.มาหลายสมัยแล้ว น่าจะทราบดีว่าข้อบังคับ คือ หากผู้อภิปรายยังอภิปรายไม่จบ เราสามารถทำได้อย่างเดียวคือลุกขึ้นยืน แล้วยกมือเหนือศรีษะเพื่อประท้วงเท่านั้น การใช้สิทธิพาดพิงจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อผู้อภิปรายอภิปรายจบแล้ว ตนคิดว่าอยู่ๆ ยกขึ้นมาแล้วมีการโห่ฮาแล้วตบมือเพื่อกดดันให้ใช้สิทธิ์พาดพิงก่อนที่การอภิปรายจะจบ ตนคิดว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับ ขอให้ประธานควบคุมการประชุม และขอความกรุณา สส.ทุกคนที่ท่านทราบข้อบังคับอยู่แล้ว


ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นโต้ว่า ในเมื่อนายปกรณ์วุฒิพาดพิงชื่อตน ตนทราบข้อบังคับดี ที่ตนยกมือ ตนนั่งอยู่และเมื่อประธานในที่ประชุมเรียกตน ตนก็บอกว่าใช้สิทธิ์พาดพิง ตนไม่ได้ลุกขึ้นมาเพื่อใช้สิทธิ์พาดพิงทันที ย้ำว่าตนเข้าใจข้อบังคับดีและแม่นพอสมควร  


ตนทำถูกข้อบังคับทุกประการ ท่านประธานเป็นคนเรียกตน ท่านต้องจำได้ และที่ตนต้องลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิงก็เพราะนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ. อภิปรายแล้วพูดว่าพรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลัง ประหนึ่งว่าพวกตนจะรวมหัวกันโกงบ้านเมืองแล้วมือใครยาวสาวได้สาวเอา ตนคิดว่ามันเสียหาย  ที่ตนต้องลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์พาดพิงเพราะเป็น สส.ภาคเหนือ แล้งก็แล้ง น้ำก็ท่วม พวกตนก็คิดวิธีแก้ปัญหา พวกตนมีสามัญสำนึก ฉะนั้น ที่ไปศึกษาเรื่องฝายแกนดินซีเมนต์ ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยเขียนมา  แต่มีอาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นทำวิจัยมา และมีการทดลองทำในภาคอีสานจำนวนมาก และที่มีการทำในภาคเหนือนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย


ดังนั้นที่กล่าวหาว่าไม่มีแบบนั้นไม่จริงเพราะมีการรับรองแบบโดยกรมโยธาธิการ แต่กระบวนการนั้นเรามีเวลาน้อย วันนี้เร่งรีบต้องทำ  ก็เป็นกระทรวงมหาดไทยที่แจ้งไปยังท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ใช่มือใครยาวสาวได้สาวเอา พวกตนไม่ได้ไปบอกว่าต้องเป็นพรรคเพื่อไทยหรือพรรครัฐบาลเท่านั้นที่ได้ ทุกคนทราบกันหมด แล้วมือใครยาวหรือ ท่านต้องพูดให้ชัดเจน หากเป็นเช่นนี้มันคือการกล่าวหาใส่ร้ายกัน ตนจำเป็นต้องลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิง


“แล้วที่ท่านพูดทำเป็นคนมีความรู้ จะไปขอทำไมกรมเจ้าท่า ลำห้วยต่างหากที่เขาทำ สิ่งที่เขาทำคือลำห้วยไม่ใช่แม่น้ำ หากเป็นแม่น้ำจึงขอกรมเจ้าท่า พวกผมรู้ ท่านพูดอะไร ท่านไปดูข้อเท็จจริงด้วย เขาขุดลงไปในท้องห้วยถึง 3 เมตร ทำให้เกิดระบบน้ำใต้ดินที่ขังอยู่ด้านล่างมีความชุ่มชื้น ท่านต้องไปดูก่อน อย่าจินตนาการ และขอท้านายสุรเชษฐ์ วันเสาร์นี้ว่างหรือไม่ เราไปดูพื้นที่กันที่ไหนก็ได้ พิสูจน์ดูหากไม่จริงอย่างที่ผมพูด ผมลาออก แต่หากท่านผิดจริง ท่านต้องลาออกรับผิดชอบ เพราะโครงการนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ท่านคิดแบบนี้เป็นผู้แทนได้อย่างไร ไม่รู้อย่าเสือก” นายวิสุทธิ์ กล่าว


ทันทีที่นายวิสุทธิ์พูดจบ สส.ของพรรค พท.ต่างปรบมือให้ ทำให้นายปดิพัทธิ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในฐานะประธานในที่ประชุม กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นๆ หากไม่เห็นด้วยก็ใช้วิธีโหวตกัน และขอให้ใช้สิทธิ์พาดพิงไม่เกิน 5 นาที  ตนจะได้ควบคุมเวลาได้ เพราะเนื้อหาการพาดพิงคงจะคล้ายกัน


จากนั้นได้เปิดให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ที่ต้องคิดเรื่องฝายแกนดินซีเมนต์เพราะหลังจากที่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ จ.แพร่ ทำให้เกิดความเสียหาย เราได้รับผลกระทบจากน้ำป่ามาตลอด จึงบอกว่าต้องมีอะไรมากั้นลำน้ำเพื่อชะลอน้ำ และก่อนหน้านี้เราใช้กระสอบทรายในการกั้นน้ำ จนกระทั่งนายสังสิต เพี้ยรังสรรค์ สว. ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ท่านบอกว่าได้จับมือกับมหาวิทยาลัยทำวิจัย คือ การทำฝายแกนดินซีเมนต์ที่สามารถใช้ได้ผล เมื่อมีอุทกภัยใหญ่เราก็นำมาใช้และได้ผล  


ไม่ได้เกี่ยวกับที่ท่านบอกว่าสิ่งนี้มีเบื้องหลัง จับมือกันทำเหมือนพรรคพวกตนจับมือกับ สว.ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และที่นายวิสุทธิ์บอกให้ท่านไปลงพื้นที่ ก็ขอให้ไปเถอะ ตนจะไปด้วย ไปพิสูจน์กันว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ตนจะดูว่าหลังจากนี้นายสุรเชษฐ์ พรรคก้าวไกล จะลงพื้นที่ในภาคเหนือได้อย่างไร หากยังเอาอคติมาคิดกันแบบนี้ ตลก เรื่องนี้ท้องถิ่นเป็นคนดำเนินการ สว.เขาจับมือกันหรือ ไม่มีการจับมือกันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้แน่นอน


“สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การที่ท่านจะมากล่าวหากันเช่นนี้ มันเสียหายว่า พรรคเพื่อไทยทำเช่นนี้เพื่อประโยชน์ของพรรคเพื่อไทย ท่องไว้เลยว่าพี่น้องประชาชน ให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่าวิธีคิดของท่านถูกหรือผิด  แล้วจะได้ตัดสินในครั้งต่อไป ทุกอย่างเป็นอคติของท่านล้วนๆ ทุกอย่างเป็นจินตนาการของท่านทั้งสิ้น อคติที่ท่านคิดว่าพรรคเพื่อไทยได้รับผลประโยชน์จากความนิยมชมชอบ  


แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ เป็นการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และขอความกรุณาอย่าเอาอคติ อย่าเอาความเจ็บซ้ำ อย่าเอาชีวิตของพี่น้องประชาชนมาอคติด้วยเรื่องแค่นี้  เขาใช้เงินไม่มาก เขาไม่ทุจริตหรอก และเรื่องทั้งหมดท้องถิ่นเป็นคนดำเนินการ นี่แหละที่ท้องถิ่นเป็นคนดำเนินการแล้วทำไมท่านไม่ให้เขา ท่านเอาไปให้ใคร งบประมาณเท่านี้ท่านบอกว่าจะมีการทุจริต ขอให้ท่านกลับไปคิดใหม่ แล้วพร้อมเมื่อไหร่ลงพื้นที่ด้วยกัน แล้วครั้งต่อไปประชาชนจะพิสูจน์เองว่าใครถูกหรือผิด อะไรคือของจริง” นายวรวัจน์ กล่าว


จากนั้นนายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกุล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิงว่า คำว่า S M L ไม่ใช่เสื้อจากที่นายสุรเชษฐ์ คิดง่ายๆ จะมาดูถูกครูบาอาจารย์ที่คิดกันหลายวัน  ว่าการออกแบบฝายแกนดินซีเมนต์มีสูตรอยู่ ถ้าความลึก 3 เมตร ต้องขุดไปในแกนดินอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และสูงขึ้นไปครึ่งหนึ่งทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งการทำแบบนี้ทำในห้วย คลอง ไม่ต้องไปขอกรมเจ้าท่าอย่างที่นายสุรเชษฐ์คิด โบราณเขาปั้นเตาเผาเคี่ยวน้ำอ้อยแข็งแรงขนาดไหน พี่น้องปลายใต้น้ำจะกินผงซีเมนต์ ปัญญาอ่อนหรือไม่ คนราชบุรีปั้นโอ่งด้วยปูนทั้งลูก เอาไปส่งให้สุโขทัย


ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงนายจักรวาลให้ถอนคำว่าปัญญาอ่อน และนายจักรวาล ถอนคำพูด พร้อมกล่าวต่อว่า นายสุรเชษฐ์เอาอะไรมาพูดว่าคนใต้น้ำกินปูนซีเมนต์ ถ้าจะพิสูจน์เคยลงพื้นที่ไปที่เชียงม่วน แก่งเสือเต้นหรือไม่ เพราะเมื่อซีเมนต์ที่อยู่บนดินแข็งตัว โดยการบด อัด


“ถามว่าทำไมชาวบ้านไม่เอาฝายไม้ไผ่ พูดออกมาได้อย่างไร ก็ชาวบ้านเขาเป็นคนขอ ท่านไปดู อบต.แถวบ้านผม รองรับด้วยงบประมาณชาวบ้านทำมากี่ตัวแล้ว พะเยาทำมา 20 กว่าปี แข็งโป๊ก ผมไปดูมาและพูดในสภาหลายครั้ง ผมคนหนึ่งที่ยืนยันกับนายวิสุทธิ์ ถ้าไม่เป็นจริง ผมก็ลาออก ถ้าท้องถิ่นไม่ต้องการฝายแกนดินซีเมนต์ ต้องการฝายไม้ไผ่ที่ท่านพูด ผมก็ลาออก กล้าไปดูของจริงหรือไม่ ของแบบนี้ต้องลงไปดู คนเราเก่งจริงต้องลงไปดู คนมีพื้นที่อย่างพวกผมทรมาน คนที่ไม่มีพื้นที่อย่างคุณพูดได้แค่บนโต๊ะ อย่านั่งบนเก้าอี้แล้วพร่ำไปเรื่อย ไม่คิดว่าคนเป็น สส.จะมีความคิดเช่นนี้“ นายจักรวาล กล่าว


ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงว่า ขอให้ควบคุมเนื้อหาการประชุม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีการท้ากัน เรื่องนี้ไม่ใช่อธิบายในการพาดพิง ถามตรงๆ ว่าท้ากันในสภาฯ แบบนี้ ประชาชนได้อะไร ตนคิดว่าหากจะชี้แจงก็มีสิทธิ์ที่จะพูด แต่ไม่ใช่การท้าแบบนี้ แต่นายปดิพัทธ์ได้กล่าวขึ้นว่า ทุกคนจะได้สิทธิ์ 5 นาที ส่วนการอภิปรายที่ต้องการแก้ไขเรื่องที่ถูกพาดพิงเป็นสิทธิ์ที่สมาชิกจะทำได้ และเราท้ากันก็ไม่ผิดข้อบังคับ ถึงจะเป็นบรรยากาศที่รุนแรงเล็กน้อย จากนั้นนายปดิพัทธ์ได้ให้สมาชิกคนอื่นอภิปรายต่อ


หลังจากอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ในที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 20 ตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอ แต่หลังจากที่ลงคะแนนไปแล้วนั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนสงสัยเรื่องคะแนน เห็นหลายคนพูดคอเป็นเอ็นว่าจะคืนงบฯ ให้กับฝาย แต่ตอนลงมติกดแดง(คัดค้าน)น้อยมากเพียง 1 เสียง จึงอยากให้เช็คระบบให้ด้วย เกิดอะไรขึ้น ถูกต้องหรือไม่ ทำให้นายวิสุทธิ์ ลุกขึ้นโต้ว่า ตนไม่เคยพูดเลยว่าจะคืนงบฯ ให้กับฝาย ดังนั้นอย่ามาพาดพิง เพราะเป็นสิทธิ์ของตนที่จะลงคะแนน ตนมองภาพรวม ไม่ได้มองเรื่องเล็กๆ เพราะไม่ใช่เด็ก


ก่อนที่ นายวิโรจน์ จะทำท่าทางล้อเลียน เดินไปเต้นไป ออกจากห้องประชุม ทำให้ นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส. ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย รุกขึ้นประท้วงประธาน ว่า ปล่อยให้นายวิโรจน์ มีพฤติกรรมเต้นออกจากสภาฯได้อย่างไร พร้อมทำท่าเต้น ก่อนที่ประธานจะปิดไมค์ และบอกให้พอหอมปากหอมคอ จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณาในมาตราต่อไป


ภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2 และ 3  ลงมติให้ความเห็นชอบในมาตรา 20 งบกระทรวงมหาดไทย ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมาก ปรับลดงบประมาณ 1.5 พันล้าน


นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ X เมื่อเวลา 20.02 น. ระบุว่า  “สงสัยระบบคอมพิวเตอร์ในสภาที่นับเสียงโหวตครับ  เถียงคอเป็นเอ็น ว่าจะเอาฝายแกนดินซีเมนต์ ท้าอย่างนั้น ท้าอย่างนี้  สุดท้ายทำไมผลโหวตในสภา เสียงส่วนใหญ่โหวต "สีเขียว" เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมากที่ตัดงบโครงการนี้  ถ้าจะเอาฝาย ก็ต้องกด "สีแดง" สิ เห็นมีอยู่แค่เสียงเดียว”


ต่อมาในเวลา 20.04 น. นายวิโรจน์ โพสต์อีกครั้ง ระบุว่า “กรี๊ดสิครับ ดิ้นสิครับ ปากเอาฝาย แต่ตอนกดปุ่ม ดันกด "ไม่เอา"  ไรว้าาาาาา???”


และในเวลา 20.06 น. นายวิโรจน์ โพสต์ข้อความอีกว่า “หรือว่าโครงการ "ฝายแกนดินซีเมนต์" จะเป็นเพียง "การอภิปรายเพื่อการโฆษณาเท่านั้น”

จากนั้นเวลา 23.26 น. นายวิโรจน์ แชร์ข่าวของตัวเอง พร้อมกับโพสต์ข้อความชี้แจงว่า  “ผมไม่ได้เต้นครับ แค่ผมแสดงอาการ "ดิ้น" ให้ดูครับ  เห็นเถียงคอเป็นเอ็น พูดซะรุนแรงว่า "ฝายแกนดินซีเมนต์" จำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แถมมีการท้าทายเดิมพันด้วย  แต่พอตอนโหวต ดันโหวตตามกรรมาธิการเสียงข้างมากให้ตัดงบโครงการนี้  อ้าว! เป็นการอภิปรายเพื่อการโฆษณาเท่านั้นนี่หว่า”


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6oFLR7mu9eo

คุณอาจสนใจ

Related News