เลือกตั้งและการเมือง

'อุ๊งอิ๊ง' เยี่ยมไข้ 'ทักษิณ' แจงพ่อเครียด อ่อนเพลีย ห่วงโรคหัวใจ-ปอด ยันขออภัยโทษ เป็นดุลยพินิจของพ่อ

โดย petchpawee_k

30 ส.ค. 2566

37 views

“อุ๊งอิ๊ง” เยี่ยมไข้ “ทักษิณ” เป็นวันที่ 2 ก่อนกลับไปแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย แจง พ่อเครียดอ่อนเพลีย ห่วงอาการโรคหัวใจ-ปอด ยืนยันจะไม่ย้ายไป รพ.เอกชน เพราะเเพทย์ รพ.ตำรวจ เก่งหลายคน ห้องพักที่รักษาตัวไม่ใช่วิวสนามม้าเป็นวิวฝั่งตึก สตช. ไม่เสียใจที่ถูกวิจารณ์อภิสิทธิชน ซ่อมเเอร์เเล้ว เรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้เป็นดุลพินิจของพ่อ


วานนี้ (29 ส.ค.) เวลา 12.10 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้ายี่ยมไข้นายทักษิณ ชินวัตร บิดาที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ โดย น.ส.แพทองธาร เดินทางขึ้นไปบนอาคารจากชั้นใต้ดินผ่านลิฟท์พิเศษ ถือเป็นการเข้าเยี่ยมเป็นวันที่ 2 โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 40 นาที  ระหว่างเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร ได้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนขึ้นรถกลับออกไป



จากนั้น น.ส.แพทองธาร แถลงต่อสื่อมวลชนที่พรรคเพื่อไทย ว่าตอนนี้คุณพ่ออ่อนเพลีย เห็นได้ตั้งแต่วันที่เดินทางมาเมืองไทย ไม่ได้สดชื่นเหมือนเดิม ส่วนตัวก็เข้าใจเพราะเป็น 17 ปี ที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยและคงจะมีอาการเครียดพอสมควร โดยวันที่ 22 ส.ค. วันที่ท่านเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ครอบครัวเห็นว่าท่านเครียด และในคืนวันเดียวกันครอบครัวก็ทราบพร้อมสื่อว่าคุณพ่อถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจและวันนี้ที่ไปเจอก็เห็นว่าท่านมีอาการอ่อนเพลีย


ถามว่าทางครอบครัวเป็นห่วงอย่างไรบ้าง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ปี 2563 คุณพ่อเป็นโควิดตั้งแต่รุ่นอู่ฮั่น มีอาการหนักมาก เข้าห้องไอซียู ไป 9 วัน รวมเวลาอยู่โรงพยาบาลไป 1 เดือน เมื่อออกมาน้ำหนักหายไป 10 กิโลกรัม ตอนนี้ก็ยังมีจุดอยู่ที่ปอด ซึ่งคุณพ่อพยายามออกกำลังกาย เพื่อให้ฟื้นตัว ถือว่ากลับมาได้เยอะแล้วสำหรับคนอายุ 74 ปี และบวกกับมีความเครียด แต่โดยรวมคุณพ่อดีใจที่ได้เจอกับตน


พร้อมย้ำว่าคุณพ่อมีความเครียดและเหนื่อย และส่วนตัวมองว่าท่านมีความเปลี่ยนแปลงเพราะตอนที่อยู่เมืองนอกสามารถไปไหนได้ ไม่ต้องเป็นคนอายุ 74 ปี เป็นใครก็ตามหากต้องเปลี่ยนที่อยู่ ต่อให้ไม่ใช่ราชทัณฑ์หรือโรงพยาบาล ก็ทำให้มีความรู้สึก และตนขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงคุณพ่อซึ่งทีมแพทย์ล้วนมีความสามารถ



 เมื่อถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวให้เป็นดุลยพินิจของคุณพ่อจะจัดทำเมื่อไหร่ ก็ให้คุณพ่อเป็นคนจัดการ เมื่อถามว่า อาการนายทักษิณ จำเป็นต้องย้ายตัวออกมาที่โรงพยาบาลเอกชนตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่มี เพราะที่โรงพยาบาลตำรวจมีคุณหมอเก่งๆเยอะมากและเราไม่ได้ขอย้ายไปที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด



 เมื่อถามว่าทางแพทย์ได้ประเมินหรือไม่ว่าต้องใช้เวลารักษาตัวนานเท่าใด นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนได้สอบถามกับทางแพทย์แต่ยังไม่มีความชัดเจนเพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เมื่อถามว่า กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันที่กลับมาเมืองไทย ตอนนี้ติดขัดอะไรถึงยังไม่ดำเนินการ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีอะไรติดขัด แต่เรื่องของการร่างขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องของคุณพ่อที่จะเลือกเวลาและทำรายละเอียดต่างๆ ตามกระบวนการ คุณพ่อทำคนเดียวตนไม่ทราบรายละเอียด



ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สังคมไม่เชื่อว่านายทักษิณ ป่วยจริงรู้สึกเสียใจหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าตนไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือไม่เสียใจแต่ตนเป็นห่วงคุณพ่อรวมถึงคนที่เป็นห่วงท่าน เมื่อถามถึงสภาพห้องพักของนายทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ห้องนายทักษิณ อยู่ฝั่งที่มองไปเห็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นห้องปกติ ส่วนที่มีข่าวว่าเครื่องปรับอากาศเสีย ตอนนี้ซ่อมแล้ว



เมื่อถามว่าจากการพูดคุยกับนายทักษิณ เป็นห่วงเรื่องอะไรพิเศษหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องหัวใจ ส่วนเรื่องปอดเป็นเรื่องเดิมที่เป็นอยู่ หากเป็นอะไรจะไม่รวดเร็วเท่าเรื่องหัวใจ ส่วนตัวจึงเป็นห่วงเรื่องหัวใจมากที่สุด แต่รายละเอียดทางการแพทย์ อยากให้ถามทางการแพทย์


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/dthBPBg3Qb0

คุณอาจสนใจ

Related News