เลือกตั้งและการเมือง

‘ลุงมือตบ’ ไม่กังวล ‘ศรีสุวรรณ’ ปากแตก ลั่นตบเพราะหมั่นไส้ เหตุร้องไม่เป็นเรื่อง ยันไม่มีคนจ้าง

โดย nattachat_c

12 พ.ค. 2566

171 views

บุกต่อย พ่อนักร้อง ศรีสุวรรณ หน้า กกต.จนปากแตก หลังให้สัมภาษณ์ ปมร้องให้เร่งสอบ "พรรคเพื่อไทย" กรณีเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขณะที่เจ้าตัวยืนยันการร้องเรียนเป็นสิทธิของประชาชน ก่อนโร่แจ้งความที่ ทุ่งสองห้อง ลั่นไม่รับคำขอโทษ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ก่อนเผย คงอดกินน้ำพริกหลายวัน เตรียมเสริมทีมดูแลความปลอดภัยหลังเพื่อนเป็นห่วง

ด้านอดีตอาจารย์ มือชก เปิดปากเล่า ไม่ได้ต่อยแค่ตบปากแตก ชี้ไม่ได้เตรียมการมา แค่มาทำธุระแล้วบังเอิญเจอ เผยหมั่นไส้ร้องเรียนตะพึดตะพือ ยันไม่ได้รับจ้างใคร-ทำเพื่อสังคม ไม่ห่วงเรื่องเรียกค่าเสียหาย


วานนี้ (วันที่ 11 พ.ค. 66) เวลา 11.15 น. เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ถูกนายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชนที่เกษียณแล้ว ซึ่งมาทำธุระที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วบังเอิญเจอนายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์ ทำให้หยุดฟัง และอัดคลิปการให้สัมภาษณ์จนจบ


เมื่อนายศรีสุวรรณสัมภาษณ์เสร็จ แล้วกำลังเดินทางกลับ ขณะนั้นสื่อมวลชนกำลังจะสัมภาษณ์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายทศพลได้เดินเข้าไปทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ จนปากแตก และตะโกนด่าทอเสียงดังด้วยอารมณ์โมโห ว่า “ไอ้…ร้องตะพึดตะพือเลย ไอ้… เป็นประชาธิปไตยร้องตะพึดตะพือ ไอ้… ไปร้องสิ ค่าไฟฟ้าขึ้นราคา” และพยายามเดินเข้าไปหานายศรีสุวรรณ แต่ผู้ติดตามนายศรีสุวรรณได้ห้ามไว้


ทำให้นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า “เป็นสิทธิของประชาชนอยู่แล้ว คุณเป็นใคร มาชกผมอย่างนี้” นายทศพล ตอบว่า “แล้วมึงเสียหายหรือยังไง เป็นผู้เสียหายหรือไม่ ไอ้… กูเป็นประชาชน ไอ้… ร้องทุกพรรคเลย”


นายศรีสุวรรณ จึงถามกลับว่า “คุณมาทำร้ายผมทำไม” นายทศพล ตอบโต้ว่า “ทำไม ร้องมั่วเลย” นายศรีสุวรรณ จึงตอบกลับว่า “มันเป็นสิทธิของผมอยู่แล้ว แล้วคุณมีสิทธิอะไรมาชกผม”


นายทศพล จึงบอกว่า “ทำไม” และพยายามวิ่งเข้าหานายศรีสุวรรณอีกครั้ง สื่อมวลชนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อให้แยกทั้งสองคนออกจากกัน


นายทศพล ตะโกนเป็นระยะว่า “ดีแต่ร้องพรรคก้าวไกลอย่างนี้ พรรคเพื่อไทยอย่างนี้ ร้องแม่งมั่วเลย” นายศรีสุวรรณจึงตอบว่า “เดี๋ยวไปเจอกันในศาล”


จากนั้น นายศรีสุวรรณ อยู่ในอาการตกใจ ได้เปิดหน้ากากให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่า มีแผลเลือดออกเต็มปากที่ริมฝีปากล่าง พร้อมกล่าวว่า ตนจะไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง พอออกจากวงสัมภาษณ์ เขาก็มาชกทันที ตนไม่เคยเจอนายทศพลมาก่อน ซึ่งระหว่างนั้น นายทศพลก็พยายามตะโกนด่าทอ รปภ.จึงได้เข้ามาแยก


ขณะที่ นายทศพล กล่าวว่า ตนไม่พอใจนายศรีสุวรรณ มันร้องพรรคเพื่อไทยบ้าง ก้าวไกลบ้าง ร้องไม่เข้าเรื่อง ควรปล่อยให้เขาไปเลือกตั้ง จะผิดหรือถูกเป็นเรื่องของ กกต. ร้องแม่งมั่วเลย


เมื่อถามว่า ทำไมถึงเลือกใช้วิธีการด้วยความรุนแรง นายทศพลกล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วย ร้องอย่างนี้


เมื่อถามว่า ตั้งใจมาดักรอนายศรีสุวรรณหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งใจมารอ มาทำธุระแล้วเห็นพอดี แต่เห็นมานานแล้ว มาร้องไม่เข้าเรื่อง ส่วนเรื่องที่ตนไม่พอใจในที่สุด คือ ตอนนี้เป็นประชาธิปไตย กำลังหาเสียงเลือกตั้งกันอยู่ อย่าไปขวางทาง มันไม่ถูกต้อง


เมื่อถามว่า นายศรีสุวรรณจะดำเนินคดี นายทศพลกล่าวว่า “ก็แจ้งความไปสิ แต่ศรีสุวรรณไปร้องนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขาผิดอะไร”


เมื่อถามว่า ได้ต่อยจริงหรือไม่ นายทศพลกล่าวว่า ตบไปทีเดียว ก็เห็นอยู่แล้ว ตนอยากจะรู้ว่ารับจ้างมาหรือไม่ ส่วนความผิดก็ว่าไปตามกฏหมาย คนแบบนี้ไม่อยู่ในสังคมประชาธิปไตย ขัดขวางทุกสิ่งทุกอย่าง ผมไม่ชอบ


แม้ว่า ขณะนั้นจะมีสื่อมวลชนหลายสำนักอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ทุกคนหันไปสนใจนายเรืองไกร ที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ จึงไม่มีใครบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทัน และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว


ด้านนายเรืองไกร เมื่อเห็นเหตุการณ์ก็ได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายศรีสุวรรณ ก็ได้เปิดแมสก์ เพื่อเปิดแผลให้นายเรืองไกรดู ซึ่งต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เปิดเผยว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ กกต. ได้พานายทศพลไปรอในห้องพักคอยของสำนักงาน เพื่อรอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ภายหลังจากที่นายศรีสุวรรณเดินทางไปแจ้งความแล้ว


สำหรับการทำร้ายนายศรีสุวรรณ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นกลางวงสัมภาษณ์ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ห่างจากครั้งนี้ประมาณครึ่งปี
-------------
วานนี้ (11 พ.ค. 66) นายศรีสุวรรณ จรรยา เดินทางมาแจ้งความ และลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลังถูกนายทศพล ธนานนท์โสภณคุณ อาจารย์เกษียณราชการ วัย 67 ปีทำร้ายร่างกายโดยการตบจนริมฝีปากแตก ขณะเจ้าตัวมายื่นหนังสือร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตนมาแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมให้การกับตำรวจไปแล้ว หลังจากนี้จะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมนำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อ คาดว่าจะสามารถส่งฟ้องศาลได้ภายหลัง 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณาเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท


นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าตัวเองจะมาถูกทำร้ายร่างกายซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่ก็มีคนอื่นเข้ามาร้องเรียน รวมถึงตัวแทนผู้สมัครพรรคการเมืองต่างๆ เช่นกัน และการร้องเรียนดังกล่าวก็ถือเป็นสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้น ถือว่าการทำร้ายร่างกายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น และย้อนแย้งกับคำพูดเรื่องหลักประชาธิปไตย


ยอมรับว่า มีความวิตกกังวลว่าอนาคตอาจจะมีเหตุเกินเลยกว่านี้ ซึ่งหลังเกิดเรื่องก็มีหลายฝ่ายติดต่อเข้ามาว่าต้องการจะจัดทีมรักษาความปลอดภัยมาให้ แต่ตนก็จะร้องเรียนให้มากขึ้น ไม่ถือเป็นเรื่องเจ็บแค้นโกรธเคือง


ส่วนคดีเก่าที่ตนถูกลุงศักดิ์ ต่อยที่กองปราบปรามนั้น ตนได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านบาท เหตุเพราะกระทบความรู้สึกและตัวเองก็เป็นที่รู้จัก ทำให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรี นับว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงเกินไป เพราะคู่กรณียังไลฟ์สดเปิดรับบริจาคได้เงินมามากมาย แต่ได้พูดคุยกันแล้ว คู่กรณีไม่ยอมจ่าย แม้แต่บาทเดียวก็ไม่ให้ ขอบอกไว้ว่าทั้งคดีเก่าและคดีล่าสุดนั้น ไม่ต้องมาพูดคุยหรือขอโทษตนให้เสียเวลา

-------------

ด้านนายทศพล กล่าวหลังก่อเหตุตบหน้านายศรีสุวรรณ  ว่า


ตนเดินทางมาทำธุระที่ศูนย์ราชการ แล้วเห็นว่าสื่อมวลชนกำลังสัมภาษณ์นายศรีสุวรรณ ก็รอฟังจนเสร็จ แล้วคิดว่าอีก 2-3 วัน กำลังจะเกิดการเลือกตั้งแล้ว มองว่าเป็นการร้องเรียนพร่ำเพรื่อ จะผิดหรือถูกก็ต้องเป็นหน้าที่ กกต.ในการพิจารณาเอง ถือเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ต่อสังคม เป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตยโดยตรง จึงเข้าไปตบเพื่อสั่งสอนเพียงครั้งเดียว แต่หากไม่มีคนห้าม คงทำยิ่งกว่านี้


ยืนยันว่า ทำไปในนามส่วนตัว ทั้งนี้ ตนไม่กังวล เพราะรู้ว่าหลังกระทำไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ตนทำไปเพราะหมั่นไส้ ร้องเรียนไม่เป็นเรื่อง ยืนยันตนไม่เคยรับจ้าง และไม่รู้จักกันมาก่อน มองว่าควรไปร้องเรียนเรื่องราคาไฟฟ้าที่สูงขึ้นมากกว่า  ประชาชนจึงจะเห็นด้วย


เมื่อถามว่า เป็นพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีผู้ที่ลงมือต่อยหน้านายศรีสุวรรณ นายทศพล ตอบว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว


ส่วนกรณีเป็นกังวลหรือไม่ที่มีการเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท นายทศพล ระบุว่า ไม่เป็นไร ตนทำเพื่อสังคม ส่วนประเด็นที่ทำแบบนี้เพื่อต้องการเงินบริจาคเหมือนคดีของลุงศักดิ์หรือไม่ นายทศพล เผยว่า ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ และไม่รู้ว่าเคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน


นายทศพล ยังเผยอีกว่า ขณะนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งแล้ว ควรให้นักการเมืองหาเสียงให้แล้วเสร็จก่อน จะผิดหรือถูกให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ตัดสิน

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/B_t1PZ5M-OI

คุณอาจสนใจ

Related News