กต.ปลื้ม ‘มาริษ’ เยือนจีนพบผู้นำสำคัญหารือความร่วมมือย่างเป็นรูปธรรม ทั้งปราบอาชญากรรม-แก้ฝุ่นพิษ-ยกระดับเศรษฐกิจ

น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวย้ำถึงภาพรวมการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่ผ่านมาว่า สาเหตุที่นายมาริษ เลือกเยือนจีนเป็นประเทศแรก ๆ นอกจากอาเซียนนั้น เนื่องจากเป็นประเทศสำคัญ ที่มีความใกล้ชิด และสำคัญต่อไทยด้านเศรษฐกิจ เป็นคู่ค้า และผู้ลงทุนอันดับ 1 ของไทย  เป็นตลาดที่ต้องการสินค้าเกษตรในปริมาณมหาศาล เป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยปีนี้คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 8,000,000 คน และมีโครงการเชื่อมโยงทางรถไฟและการบิน จึงเป็นเป้าหมายในนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้นั้น น.ส.ชยิกา ยังบอกด้วยว่า นายมาริษ ได้รับเกียรติจากจีนอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้พบคู่เจรจาแล้ว ยังได้พบผู้นำระดับสูงด้วย ได้แก่ นายหาน เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจเฉพาะ ตรงโจทย์ "การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก" ของไทย ซึ่งจีนเน้นย้ำให้ไทย เร่งเดินน้ารถไฟ จีน-ลาว-ไทย และเชื่อมต่อไปยังมาเลเซียให้แล้วเสร็จ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค

นอกจากนั้น นายมาริษ ยังได้พบ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งยินดีพร้อมสนับสนุนไทยเป็น Regional HUB ผลิตส่วนประกอบ EV สำคัญให้จีน และพัฒนาการศึกษา และ Technology Transfer เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรทั้ง 2 ประเทศไปพร้อมกัน รวมถึงยังได้พบ นายหลิว เจี้ยนเชา รัฐมนตรีกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงของจีนที่มีความรัก และชื่นชอบประเทศไทยมาก พร้อมสนับสนุนไทยในทุกเรื่องพร้อมเน้นย้ำ การเชิญหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเ เดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการด้วย พร้อมยืนยันว่า ความสัมพันธ์จีน-ไทยยุค พรรคเพื่อไทยเป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระชับแน่นแฟ้น

ในการเข้าพบผู้นำสำคัญของทางการจีนนั้น นางสาวชยิกา เปิดเผยว่า ฝ่ายไทย ได้หารือในภาพรวมถึงความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง อาทิ การส่งโคมีชีวิตไปจีน การเปิดตลาดท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว หรือเมืองรอง การเพิ่มการลงทุนในไทยใน 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การสร้างหุ้นส่วนเศรษฐกิจ IGNITE Thailand การปราบปรามแก๊งค์ Call Center การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ข้ามแดน เป็นต้น

น.ส.ชยิกา ยังระบุอีกว่า นายมาริษ ยังมีโอกาสได้เข้าพบนายเก๋อ ไห่เจียว ประธาน Bank of China ที่ยินดีให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ ในการอำนวยความสะดวกนักธุรกิจไทยลงทุนในจีน และพร้อมแนะนำนักลงทุนจีนรายใหญ่ ให้ลงทุนในเศรษฐกิจไทยด้วย จึงมั่นใจว่า ในเข้าพบครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายใหม่ ที่รัฐเดินหน้าเจรจาแบบ Pro-Business เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ ได้ดำเนินกิจการอย่างเต็มที่

นอกจากนั้น น.ส.ชยิกา ยังเปิดเผยด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว นายมาริษมีกำหนด เดินทางไปยังกรุงนิวเดลี เพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ BIMSTEC หรือ ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ หรือ BIMSTEC Foreign Ministers’ Retreat ระหว่าง 11-12 กรกฎาคม 2567 ซึ่งขณะนี้ นายมาริษ ได้เดินทางถึงกรุงนิวเดลีอยู่ระหว่างการเข้าประชุมแล้ว โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกเข้าร่วม อาทิ ภูฏาน บังกลาเทศ เมียนมา อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และไทย ซึ่งการประชุมดังกล่าว เป็นข้อริเริ่มของไทย เพื่อส่งเสริมให้มีการหารือในระดับรัฐมนตรีของ BIMSTEC เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปในภูมิภาค โดยไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม BIMSTEC Summit ระดับผู้นำครั้งต่อไป ที่เชียงรายในเดือนกันยายนนี้  พร้อมมั่นใจว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นอีกเวทีหนึ่ง ที่ไทยจะสามารถเน้นย้ำบทบาทของไทยในฐานะ bridge builder และความร่วมมือกลับกลุ่มประเทศ Global South