เลือกตั้งและการเมือง

ทร.แจง เรือหลวงสุโขทัย อายุ 36 ปี ไม่เหมือนเรือใหม่ ชี้ อับปางเหตุสุดวิสัย

โดย attayuth_b

16 ก.พ. 2566

44 views

วันนี้ (16 ก.พ.) ที่รัฐสภา จากกรณีที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิงถึงกรณีเรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง ว่าเกิดจากความบกพร่องในการซ่อมทำเรือหรือไม่ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ นำ พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ (เสธ.ทร.) และ พล.ร.ท.สุทธิศักดิ์ บุตรนาค เจ้ากรมอู่ทหารเรือ ได้เข้าชี้แจงกรณีดังกล่าว

พล.ร.อ.ชลทิศ ระบุว่า เหตุเรือรบหลวงสุโขทัยอับปางนั้นถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น และพยายามสืบค้นหาสาเหตุ เรือลำนี้อายุ 36 ปีแล้วระบบต่างๆไม่เหมือนเรือใหม่ถอดด้าม และอยู่ระหว่างการพิจารณาผลประจำการ ซ่อมทำใหญ่ครั้งล่าสุดระหว่าง 2561-2563 และยังใช้งานอย่างเต็มกำลังความสามารถของเรือตราบจนวันที่อับปาง คือ18 ธ.ค. 2565

ก่อนเรือออกทำภารกิจ ผู้การเรือต้องประเมินความพร้อมของสภาพแวดล้อม องค์บุคคล องค์วัตถุ รวมถึงตังเรือทั้งหมด กองทัพเรือได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุของการอับปาง และเหตุที่มีการสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก การกอบกู้ช่วยเหลือเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ รวมถึงตั้งคณะกรรมการอีกคณะสอบสวนการทำความผิดทางละเมิด ข้อสงสัยที่ ส.ส.ได้นำเสนอ กองทัพเรือได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วทั้งสิ้น

กองทัพเรือพยายามประมวลหาสาเหตุที่สำคัญ เน้นย้ำว่าไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน และพยายามป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ โดยได้สอบพยานบุคคลไปแล้วครั้งหนึ่งราว 200 ปาก แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะต้องการความรอบคอบชัดเจนในทุกประเด็นเพื่อตอยคำถามต่อตัวเองและสังคมให้ได้ ขณะเดียวกันก็จะเร่งดำเนินการสอบเพิ่มเติมให้ถึงพร้อมทั้งคุณภาพและปริมาณของพยานบุคคล

ด้านพล.ร.ท.สุทธิศักดิ์ ชี้แจงในส่วนของการซ่อมทำครั้งใหญ่เมื่อปี 2561-2563 นั้น มีขั้นตอนตรวจสภาพตัวเรือทั้งหมดทั้งที่เรือจอดอยู่ในน้ำ ไม่สามารถเห็นใต้ท้องเรือ หรือมองจากข้างในไปข้างนอกได้ ใช้วิธีประเมินขอบเขตของงาน และเรียกเรือเข้าอู่แห้ง สูบน้ำออก ตึงจะเห็นจำนวนแผ่นเหล็กที่ชำรุดเสียหายจริงทั้งหมด แล้วจึงย้อนไปดูใน TOR เพื่อพิจารณาว่าจะหาตัวผู้ประกอบการมาซ่อมทำ หรือจะซ่อมทำเอง

กรมอู่ทหารเรือยืนยันว่า จำนวนเนื้องานทั้งหมด ไม่มีการลดตัดทอน แต่ให้อู่ราชนาวีมหิดลอดุยเดชดำเนินการเองโดยไม่ลดขอบเขตงานลงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องเครื่องจักรเครื่องไฟฟ้าจะไม่ว่าจ้าง แต่จะดำเนินการเอง แต่ต้องยอมรับว่าจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรือทั้ง 4 เครื่อง อาจไม่พร้อมทั้งหมด แต่ถึงแม้มีเหลือเพียงเครื่องเดียว เรือก็ยังสามารถออกปฏิบัติราชการได้ เพราะอีก 2 เครื่องคือสำรองไว้เท่านั้น

สำหรับฟินเรือ ที่มีข้อสงสัยว่าถอดออก หรือไม่ติดตั้งเพิ่ม เจ้ากรมอู่ฯ ยอมรับว่า หลังประจำการมา 36 ปี มีฟินกราบซ้ายประสบอุบัติเหตุ และหาอะไหล่มาซ่อมแซมไม่ได้เนื่องจากบริษัทเลิกผลิตไปแล้ว หากไปเปลี่ยนแปลงฟินเรือ อาจส่งผลต่อสมรรถนะของเรือ จึงได้ข้อสรุปว่าจะถอดฟินเรือออกไป เพื่อให้ไม่กระทบต่อยุทธการ พร้อมยืนยันว่าการซ่อมทำเรือดำเนินการตามมาตรฐานทุกประการ มีทั้งชิ้นงานที่ว่าจ้าง และกรมอู่ฯ ดำเนินการเอง

"เราไม่เคยทิ้งเรือที่ออกไปปฏิบัติราชการ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เราก็ดำเนินการซ่อมทำให้ทุกประการ เราตรวจสอบมาตรฐาน ทำให้เรือมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติราชการ มีใบควบคุมกำกับชัดเจน อะไรที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่ปล่อยเรือออกไปเด็ดขาด" พล.ร.ท.สุทธิศักดิ์ กล่าว

พล.ร.อ.ชลทิศ ยังได้ชี้แจงถึงภารกิจค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือผู้สูญหาย รวมถึงการกอบกู้ซากเรือ ว่าอยู่ระหว่างการปรับกำลังดำเนินงาน หลังผ่านมา 2 เดือน ประมาณการว่าผู้สูญหายถูกกระแสน้ำซัดไปใกล้ฝั่ง จึงอาศัยกำลังของ ศรชล. เดินสำรวจหาบริเวณชายฝั่ง และในกรณีหากร่างผู้สูญหายทั้ง 5 นาย จมลงใต้น้ำ ได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษลงตามหาบริเวณใต้น้ำ แต่ยังหาไม่พบ

ทั้งนี้กองทัพเรือดำเนินการศึกษาค้นคว้าและวิธีกู้เรือ และความคุ้มค่าต่องบประมาณที่จะเสียไป อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยเจ้ากรมอู่ฯ ก็เป็นหนึ่งในกรรมาธิการหลักในการพิจารณาอยู่

สำหรับซากเรือดังกล่าวนั้น อยู่ห่างไป 20 ไมล์จากท่าเรือบางสะพาน อยู่ที่ความลึกประมาณ 50 เมตรใต้ทะเล ความสูงตัวเรือประมาณ 20 เมตร นับจากเสากระโดงจบหรือใต้น้ำประมาณ 26 เมตร และไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือในภาวะปกติ

คุณอาจสนใจ

Related News