“แพรรี่” วิจารณ์ปมอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ถามเป็นพระ “อ่อนต่อโลก” แล้วสอนคนได้ยังไง?

“แพรรี่” วิจารณ์ปมอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ถามเป็นพระ “อ่อนต่อโลก” แล้วสอนคนได้ยังไง? เงินเก็บตัวเอง 11 ล้าน สะสมไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ไปบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์

จากกรณีตำรวจพบหลักฐานเส้นเงินของพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา โอนให้สีกากอล์ฟกว่า 12.8 ล้านบาท และบางส่วนมาจากบัญชีวัด จนทำให้วันนี้ (14 ก.ค. 2568) ช่วงบ่าย พระเทพพัชราภรณ์สมัครใจลาสิกขาที่วัดชูจิตธรรมาราม โดยก่อนหน้านี้เคยเปิดเผยว่า สีกากอล์ฟเดินทางมาพบที่วัด อ้างว่ารู้จักพระชั้นผู้ใหญ่หลายคน และทำตัวเป็นไฮโซทำให้อดีตเจ้าอาวาสฯ เชื่อใจและหลงเชื่อโดยยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” และ “เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่” นั้น

ล่าสุด แพรรี่ ไพรวัลย์ โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กพูดถึงเรื่องดังกล่าว โดยกล่าวว่า เงินตัวเอง 11 ล้าน เป็นพระผู้ใหญ่มีเงินเก็บตั้ง 11 ล้าน เอาไปให้กอล์ฟ ไปลงทุนหมด ไปเชื่อมัน มันไม่ได้นะ พระต้องเป็นแบบอย่างสิ อยู่ยังไงถ้าไม่มีสติสตัง เป็นพระผู้ใหญ่ระดับนั้นท่านต้องคิดได้สิ เงินจำนวนนี้ต่อให้อ้างว่าเป็นเงินตัวเอง ควรเอาไปทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์ไหม คำถาม? ท่านจะสะสมไปทำไม ท่านอายุปูนนั้นแล้ว อยู่ในวัดในวา ทำไมไม่ไปบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ ท่านก็อายุไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว 60-70 ปี ท่านจะไปหวังจะได้อะไรอีก เจริญด้วยสมณศักดิ์ปานนั้นแล้ว ท่านจะอยากได้อยากมีอะไรอีก ท่านจะลงทุนเพื่ออะไร ท่านจะเอาเงินไปใช้ที่ไหน เพราะท่านไม่ได้ทุกข์ไม่ได้ยากอะไรเลย เงินทำบุญก็มี ชาวบ้านเข้าวัดทุกวัน วัดชูจิตฯ วัดใหญ่มากเลยนะ ท่านไม่ได้มีเรื่อง ถ้าทุกข์ยากลำบากต้องลงทุน เพราะวัดไม่มีค่าน้ำค่าไฟ จะต้องรีบหาเงินลงทุนมาใช้หนี้เขา ท่านมีหนี้หรอ มันไม่ใช่เลย คนเราถ้ายืมครั้งเดียว มันไม่คืนต้องไม่ให้แล้ว สมมติท่านให้ยืมแค่ครั้งเดียว แล้วมันไม่คืน มันเบี้ยวหนี้ อันนี้จะเห็นใจ เพราะเป็นเหยื่อ แต่อันนี้ให้ยืมหลายครั้ง ให้ยืมเรื่อยๆ มันยังไง จะให้เรามองยังไง ต้องวางใจยังไงในฐานะฆราวาส

“อ่อนต่อโลกแล้วสอนคนได้ยังไง มันไม่ได้ อ้างว่าเป็นพระอ่อนต่อโลก งั้นต่อไปนี้พระไม่ต้องสอนธรรมะให้ใครนะ ไม่รู้เท่าทันคน จะไปสอนได้ไง ถึงบอกว่าให้ออกมาดูสังคม ออกมาดูโลกบ้าง ในสังคมเขาเตือนกันจะตาย เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งอะไร แล้วท่านไม่ทันโลกแล้วจะมาสอนคนได้ยังไง” แพรรี่กล่าว