ศาลฎีกาเรียกสอบพยานเพิ่มอีก 20 ปาก คดี "ทักษิณ" ชั้น 14 นัดเบิกความ ก.ค.นี้

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนครั้งแรกในคดีที่ อดีตนายกรัฐมนตรี นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนานถึง 180 วัน พร้อมเรียกสอบพยานบุคคลเพิ่มอีก 20 ปาก



คดีนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้นาย ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนาย ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก แต่กลับส่งตัวนาย ทักษิณ ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจแทน แม้สุดท้ายแล้วศาลจะยกคำร้อง เพราะเห็นว่านาย ชาญชัย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง  แต่ศาลฎีกา เห็นว่า อาจมีการบังคับโทษที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก จึงมีคำสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องไปยังโจทก์ คือ อัยการสูงสุด และป.ป.ช. รวมถึงตัวนาย ทักษิณ ให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง



แม้วันนี้ นายทักษิณ จะไม่ได้เดินทางมา แต่ส่งทนายความส่วนตัว คือ ทนายวิญญัติ ชาติมนตรีมาแทน โดยมาถึงตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง พร้อมกับบอกว่า มาฟังการไต่สวนครั้งนี้ เหมือน "คนตาบอดคลำช้าง" เพราะไม่รู้ว่าศาลจะไต่สวนในแนวทางไหน ก่อนจะเดินทางเข้าไปด้านใน เช่นเดียวกับผู้ร้อง คือ นายชาญชัย นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขาที่มาติดตามการไต่สวนเช่นกัน



พยานปากแรกที่ศาลเรียกไต่สวน คือ นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ศาลไต่สวนตั้งแต่วันส่งตัวนาย ทักษิณ เข้าเรือนจำ คือ 22 สิงหาคม 2566 จนถึงการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ ว่าใครเป็นผู้วินิจฉัย หรือตัดสินใจในการส่งตัว มีการเขียนใบส่งตัวล่วงหน้าทำได้ไหม มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างไร



ศาลได้เรียกเอกสารประวัติการรักษาตัวนายทักษิณในต่างประเทศ เอกสารสมุดลงเวรเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวมถึงหลักฐานการเบิกเงินเข้าเวรของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ไปเฝ้า นาย ทักษิณ โดยให้ส่งมาภายใน 15 วัน



ในการไต่สวนศาลยังเปิดโอกาสให้คู่ความ คือ ทนายวิญญัติ ไต่สวนพยานด้วย แต่เป็นลักษณะถามแล้วต้องรอศาลอนุญาตว่า ตอบได้หรือไม่ และคำถามต้องไม่เป็นการซักค้าน ซึ่งทนายวิญญัติถาม 9 ข้อ หลักๆ เกี่ยวกับ อาการป่วยของนาย ทักษิณ และระเบียบการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาภายนอกเรือนจำ แต่ได้รับคำตอบเพียง 5 ข้อ ข้อที่ไม่ได้รับคำตอบ เพราะบางคำถามศาลกำหนดตัวพยานไว้อยู่แล้ว หรือในการวินิจฉัยของศาล



เมื่อการไต่สวนเสร็จสิ้น ทนายวิญญัติ ออกมาบอกว่า ศาลกำลังแสวงหาความจริงไม่ได้รับฟังกระแสสังคม พยายามหาความจริง หาหลักฐานจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร ทำให้ศาลออกหมายเรียกพยานบุคคล 20 ปากมาไต่สวนเพิ่มเติม และเขาได้เสนอพยานบุคคลต่อศาลเพิ่มด้วย แต่ศาลให้เขียนคำแถลงเข้าไป แล้วจะพิจารณาอีกครั้ง แล้วจะนัดไต่สวนพยาน 20 ปาก ในเดือนหน้า



ศาลนัดไต่สวนทั้งหมด 6 นัด เป็นพยานบุคคล 3 นัด พยานเอกสาร 3 นัด การสอบพยานบุคคลได้แก่ วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นกลุ่ม แพทย์ พยาบาล ทั้งในสถานพยาบาลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ , ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ , โรงพยาบาลตำรวจ



8 กรกฎาคม กลุ่มเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ไปควบคุมนายทักษิณที่รพ.ตำรวจ



15 กรกฎาคม กลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ คือ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ อดีตผู้บัญชาการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์



นอกจากนี้ศาลยังได้เรียกเอกสารเพิ่มจากฝั่งโจทย์ คือ สำนักงานอัยการสูงสุด และ ป.ป.ช. ซึ่งขอเอกสารจาก ป.ป.ช.ถึงรายงานของ กรรมการสิทธิมนุษยชน หรือ กสม.และมติแพทยสภา เมื่อวานนี้ ที่มีการพิจารณากรณีส่งตัวรักษานายทักษิณ ชั้น 14 ส่วน สำนักงานอัยการสูงสุดไม่ได้ขออะไรเพิ่มและไม่ได้มีการชี้แจงในชั้นศาลเพิ่มเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-18VVawUt4E