สังคม

"จูน เพ็ญชุลี" ขึ้นศาลเผชิญหน้า "จ๊ะโอ๋" ไต่สวนมูลฟ้องคดีหมิ่นประมาท

โดย nutda_t

18 พ.ย. 2567

735 views

คืบหน้า กรณีคดีฟ้องร้องกันระหว่าง จูน เพ็ญชุลี หนูแก้ว และหญิงบุคคลที่สาม กับอดีตสามี หนุ่ม กะลา

ล่าสุด ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยา หนุ่ม กะลา ได้เดินทางมาพร้อมกับ ทนายพัฒน์ ส่วนฝั่ง "จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง" คู่กรณีนั้น เดินทางมากับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โดยในวันนี้ศาล ได้นัด จูน เพ็ญชุลี มาในฐานะจำเลย โดยใช้เวลาไต่สวนมูลฟ้องอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมง

จูน เพ็ญชุลี และ ทนายพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ที่ฝั่งคู่กรณี ฟ้องคุณจูน กับเพจอีกี้ ในกรณีที่ทางฝ่ายคู่กรณีอ้างว่า คุณจูน มีการไปว่าจ้างทางเพจอีกี้ ให้โพสต์กล่าวหา ทำให้เขาได้รับความเสียหาย วันนี้กับทางฝ่ายคู่กรณี ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แค่ได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ฝ่ายนั้นไม่ได้มีทีท่าอะไร ส่วนเรื่องกรณีที่เขากล่าวหาว่าทางเพจ ถูกตนว่าจ้างนั้น มันเป็นเพียงแค่ตอนนั้น ประเด็นนี้กำลังดัง ทางเพจต่างๆจึงทักมาขอข้อมูลกับตน เราก็ตอบในส่วนที่เราตอบได้ ส่วนเรื่องเงิน จะมีการโอนเงินให้ทางบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นการช่วยเหลือในเรื่องบางเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวกับการจ้างวาน ข้อความที่ส่งให้กัน ก่อนหน้าที่จะมีการโอนเงิน ก็มีใจความชัดเจนอยู่แล้ว ว่าไม่ใช่เรื่องการจ้างวาน

ส่วนคดีที่มีปัญหากันอยู่ ก็รอทางคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ทางศาลไม่มีนัดที่จะมาพูดคุยกันแล้ว วันนี้เป็นเพียงเรื่องการไต่สวนมูลฟ้องเรื่องคดีหมิ่นประมาท ซึ่งศาลนัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษาในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ว่าคดีมีมูลหรือไม่ ทางเราพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว และมีเอกสารทุกอย่างเตรียมพร้อม ถ้าสงสัยเรื่องไหนก็สอบถามมาได้ เรามีหลักฐานและสลิปการโอนเงินทุกอย่าง

คุณจูน กล่าวอีกว่า ช่วงนี้ชีวิตก็ปกติดี ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว เรื่องการเลี้ยงลูก ตนก็เลี้ยงลูกเองมาตลอดอยู่แล้ว ไม่ได้มีการปรับตัวอะไรมากมาย ส่วนทางด้านพี่หนุ่มเอ งก็ได้มีการติดต่อพูดคุย แต่ก็แค่เรื่องลูกเท่านั้น เรื่องข่าว ตนก็ไม่ได้มีความกังวล เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง ที่เดินทางมาวันนี้ก็เพื่อจะมาชี้แจงว่าเราไม่ได้ทำ ให้มันเป็นไปตามกระบวนการความจริงมันจะได้ปรากฏขึ้น

ด้านทนาย กล่าวว่า ที่จริงเรื่องนี้ทางตนและคุณจูน ได้พยายามเจรจามาโดยตลอด แต่ลูกความเองอาจจะมีเงื่อนไข หรือยังไม่พร้อมเปิดใจ แต่เชื่อว่าวันนึงมันก็ต้องจบลง

ขณะที่ จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง และ ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ทางโจทก์กับจำเลย ได้เจอกัน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยกัน และได้มีการสืบพยานจำนวน 5 ปาก วันนี้ทางจำเลยที่ 1 ไม่ได้มา มีมาแค่จำเลยที่ 2 และทนายเพียง 2 คน ก่อนหน้านี้ทางตัวจำเลยที่ 1 ไม่ได้มีการพูดคุยกับทางเรา และยังมีการฟ้องกลับเราด้วย เป็นคดีหมิ่นประมาทที่ศาลายา วันนี้ตนไม่ได้รู้สึกอะไร คิดเพียงแค่ว่าต่างฝ่ายต่างมาทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน เรามาทำหน้าที่ของเรา เขาก็มาทำหน้าที่ของเขา หลังจากนี้ก็ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล วันนี้ตนเตรียมหลักฐานเอกสารมาเยอะพอสมควร ส่วนทางจำเลยหรือคุณจูน เขาก็ต่อสู้ของเขา ว่าการโอนเงินนั้นเป็นการโอนเงินเพื่อจ้างให้ไปสืบข้อมูลของคุณโอ๋ ไม่ได้จ้างเพื่อมาโจมตีทางฝ่ายเรา

ส่วนเรื่องของจำเลยที่ 1 มันมีพยาน หลักฐานเยอะอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีข้อมูลด้าน IP Address เพราะว่ามันเป็นเพจอวตาร มันก็ต้องใช้ข้อมูลด้านอื่นๆประกอบ แต่ทางเราก็มีพยานหลักฐานพอสมควร อยากฝากไปถึงเพจอวตาร ว่าวันหนึ่งก็จะมีคนจับได้ อย่าไปเที่ยวด่าคนอื่นไปทั่ว ต้องระวัง อยากฝากเอาไว้สำหรับเพจอื่นๆให้ระวังตัว วันนี้การไต่สวนเป็นไปในทิศทางของเรื่องการสืบพยาน เกี่ยวกับเรื่องการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ส่วนจะมีมูลหรือไม่รอศาลตัดสินในวันที่ 24 ธันวาคม 2561 เวลา 09:00 น. ก็จะได้รู้ว่าผลคดีเป็นอย่างไร

ส่วนการเรียกค่าเสียหาย ยังคงเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านเหมือนเดิม เพราะว่าเสียหายหลายอย่าง ทางแบรนด์ก็มีคนมาด่า ส่วนจะได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่ศาล เราเคารพกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ส่วนทางคุณจ๊ะโอ๋ ในช่วงนี้ได้มาศาลบ่อยมาก เพราะมีเรื่องการฟ้องร้องคดีอื่นอีก ตนไม่ได้ซีเรียสอะไร ไม่ได้กังวลกับคดีนี้ ตอนนี้ตนมีการฟ้องร้องประมาณ 30 คดีแล้ว เรื่องคนที่มาวิพากษ์วิจารณ์ตน อยากจะฝากไว้ให้หยุดการกระทำ ใน 30 คดีนี้ มีสำนักข่าวก็โดน ผู้ประกาศข่าวก็โดน ผู้ดำเนินรายการและชาวบ้านก็มี ตนคัดมาแล้ว เป็นพวกที่ด่าตนหนักๆ อยากจะฝากไว้ว่า ถ้าไม่ชอบก็แค่เลื่อนผ่าน ไม่ต้องมาด่า ส่วนสื่อมวลชนก็ควรนำเสนอแบบกลางๆ อย่าใส่สีตีไข่เยอะ ถ้าเป็นคดีมาก็จะเหนื่อย

ส่วนที่มาวันนี้ เราได้เจอทางจำเลย ก็ไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดหรือโกรธอะไร เพียงแค่อยากให้เขามาชี้แจง ในส่วนของหลักฐานที่เราได้มาว่าการโอนเงินไปขนาดนี้ไปให้เพจนี้ คุณโอนไปเพื่ออะไร เราก็แค่ต้องการอยากรู้ความจริง เพราะจริงๆใจเราต้องการอยากจะฟ้องเพจนี้อยู่แล้ว และหลักฐานที่เราได้มา มันดันไปเชื่อมโยง เราไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เราแค่ต้องฟ้องเพื่อให้เขามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ส่วนความสัมพันธ์กับหนุ่ม กะลา เป็นความสัมพันธ์ที่ดี ก็ถือว่าเป็นพี่น้อง ได้ปรึกษากับเขาก็สบายใจขึ้น เพราะเขาเป็นคนมีวุฒิภาวะ ถ้าหลังจากนี้ชาวเน็ตจะด่าอีก ก็ถ้าสบายใจก็ด่าเลย หลังๆมานี้ตนก็สบายใจขึ้นเพราะไม่ได้เล่นโซเชียลด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News