สังคม

LGBTQ เล่นแอปฯหาคู่นัดเจอ CEO คลินิก ถูกกัดขังหน่วงเหนี่ยว ซ้อมจนช้ำ ด้านคู่กรณีโต้กลับไม่จริง

โดย kanyapak_w

23 พ.ค. 2567

2.5K views

จากกรณี นาย เอ็ม อายุ 23 ปี ร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากตนเอง ถูกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวจากการนัดเจอกันผ่านแอปฯ หาคู่ แจ้งความคดีอาญาและมีใบจากนิติเวช แต่คดียังไม่คืบหน้า



ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเอ็ม อายุ 23 ปี LGBTQ ได้เล่นแอปฯ หาคู่แอปฯ หนึ่ง อ้างตัวเองว่าชื่อ พิพัฒน์ หรือนายเอส อายุ 25 ปี และยังบอกว่าเขาเป็น ceo คลินิกเสริมความงานหลายสาขา จดทะเบียนบริษัทแพทยานนท์อินเตอร์กรุ๊ปจำกัด กำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่รามคำแหง



ในวันเกิดเหตุ 11 มี.ค. 2567 เวลา 22.00น. ตนเองได้นัดดีลไปหานายเอสที่คอนโด ก่อนขึ้นตึกนายเอสได้โยนคีย์การ์ดลงมาให้ตน จากชั้น 4 ให้ขึ้นไปเอง ตนก็รู้สึกงงๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ระหว่างขึ้นลิฟ ตนเองลืมเอาคีย์การ์ดแตะที่ลิฟ ลิฟจึงพาขึ้นไปชั้นบนสุด จากนั้น นานเอสโทรมาหา ตนก็บอกว่าถึงแล้วอยู่ชั้น 4 ซึ่งตนเองไม่รู้ ว่าหลงไปอยู่ชั้นบนสุด จึงได้ขอโทษที่ให้รอนาน


พอเข้าไปในห้องบรรยากาศมืดมากๆ เปิดไฟแค่โคมไฟดวงเดียว พอถึงห้องตนเองได้ยื่นคีย์การ์ดคืนไป และสักพักนายเอสให้ตนไปนั่งอยู่ที่เตียง แล้วก็พูดว่า “ไปว่ายน้ำเล่นรอมา ไฮด้วย” ซึ่งผมตกใจมาก



นายเอสไม่ได้บอกก่อนว่าเล่นไฮ (คือเล่นยา) สักพักนายเอสเข้ามากอดและให้ตนดูดนมให้เขา แต่เขากลับบอกว่า ตนแกล้งทำให้ไม่ดี จู่ๆเขาก็เริ่มชกตน และเริ่มต่อย จนตนได้รับบาดเจ็บที่หน้าสาหัส หน้าบวม เลือดออก ปากแตก ทั้งๆที่ตนไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ตนบอกว่าขอกลับบ้านก็ไม่ให้กลับ ปากตนเลือดออกก็จะขอให้ตนดูดนมให้อีก และก็ยังทำร้ายชกต่อยตนเองต่อ



จากนั้นนายเอสก็ด่าตนสารพัด เช่น มึงนัดคนอื่นไม่ดูหน้าตาตัวเองว่าเหี้ยขนาดไหน มึงมีปัญญาอยู่คอนโดเหมือนกูมั้ย, พ่อแม่มึงเป็นใครเลี้ยงลูกแบบนี้, รู้ไหมกูเป็นใคร ceo เจ้าของคลินิก, มึงทำได้เหมือนกูไหม, เดี๋ยวมึงได้รู้จักพ่อกู เป็นต้น และในขณะที่ด่าก็ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจว่าตนบุกรุก ตนขอออกจากห้องก็ไม่ให้ออก จากนั้นนานเอสขอคีย์การ์ด ตนบอกว่าให้ไปแล้วตอนเข้าห้อง เขาก็หาว่าตนเองหลอก หาว่าเอาคีย์การ์ดไปซ่อน



ตนโดนนายเอสทำร้ายจนถึงเช้า หน้าตนเองบวมปูด เลือดไหล แต่ก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ เนื่องจากนายเอสตัวใหญ่กว่า เล่นกล้าม และบังคับไม่ให้ตนออกจากห้อง บังคับไม่ให้จับโทรศัพท์



โชคดีที่ตนอาศัยจังหวะที่นายเอส เข้าไปอาบน้ำ จึงมีโอกาศจับโทรศัพท์เพื่อโทรหาเพื่อน ตนจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อน พอช่วง 12.00น. นายเอสจึงยอมลงมาส่งตนเอง แถมยังเรียกค่าเสียหายจากตนเอง 5,000 บาท ที่เลือดของตนเปื้อนเตียงนอน หลังจากที่ออกมาได้ ตนเองให่เพื่อนพาไปโรงพยาบาล และขอใบจากนิติเวชเพื่อแจ้งความไว้ สน.หัวหมาก



ในวันเดียวกันตนเองเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน พาตนเองเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ และสอบถามข้อมูล กับทางนิติบุคคลของคอนโด นิติที่ดูแลตึกบอกว่าตนไม่ได้โดนรายแรก นิติเคยเห็นผญ วิ่งมาจากบันไดหนีไฟแล้วหน้าอาบเลือด



หลังจากแจ้งความได้มีการโทรไปหาคู่กรณีเพื่อให้ออกมาสน.แต่เจ้าตัวบอกว่า “ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับคนอย่างมึง จะให้ทนายไปคุย”



ในส่วนของที่คู่กรณีออกมาชี้แจง ผ่านโซเชียล ตนเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนเอง ถูกทำร้ายร่างกายและมีหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์



คุณอาจสนใจ