สังคม

ตาวัย 90 ปี ยันมีทองคำ 50 บาท จริง สงสัยมันหายไปไหน?! แต่ไม่ได้ปรักปรำว่าใครเอาไป

โดย kanyapak_w

4 พ.ค. 2567

702 views

จากกรณีโลกโซเชียลแชร์ เรื่องราวของคุณตาวัย 90 ปี อ้างว่าทองคำไม่ต่ำกว่า 50 บาทหายไป ภายหลังจากกู้ภัยเข้าไปเก็บศพน้องสาวที่บ้านพักย่านรามอินทรา ขณะที่กู้ภัยยืนยันไม่มีใครเห็นทองที่ตาอ้าง ขนาดเจอเงินสดหลายหมื่นยังส่งคืนให้คุณตา จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์



ล่าสุดทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ออนไลน์ ติดต่อไปยัง พ.ต.ท. ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน เปิดเผยว่าตอนนี้ ตำรวจ  สน.บางเขนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง พร้อมสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย



โดยตอนนี้ทางคุณตาวัย 90 ปีได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ว่าทรัพย์สินหาย แต่ว่าแกเองไม่ได้บอกระบุชัด เพราะไม่มั่นใจว่าหายไปเท่าใดบ้าง แต่บอกว่ามีประมาณ 3-4 รายการ ตำรวจต้องสอบสวนอีกที ทั้งนี้เองแกไม่ได้มีการแจ้งระบุว่าทางกู้ภัยดังกล่าวเอาไป แต่แจ้งแค่ว่าหายไปและบอกกับเจ้าหน้าที่เท่านั้นว่ามีใครอยู่ในเหตุวันนั้นบ้าง โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องเรียกทางมูลนิธิกู้ภัยดังกล่าวมาเพื่อสอบสวนอยู่แล้วเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง 



เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ สน.บางเขนคุณตาเกียรติ อายุ 90 ปี เดินทางมาแจ้งความ เนื่องจากบัตรประชาชนหาย ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากที่ นางสาวล้วน น้องสาว เสียชีวิตบนที่นอนในบ้าน ส่วนจากนั้นขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและเรียกกู้ภัยจากมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ จัดการศพของน้องสาวและช่วยเหลือพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล  แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้น พบว่า ทองคำเส้น กว่า 50 บาท ได้หายไปจากบ้าน จึงตั้งข้อสงสัยและอยากทราบว่า ทองคำมันหายไปไหน



คุณตาเกียรติ กล่าวว่า  ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้านย่านวัชรพล เขตรามอินทรา กับพี่สาวคือ นางสาวเบญจรัตน์ อายุ 92 ปี  และน้องสาว คือ นางสาวล้วน อายุ 85 ปี ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 พี่น้อง โดยไม่มีลูกหลานอาศัยอยู่ด้วยเลย โดยในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา นางสาวล้วน เสียชีวิตบนที่นอนในบ้าน ส่วนนางสาวเบญจรัตน์ ล้มที่หัวเตียง ท่ามกลางกลองปัสสาวะและอุจจาระ โดยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้คุณตาเกียรติ ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและเรียกกู้ภัยจากมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือ จัดการศพของน้องสาวและช่วยเหลือพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล



แต่ระหว่างที่จัดการศพนั้น ต้องใช้บัตรประชาชนซึ่งคุณตา ไม่รู้ว่าบัตรประชาชนของน้องสาวอยู่ที่ไหน และสภาพบ้านค่อนข้างรก เพราะไม่มีใครดูแล ทำให้ต้องขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยช่วยกันรื้อข้าวของในบ้านเพื่อค้นหา จนกระทั่งเจอเอกสารของน้องสาวและจัดการศพได้เป็นที่เรียบร้อย



จากนั้น ไม่กี่วันต่อมา คุณตาเกียรติ มาสำรวจทรัพย์สินในบ้าน พบข้าวของถูกรื้อกระจุยกระจายไปหมด และจำได้ว่า ภายในบ้านไม่ได้ข้าวของรกแบบนี้ จากนั้น ก็ตรวจดูที่ใต้เตียงของน้องสาวคนตาย ซึ่งพบว่า กล่องสแตนเลสที่เคยวางอยู่ใต้เตียงของน้องสาว เมื่อเปิดออกมา ก็พบว่า มันไม่มี ทองคำรูปพรรณ ทั้งสร้อยทอง สร้อยข้อมือต่างหู ไม่ต่ำกว่า 50 บาท มูลค่าตอนนี้ 2 ล้านกว่าบาทได้หายไป พร้อมกับ นาฬิกาทองคำ MIDO ทั้ง 3 เรือน ได้หายไปด้วย



โดยในวันเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดกู้ภัยเข้ามาเก็บของ ภายในห้องของน้องสาวประมาณ 3 คน แต่ไม่รู้ว่ารายละเอียด เขามาทำอะไรบ้าง แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านไป มีผู้หญิง ชื่อ ปัด ซึ่งเป็นเจ้าที่กู้ภัยได้เขียนเบอร์ส่วนตัวของตัวเอง แล้วบอกว่า ถ้าหากอยากจะให้มาทำความสะอาดบ้าน ก็สามารถโทรมาหาได้เลย



“ ยืนยันว่า ตาเคยเห็นทรัพย์สินทั้งนาฬิกาและทองคำรูปพรรณจริงๆ เนื่องจากน้องสาวเคยเปิดให้ดูและบอกที่เก็บว่า เก็บไว้บริเวณใต้เตียงของตัวเอง แต่จำไม่ได้ว่าเห็นครั้งล่าสุดเมื่อปีไหน และตาเองก็ไม่ได้เข้าไปสุงสิงกับน้องสาวและพี่สาวเลย ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดแล้ว โดย ทรัพย์สินที่หายไปนั้น เป็นทรัพย์สินมรดกตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และตาตั้งใจเก็บไว้ดูแลตัวเองในยามแก่เฒ่า ถ้าหากเจ็บป่วย ก็จะนำทองรูปพรรณเหล่านี้ไปขายเพื่อดูแลตัวเองดูแลตัวเอง แต่เมื่อทองคำได้หายไป จึงได้มาลงบันทึกประจำวันของหายไปไว้ที่สน. บางเขน เพราะอยากจะรู้ว่าทรัพย์สินของตาหายไปไหน ”



อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากจะปรักปรำใคร เพียงแต่สงสัยว่าทองคำเส้นทั้งหมด 50 บาทนั้น มันหายไปไหน



ทั้งนี้ คุณตายังมีปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาลของพี่สาวตัวเองที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลสินแพทย์ ซึ่งในวันที่น้องสาวเสียชีวิตพี่สาวล้มและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวพี่สาวไปส่งโรงพยาบาล แต่ตอนนี้คุณตาต้องการอยากจะทำเรื่องส่งย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลรัฐบาล เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชน มีค่าใช้จ่ายสูงแต่ทางทีมแพทย์ไม่ทำเรื่องส่งตัวให้ เนื่องจาก ไม่มีโรงพยาบาลรัฐบาล แต่ทางโรงพยาบาล บอกว่า “ถ้าหากลุงไม่เซ็น จะไม่รักษาพี่สาว” ทำให้ คุณลุงต้องจำใจเซ็น เพราะกลัวพี่สาวจะเป็นอะไรไป สุดท้ายนี้ อยากจะ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานว่าจะมีโรงพยาบาลรัฐบาลที่ไหนจะสามารถรับพี่สาวไปรักษาต่อได้หรือไม่



คุณอาจสนใจ

Related News