แบงก์ชาติ ย้ำไม่ขัดแจกเงินดิจิทัล แนะช่วยคนลำบากจริง ให้คุ้มค่าเม็ดเงิน

วันนี้ (24 เม.ย.) มีการปล่อยรายละเอียดในหนังสือ ที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 เมษายน ตามที่ขอความเห็นมา โดย ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่และต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจกระทบภาระการคลังระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดเครดิต และการเพิ่มวงเงินกู้ปีงบ 68 จนเกือบเพดาน ทำให้เหลือวงเงินกู้ได้อีกราว 5,000 ล้านบาทเท่านั้น อาจไม่เพียงพอกรณีฉุกเฉิน

โดย ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ยังย้ำในจุดยืนเดิม ให้แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบเพียง 150,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยเห็นว่าควรนำงบ 500,000 ล้านบาท ไปลงทุนแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น นำไปสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม - ชุมพร ซึ่งใช้งบ 40,000 ล้านบาทต่อสาย เท่ากับจะพัฒนาได้กว่า 10 สาย หรือพัฒนาบุคลากรการแพทย์ ใช้วงเงิน เฉลี่ย 3.8 ล้านบาทต่อตำแหน่ง จะสามารถสร้างแพทย์ได้กว่า 1.3 แสนตำแหน่ง เป็นต้น

ส่วนประเด็นแหล่งเงิน ที่ส่วนหนึ่งจะกู้จาก ธ.ก.ส. เสนอให้กระทรวงการคลัง หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาและแบงก์ชาติ ว่าสามารถใช้มาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกับโครงการนี้ได้หรือไม่

พร้อมห่วงใยและไม่เห็นด้วยที่จะพัฒนาแอปฯ ขึ้นใหม่ โดยเห็นว่าควรใช้ระบบพร้อมเพย์ และ Thai QR Payment เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนในการพัฒนาระบบ และที่สำคัญ ต้องกำหนดกลไก ป้องกันการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม เช่น แนวทางการตรวจสอบรายได้และทรัพย์สินของผู้เข้าร่วมโครงการ การป้องกันร้านค้าปลอม เป็นต้น

ขณะที่ นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน แบงก์ชาติ กล่าวว่า กรณีการนำเงิน ธ.ก.ส. มาใช้ แบงก์ชาติไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าควรทำหรือไม่ควรทำ ต้องรอคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งโดยภาพรวมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต แบงก์ชาติไม่ขัดข้องกับการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องรูปแบบรายละเอียดว่า อยากให้ช่วยแบบเจาะจง ช่วยคนที่มีความยากลำบากจริง เพื่อให้คุ้มค่าเม็ดเงิน ถ้าช่วยคนที่ขาดจะมีแรงกระตุ้นสูง อยากให้เป็นกลุ่มเป้าหมายเจาะจง เพื่อให้ยั่งยืน และคุ้มค่างบประมาณ