อาชญากรรม

สลด! ตาวัย 70 ผูกคอดับคาบ้าน เมียร่ำไห้คาดเครียดถูกแก๊งคอลฯโทรหา หวังหลอกเอาเงินเบี้ยผู้สูงอายุ

โดย weerawit_c

17 มี.ค. 2567

603 views

วานนี้ (16 มี.ค.) เวลา 09.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านพัก หมู่ 7 ซ.จินตคาม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี


เมื่อไปถึงพบกับนางหนูกาล ธูปเทียนทอง อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นภรรยาร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา หลังจากสูญเสียสามีไปที่ผูกคอตายภายในบ้าน ทราบชื่อคือนายบุญช่วย ธูปเทียนทอง อายุ 70 ปี โดยใช้เชือกไนล่อนสีเทาผูกคอตายขื่อภายในห้องเก็บของข้างบ้าน คาดว่าผูกคอตายประมาณช่วง 7 โมงเช้าวานนี้ (16 มี.ค.) และมีจดหมายเขียนด้วยลายมือบอกว่า “แม่มึงอยู่คนไปก่อน พ่อไม่มากวนหลอก อยู่ก็” จากการตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ไม่พบร่อยรอยถูกทำร้าย  


นางหนูกาล ซึ่งเป็นภรรยาร้องไห้เสียใจจนไม่มีน้ำตา บอกว่า เมื่อเวลาประมาณบ่าย 3 โมง วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา มีคนโทรหาสามีปลายสายถามว่านี่ใช่ เบอร์นายบุญช่วยใช่ไหม และปลายสายอ้างว่าเป้นเจ้าหน้าที่จาก รพ. สามีตนได้พาเด็กถูกทำร้ายไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น จะต้องทำการผ่าตัดและมีค่ารักษาพยาบาล และต้องการให้สามีไปเซ็นชื่อด้วยก่อนผ่าตัด และต้องไปแจ้งความที่ขอนแก่น


นอกจากนั้นมิจฉาชีพยังอ้างว่าจะโอนสายให้ตำรวจยศใหญ่ และย้ำว่า ห้ามโกหกตำรวจ มีเงินเท่าไรบอกตำรวจให้หมด และหาว่าตนและสามีฟอกเงิน


โดยปลายสายก็ได้สอบถามอีกว่า มีเงินในบัญชีเท่าไร และถามข้อมูลส่วนตัวของสามีทั้งเลขบัตรประชาชนและเลขบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นบัญชีที่จะมีเงินเบี้ยผู้สูงอายุโอนเข้า สามีก็บอกหมายเลขบัญชีเขาไปหมด และยังได้สอบถามยอดเงินในบัญชี สามีจึงบอกไปว่ามีเงินอยู่ 800 บาทเป็นเงินผู้สูงอายุ เขาก็บอกว่า ทำไมมีน้อยจัง และมาถามอีกว่าบัญชีตนมีเงินเท่าไหร่ โดยสามีบอกว่าไม่มีเบิกมาใช้แล้ว จากนั้นสามีได้โทรไปหาลูกสาวที่อยู่เมืองนอก ตนและลูกก็บอกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่าไปทำอะไรทั้งนั้น


นางหนูกาลเล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนและผู้ตายก็กินข้าวและดูทีวีกันตามปกติ เสร็จแล้วก็เข้านอน พอตื่นเช้าตนไม่เห็นผู้ตาย ซึ่งปกติผู้ตายจะตื่นเช้าและออกมากวาดหน้าบ้านทุกวัน แต่เมื่อเดินออกมาดูก็ไม่เห็น จึงเดินตามหา เห็นประตูห้องเก็บของเปิด จึงเดินไปดูก็พบสามีใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงไปบอกเพื่อนบ้านให้โทรแจ้งตำรวจ ตนคิดว่าสามีคงเครียดเรื่องบอกหมายเลขบัญชีไปให้กับเขา กลัวเขาจะดูดดเอาเงินในบัญชีไป คงตกใจมากวันนี้มาจึงผูกคอตาย


โดยตอนท้ายภรรยาพูดไปก็ร้องไห้ไปแทบเป็นลม บอกว่า “ฉันอยู่ 2 คนเองค่ะคุณตำรวจ สามีจากไปแล้วต่อไปจะอยู่กับใคร” โดยตำรวจต้องประคองตัวให้กำลังใจไม่เป็นไรๆ ด้านตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายคงจะเครียดเรื่องที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกถามเรื่องเงินผู้สูงอายุ และเลขที่บัญชีธนาคาร เนื่องจากผู้ตายให้ข้อมูลส่วนตัวและเลขบัญชีธนาคารไป จึงคิดมากว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเอาเงินผู้สูงอายุไป ทำให้เครียด จึงผูกคอเสียชีวิต ส่วนญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป


ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (16 มี.ค.) นางหนูกาล และลูกสาว ได้นำศพนายบุญช่วย ออกจากนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดสว่างสันติธราม ถนนอำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ระหว่างนั้น ได้มีนายปฎิภาน กัลยาบุญ อายุ 29 ปี และนางสาวศิริลักษณ์ จูมใหญ่ อายุ 29 ปี สามีภรรยา เดินทางมาที่ศาลาตั้งสวดอภิธรรมศพ โดยบอกว่า น.ส.อ้อม อายุ 57 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย ทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น วานให้มาดูแลงานศพช่วยแม่และพี่สาว พร้อมกับวิดีโอคอลให้ดูงานศพ


ผู้สื่อข่าวจึงขอคุยกับ น.ส.อ้อม โดยเล่าว่า ตนมาทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 30 ปี จะส่งเงินไปให้พ่อแม่ใช้จ่าย ตนกลับบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อน ช่วงโควิดระบาด ปกติตนจะสนิทกับแม่ ไม่ค่อยจะสนิทกับพ่อ หากพ่อต้องการอะไรก็จะพูดฝากแม่มาบอก เมื่อเช้าวานนี้ (16 มี.ค.) แม่โทรศัพท์มาบอกว่าพ่อผูกคอเสียชีวิต เพราะเครียดโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกขอเลขบัตรประชาชน และเลขบัญชีไป ตนไม่คิดว่าพ่อจะคิดสั้น เพราะพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย อยู่แบบสบาย พ่อเคยบอกตนว่าจะอยู่ดูแลแม่จนกว่าจะตายจากกัน รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้บอกลาพ่อ


“ก่อนหน้านี้บอกให้พ่อดูแลตัวเอง ดูแลแม่ ดูแลบ้าน ว่างจากงานจะรีบกลับไปหา พ่อก็บอกว่าจะอยู่กับแม่จนตายจากกันไป ครอบครัวเราไม่มีหนี้สิน พ่อแม่อยู่ได้แบบสบาย ไม่มีปัญหาอะไร อยากฝากถึงตำรวจ และรัฐบาล ให้ช่วยกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก เพราะว่ามันเป็นตัวเสนียดของประเทศ เป็นปัญหาระดับประเทศ ทำให้คนสิ้นเนื้อประดาตัว และต้องมาเสียชีวิต ถ้าเอาไว้ก็หนักแผ่นดิน หนักโลก ถ้าวิสามัญได้ก็ทำเลย ขยะยังมีราคา พวกมันไม่มีราคา” น.ส.อ้อม พูดด้วยอารมณ์โมโห

นายปฎิภานเล่าว่า รู้จักกับพี่อ้อม ลูกสาวคนเล็กของผู้ตายที่ทำงานอยู่ญี่ปุ่น และรู้จักกับผู้ตายและภรรยา เพราะพี่อ้อมจะให้ตนไปทำธุระเรื่องเอกสารการเงิน และเข้ามาดูแลพ่อแม่ประจำ หลังทราบว่าพ่อผูกคอตายจึงให้ตนและภรรยามาดูแลงานศพช่วยแม่กับพี่สาว ผู้ตายมีอัธยาศัยดี เวลาตนมาหาก็จะออกมาพูดคุยด้วย ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่บางเรื่องก็ไม่ปรึกษา แต่ตนก็เคยบอกผู้ตายและภรรยาว่า หากมีจดหมาย เอกสารแปลกส่งมา ให้โทรบอกตน หรือหากมีมิจฉาชีพโทรมาหา หรือโทรมาหลอก ก็อย่าไปเชื่อ ให้บอกตนด้วย ถ้าผู้ตายโทรหาตน ก็จะบอกว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นต์ อย่าไปหลงเชื่อ ก็คงไม่คิดมากและเสียชีวิต


ส่วนนายทองแดง นาชิน อายุ 74 ปี เพื่อนบ้านผู้ตายและสัปเหร่อ เล่าว่า ตนรู้จักกับผู้ตาย เพราะอยู่บ้านใกล้กัน ผู้ตายมีฐานะ มีนิสัยไม่ค่อยพูด ส่วนตนก็เคยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก มีผู้หญิงโทรมาว่าลูกสาวตนเป็นหนี้ให้ตนใช้หนี้แทน ไม่เช่นนั้นลูกสาวจะโดนจับ ตนไม่หลงเชื่อ ตนก็ตอบว่าตนไม่มีลูกสาว แต่แก๊งดังกล่าวก็ไม่ลดละ ได้โทรมาหาตนอีก ตนกำลังยุ่งก็เลยด่า แก๊งคอลเซ็นตอร์เลยปิดสายไป อยากเตือนประชาชนว่า อย่าไปเชื่อคนง่าย แม้ว่าตนจะมีความรู้น้อยก็ไม่เชื่อคนง่ายๆ จะต้องให้เห็นตัวตนก่อน และให้ถามและปรึกษาลูกหลานก่อน ตรวจสอบให้แน่ชัด ว่าเป็นใครมาจากหน่วยงานไหนก่อนโอนเงิน หรือบอกข้อมูลส่วนตัว


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางหนูกาล ได้จุดธูปหน้าโลงศพ พร้อมบอกกับสามีว่า “ไม่ต้องห่วงเงินแค่นั้นให้มันไปโลด เราไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว ไปอยู่บนสวรรค์ภพภูมิที่ดี”

โดยนางหนูกาลเผยอีกครั้งว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาทำให้สามีตาย แม่อกหักตายคักๆ โกรธมาก ผัวมาตายทั้งคนเพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมบอกนักข่าวว่า อย่าถามแม่เยอะหลาย แม่จะร้องไห้อีก สำหรับพิธีฌาปนกิจศพของพ่อบุญช่วยจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 19 มี.ค.67 ที่จะถึงนี้



รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/KDPuTqhsf9s

คุณอาจสนใจ

Related News