'สดใส พันธุมโกมล' ครูใหญ่วงการบันเทิงไทย ประทับรอยมือ-เท้า เป็นดาวดวงที่ 200 ณ ลานดารา

“สดใส พันธุมโกมล” ครูใหญ่ของคนวงการบันเทิงไทย ประทับรอยมือรอยเท้า เป็นดาวดวงที่ 200 ณ ลานดารา หอภาพยนตร์

บรรยากาศการประทับรอยมือรอยเท้า ที่ลานดารา หอภาพยนตร์ ที่เมื่อวานนี้ได้มีการประทับรอยมือรอยเท้า ดวงดาว เป็นดวงที่ 200 ซึ่งผู้ที่ได้ประทับรอยมือรอยเท้าเป็นดวงดาว ดวงที่ 200 ก็คือ “รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2554 เป็นอดีตดาราผู้เคยสร้างชื่อเสียงในฮอลลีวูด และเป็นยังถูกยกเป็น “ครูใหญ่” ของคนในวงการบันเทิงไทยจำนวนมาก ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกการเรียนการสอนวิชาศิลปะการละครขึ้นในประเทศไทยด้วย

ซึ่งบรรยากาศในการประทับรอยมือรอยเท้าเมื่อวานนี้ ก็มีลูกศิษย์หลากหลายรุ่นมาร่วมแสดงความยินดี รวมถึง “คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย” ผู้บริหารช่อง 3 ก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย นอกจากนี้ คณะลูกศิษย์ของ “อาจารย์สดใส” ยังได้จัดการแสดงชุดพิเศษ CU Polka ซึ่งเป็นเพลงที่ “อาจารย์สดใส” ได้ประพันธ์ไว้เมื่อครั้งเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังคงใช้เป็นหนึ่งในเพลงประจำสถาบันตราบจนทุกวันนี้

และยังมีการแสดงชุด My Buffalo ประกอบเพลง Buffalo Song ที่ “อาจารย์สดใส” เคยขับร้องบันทึกแผ่นเสียงไว้เมื่อครั้งไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ “รัดเกล้า อามระดิษ” ก็ได้มาร่วมขับร้องเพลง We Are Siamese เพื่อมอบให้ “อาจารย์สดใส” ด้วย

‘อาจารย์สดใส พันธุมโกมล’ เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2476 เป็นธิดาของ “ศาสตราจารย์ศุภชัย วานิชวัฒนา ราชบัณฑิต และ ประยงค์ศรี วานิชวัฒนา อดีตนักแสดงภาพยนตร์ของบริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุง เจ้าของโรงถ่ายภาพยนตร์แห่งแรกของไทย “อาจารย์สดใส” สนใจศิลปะการแสดงมาตั้งแต่เด็ก โดยร่วมแสดงละครเมื่อครั้งเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย และเมื่อเข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “อาจารย์สดใส” ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมดนตรี สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มจากการเป็นนักร้อง และต่อมามีผลงานประพันธ์เพลง เช่น C.U. Polka ซึ่งยังคงใช้เป็นหนึ่งในเพลงประจำสถาบันมาจนทุกวันนี้ รวมถึงคำร้องภาษาอังกฤษในเพลงพระราชนิพนธ์แสงเทียนด้วย

เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี “อาจารย์สดใส” ได้สอบชิงทุนฟูลไบรต์ไปเรียนปริญญาโทวิชาการสอนภาษาอังกฤษที่สหรัฐฯ แต่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร หัวหน้าแผนกได้รับสั่งให้เลือกศึกษาวิชาศิลปะการละครแทน ปีแรกที่อเมริกา “อาจารย์สดใส”  เริ่มต้นเรียนการละครที่ University of North Carolina (Chapel Hill) โดยได้รับเลือกเป็นนักแสดงนำฝ่ายหญิงในละครเวทีทั้ง 4 เรื่องของมหาวิทยาลัยในปีนั้น การแสดงของ “อาจารย์สดใส” สร้างความประทับใจให้แก่คนดูอย่างมาก จนมีหนังสือพิมพ์กล่าวถึงหลายฉบับ ทั้งยังได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์ Tonight Show ของ Jack Paar ที่นิวยอร์ก และได้ร้องเพลงอัดแผ่นเสียงกับ Liberty Records จนเป็นที่รู้จักในชื่อ Sondi Sodsai

ปีถัดมา “อาจารย์สดใส” ได้รับการแนะนำให้ย้ายไปเรียนที่ UCLA เพื่อจะได้ฝึกงานที่ฮอลลีวูด ที่นั่นละครมิวสิคัลที่ “อาจารย์สดใส” ร่วมแสดง ได้สร้างปรากฏการณ์กวาดรางวัลมากมาย รวมถึงตัว “อาจารย์สดใส” ก็ยังได้รางวัล Best Actress และยังได้รางวัล Oren Stein Memorial Award ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดทางด้านการละครของ UCLA โดย “อาจารย์สดใส” นับเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ได้รางวัลสำคัญนี้

จากนั้น “อาจารย์สดใส” ก็ได้รับข้อเสนอให้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงอาชีพในสังกัดของบริษัท ทเวนตี้ เซนจูรีฟอกซ์ ค่าตอบแทนสัปดาห์ละ 500 เหรียญเป็นเวลา 7 ปี แต่ “อาจารย์สดใส” เลือกที่จะรับเป็นทุนการศึกษาในฐานะนักศึกษาดูงาน เป็นเวลา 2 ปีแทน เพื่อที่จะได้กลับมาเปิดหลักสูตรศิลปะการละครสากลในประเทศไทย

“อาจารย์สดใส” ได้รับโอกาสให้ศึกษาความรู้ในทุกแขนงเกี่ยวกับศาสตร์ภาพยนตร์ที่บริษัทฟอกซ์ ทั้งการแสดง การกำกับ การตัดต่อ การเขียนบท ฯลฯ ได้เรียนรู้กับบุคคลสำคัญในวงการมากมาย และยังได้แสดงภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ของบริษัทฟอกซ์จำนวนมาก เช่น Mike Hammer (2502) ,Adventures in Paradise (2502-2505), Hawaiian Eye (2502), The Case of The Dangerous Robin (2503) รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Wake Me When It's Over (2503) ซึ่งนับเป็นนักแสดงไทยคนแรกที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับฮอลลีวูด นอกจากนี้ “อาจารย์สดใส” ยังได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดนางงามจักรวาล พ.ศ. 2502 ที่อเมริกา และได้รับตำแหน่งนางงามมิตรภาพอีกด้วย

“อาจารย์สดใส” สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2505 และนำความรู้กลับมาจัดทำหลักสูตรวิชาศิลปะการละคร เป็นวิชาเอกของนิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน พ.ศ. 2507 ก่อนจะก่อตั้งแผนกวิชาศิลปะการละครขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2514 ซึ่งถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของไทยที่เปิดสอนสาขาวิชาการด้านนี้ “อาจารย์สดใส” เป็น “ครูใหญ่” ผู้ประสาทวิชาและได้รับความเคารพจากลูกศิษย์มากมายหลายรุ่น ซึ่งหลายคนได้เข้ามาสู่วงการภาพยนตร์ไทยในหลากหลายบทบาท เช่น ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับภาพยนตร์, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, รวมถึง “อรชุมา ยุทธวงศ์” ที่ปัจจุบันทำงานเป็นที่ปรึกษาการแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/XQGPkklyw-4