เลือกตั้งและการเมือง

ไล่ไทม์ไลน์นาที ตร.บุกรวบ ‘ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก’ เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้าน แลกไม่ร้องเรียนคดีความ

โดย petchpawee_k

27 ม.ค. 2567

241 views

ศรีสุวรรณ’ ถูก ตร.ปปป.-ป.ป.ช.-ปปท.รวบตัว เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท แลกไม่เข้าร้องเรียนคดีความด้าน "เจ๋ง ดอกจิก" ถูกรวบคาทำเนียบฯ  เจ้าตัวไม่เครียด ยันชี้แจงได้ไม่มีปัญหา อ้างเป็นแค่ผู้ประสานให้ ”ศรีสุวรรณ” เชิญตัวไป สน.ดุสิต พร้อม “พิมณัฏฐา“ ทำบันทึกจับกุม ก่อนส่งตัวให้ ปปป.ดำเนินคดี

วานนี้ (26 ม.ค.67) เมื่อเวลา 15.00 น. ม.ค.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่  บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. นำโดย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ2 นำหมายค้นเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3  จุด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการนักเคลื่อนไหวหรือนักร้องเรียน ข่มขู่เรียกเงินเจ้าหน้าที่รัฐ แลกกับการไม่ร้องเรียนหรือกลั่นแกล้งให้ถูกตรวจสอบ


สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ว่า ได้ถูกนายศรีสุวรรณ พร้อมด้วยนายยศวริศ ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี  ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต


แต่นายณัฏฐกิตติ์  มั่นใจว่าที่ผ่านมา ตนเองบริหารงานหรือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย กล่าวอ้างเพื่อข่มขู่ จึงมองว่าการถูกกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมแก่ตนเอง แต่ด้วยความที่เกรงว่าหากถูกร้องเรียนโจมตีบ่อยครั้งเข้า จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงยอมจ่ายเงินให้ครั้งแรกก่อนเป็นจำนวน 1.4 แสนบาท ก่อนแอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนส่งมอบเงินเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ก่อนมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง 


จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ นายศรีสุวรรณ และ น.ส.พิมณัฏฐา ในผิดฐาน สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด พร้อมออกหมายจับนายยศวริศ ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อนวางแผนให้ผู้เสียหายทำการนัดหมายส่งมอบเงินงวดต่อมาอีก 500,000 บาท ไปส่งมอบให้ในวานนี้ (26 ม.ค.67) เพื่อซ้อนแผนเข้าจับกุม


โดยเป้าหมายสำคัญจุดแรก เป็นบ้านพักของนายศรีสุวรรณ ที่จังหวัดปทุมธานี หลังจากผู้เสียหายส่งคนนำเงิน 500,000 บาท ไปส่งมอบให้กับภรรยาของนายศรีสุวรรณ กระทั่งเมื่อเห็นว่ามีการหยิบซองเงินเข้าไปภายในบ้านจริง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ซึ่งสามารถจับกุมตัวได้ พร้อมของกลาง คือ เงินสดจำนวน 5 แสนบาท , โฉนดที่ดิน 5 ฉบับ และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 2 ฉบับ


ระหว่างนั้นนายศรีสุวรรณ เกิดไหวตัว พยายามวิ่งนำซองเงินไปโยนทิ้งบริเวณข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ติดตามไปตรวจยึดกลับคืนมาได้ ก่อนแสดงหมายจับให้เจ้าตัวรับทราบ จากนั้นจึงทำการควบคุมตัวพร้อมพาตรวจค้นภายในบ้านพัก เพื่อค้นหาพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติมทางคด


นอกจากนี้ยังได้เตรียมเชิญตัวภรรยาของ นายศรีสุวรรณ ไปทำการสอบปากคำ เพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตามหลังการจับกุมตัว นายศรีสุวรรณ ได้ไม่นาน ทางด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มายัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อประสานติดต่อจะพา นายยศวริศ กับ น.ส.พิมณัฏฐา ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เข้ามอบตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจานัดหมายสถานที่รับส่งมอบตัว

เวลา 16.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และ สน.ดุสิต ได้เข้ามาพูดคุยและเชิญนายยศวริศ ขึ้นรถเพื่อไปที่ สน.ดุสิต ทำการสอบสวนตามขั้นตอนและกระบวนการต่อไป /ด้านนายยศวริศ กล่าวว่า “ยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้เรื่องอะไร เพิ่งรู้เรื่องจากตำรวจ ผมประสานให้นายศรีสุวรรณ เฉย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องคุยกันไม่เป็นไร ยืนยันว่าชี้แจงได้ ขอย้ำว่าชี้แจงได้ไม่มีปัญหา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง ได้มาเตรียมพร้อมบริเวณห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 และด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่ช่วงเที่ยง ซึ่งมีรายการว่านายยศวริศ ได้เดินทางเข้ามาที่ตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่สายๆ เพื่อพบกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน

17.30 น. ภายหลังตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจ สน.ดุสิต นำตัวนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีมาที่ สน.ดุสิต หลังถูกดำเนินคดี กรณีร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว จำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน มาจากทำเนียบรัฐบาล เดินทางมายัง สน.ดุสิต

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ได้ทำบันทึกการจับกุม ตามขั้นตอนทั้งนายยศวริศ และ น.ส.พิมณัฏฐา ที่ห้องประชุมชั้น 3  ของโรงพักดุสิต โดยนายยศวริศ มีสีหน้าปกติ แต่มีลักษณะของการประสานงานตลอดเวลา และมีทนายความอยู่ด้วยตลอด

18.05 น.ตำรวจ สน.ดุสิต คุมตัว นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก ออกมาเข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้น นักข่าวพยายามสอบถามว่า รู้สึกกังวลหรือไม่ เครียดหรือไม่ นายยศวริศ ยิ้มและโบกมือปฏิเสธไม่เครียด เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าไม่ได้ทำผิด นายยศวริศ ไม่ได้พูดตอบคำถาม แต่ยิ้มพยักษ์ตอบคำถามแทน ก่อนจะเข้าห้องไปทำบันทึกและเอกสารการจับกุมต่อ

ขณะที่นายศรีสุวรรณ หลังจากตร.จับกุมตัวได้ที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายศรีสุวรรณ  ไปลงบันทึกจำวันที่ สภ.คูคต ระหว่างนำตัวขึ้นรถนักข่าวก็พยายามสอบถามว่าอยากชี้แจงอะไรหรือไม่ ได้ข่มขู่รีดทรัพย์หรือไม่ เจ้าตัวปัดตอบ ก่อนขึ้นรถเจ้าหน้าที่ทันที


ต่อมาในเวลา 18.02 น. ตำรวจสอบสวนกลางควบคุมตัว นายศรีสุวรรณ และภรรยา เข้ามาสอบปากคำโดยละเอียดที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง   เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาถึง นายศรีสุวรรณมีใบหน้ายิ้มแย้ม ไร้ความกังวล เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทางด้านของนายศรีสุวรรณ ตอบเพียงสั้นๆว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้ง พร้อมยืนยันว่าไม่ได้รับเงิน

เมื่อถามย้ำว่าเงินที่เรียกไปจาก 3 ล้าน เหลือ 1.5 ล้าน ได้เรียกรับหรือไม่ นายศรีสุวรรณบอกว่า “ขอให้เชื่อมั่นในตัวศรีสุวรรรณ”  ก่อนจะเดินเข้าลิฟท์ ขึ้นไปยัง ชั้น 16 เพื่อรับการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ทันที พร้อมชู 2 นิ้วให้สื่อมวลชน

-----------------------------------------------------
ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เผยแผนรวบคู่หูจอมไถ คิดว่าจ่าย 5 แสนแล้วจะจบ แต่โดนไถต่ออีก 3 ล.

ทนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ว่าได้ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกทรัพย์สินเป็นเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งได้กล่าวหาว่าอธิบดีกรมการข้าวทุจริต และได้ข่มขู่ว่าจะไปร้องเรียน และแถลงข่าว

โดยทางผู้เสียหายถูกข่มขู่เรียกรับเงินตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม ปี 66 ที่ผ่านมา ซึ่งทางอธิบดีกรมการข้าว ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว และตัดความรำคานทั้งที่ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา จึงให้เงินไปจำนวน 5 แสนบาท ซึ่งคิดว่าจะจบ แต่ต่อมาทางฝั่งคู่กรณีได้มีหนังสือร้องเรียนไปที่กระทรงเกษตรฯ ว่ากรมการข้าวทุจริตเรื่องการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ต่างๆ หลังจากนั้นได้มีการให้นาย จ. มาติดต่อทางอธิบดีกรมการข้าว ว่าหากต้องการให้เรื่องยุติต้องจ่ายเงิน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท โดยมีการจ่ายเงินไปช่วงก่อนปีใหม่ 6 หมื่นบาท จากนั้นได้มีการจ่ายเงินอีก 1 แสนบาทโดยจ่ายเป็นเงินสดให้กับนายศรีสุวรรณที่บ้าน

จากนั้นได้ถูกทางฝั่งคู่กรณีเรียกรับเงินอีก 5 แสนบาท ซึ่งทางฝั่งคู่กรณียังบอกอีกว่าหากไม่ได้รับเงินภายในวานนี้ (26 ม.ค.) จะไปแถลงข่าวอีกว่ากรมการข้าวทุจริต และยังกล่าวหาภรรยาอธิบดีกรมการข้าวด้วยว่าทุจริตการนำเข้าไก่ โดยทางอธิบดีกรมการข้าว ทนไม่ไหวแล้ว จึงได้ปรึกษากับตน ซึ่งก็คุยกันว่าคนแบบนี้ไม่ควรอยู่ในสังคม เพราะคนที่ไม่ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา แต่เมื่อไปร้องก็เกิดความเสียหาย ตนจึงเข้าไปปรึกษาทางกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จึงเป็นที่มาของปฏิบัติการเมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) โดยการนำเงินไปล่อซื้อจำนวน 5 แสนบาท โดยนำมาห้อยไว้ที่ประตูบ้านของนายศรีสุวรรณ ซึ่งผู้ที่ออกมารับเงินคือนายศรีสุวรรณ และภรรยา ออกมาพร้อมกัน ซึ่งตนเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้ ทนายดนุเดช ยังบอกอีกว่า ขบวนการนี้มีอีกหลายคน ซึ่งต้องการจะโค่นเก้าอี้อธิบดีฯ ซึ่งมีนักการเมืองใหญ่ ชื่อ ป. รวมอยู่ด้วย เพื่อต้องการเอาคนของเขาขึ้นมาเป็นอธิบดีกรมการข้าว และตนยังได้รับการร้องเรียนมาอีกว่าคู่กรณีมีพฤติการณ์แบบนี้อีกเยอะ
--------------------------------------------------------------

‘เจ๋ง ดอกจิก’ ยัน ไม่เกี่ยวข้อง-ไม่รู้เรื่อง บริสุทธิ์ใจจึงมอบตัว มองพัวพันศรีสุวรรณ เพราะเคยร้องเรียนทุจริตในภาครัฐด้วยกัน แจง ลาออกทุกตำแหน่งทางการเมืองแล้ว หวั่นกระทบพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันไม่มีการจัดฉากร้องเรียนเพื่อเรียกรับประโยชน์

เวลา 19.40 น. หลังจากทำบันทึกจับกุมเสร็จสิ้น นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ภายหลังจากที่ตำรวจสอบสวนกลาง และ ตำรวจกองบังคับการ ปปป. ทำบันทึกการจับกุม นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก หลังถูก ปปป.ดำเนินคดีในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.157 กรณีร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน เสร็จสิ้น ตำรวจก็คุมตัวไปที่ กองบังคับการ ปปป. ทันที

โดยระหว่างคุมตัวขึ้นรถ นักข่าวพยายามถามว่า รู้จักกับอธิบดีกรมการข้าว หรือไม่ นายเจ๋ง ดอกจิก ตอบว่า เคยได้คุยกัน แต่เดี๋ยวเรื่องคดีให้ทนายจัดการ และวันนี้มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากทราบข่าวว่ามีการแจ้งความเลยมามอบตัว และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์

 นักข่าวถามอีกว่า ที่ตำรวจกล่าวหาว่าคุณเจ๋ง กับนายศรีสุวรรณ ร่วมกันจัดฉากร้องเรียนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ อยากจะชี้แจงอย่างไรบ้าง นายเจ๋ง ดอกจิก ตอบว่า “เลอะเทอะๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ทนายจัดการ ผมยืนยันในความบริสุทธิ์แน่นอน ไม่มีการจัดฉาก ไม่มีๆ”


ส่วนกับนายศรีสุวรรณ ก็รู้จักอยู่แล้ว ใครบ้างจะไม่รู้จัก แต่ไม่ตอบว่าล่าสุดไปร่วมกันร้องเรียนเคสไหน แต่บอกเพียงว่า ไปร้องเรียนด้วยกันไม่ค่อยบ่อย ถ้ามีการทุจริตองค์กรก็จะไปร้อง ส่วนที่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานว่าไปเกี่ยวข้องนั้น ก็ให้ทนายจัดการและตนเองยืนยันว่า ‘พร้อมสู้คดี’ แต่นายเจ๋ง ดอกจิก ไม่ได้ตอบคำถามว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ทางการเมืองหรือไม่

ขณะเดียวกันหลังจากตำรวจทำบันทึกการจับกุม น.ส.พิมณัฏฐา  อดีตผู้สมัครสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ หนึ่งในคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ที่มามอบตัวพร้อมกับ เจ๋ง ดอกจิก เพราะถูกดำเนินคดีในความผิด สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดก็ถูกคุมตัวออกจาก สน.ดุสิต ไปยัง ปปป. เช่นกัน

โดยระหว่างคุมตัวออกมา นักข่าวพยายามสอบถาม ส่วนตัวรู้จักกับศรีสุวรรณหรือไม่ อยากจะชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร เจ้าตัวไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่ายืนยันในความบริสุทธิหรือไม่ ยืนยันหรือไม่ว่าเราไม่ได้กระทำความผิด เจ้าตัวพยักหน้าตอบรับ เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เจ้าตัวก็พยักหน้าก่อนจะขึ้นรถไป


https://youtu.be/MJAuxc_r88w

คุณอาจสนใจ

Related News