สังคม

นายกฯ สั่งติดตามการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล - 'ภูมิธรรม' ร่วมหลายหน่วยงาน เตรียมแผนอพยพคนไทย

โดย parichat_p

8 ต.ค. 2566

65 views

ผลกระทบที่เกี่ยวกับคนไทย ในเหตุการณ์สู้รบระหว่าง อิสราเอล และ กลุ่มฮามาส วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนฮ่องกง แต่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนไทย ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนการอพยพคนไทยจากอิสราเอล โดยยืนยันว่าไทยมีความเป็นกลาง และสนับสนุนให้เกิดสันติภาพ ส่วนการประนามความรุนแรง เพื่อเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center) พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพอากาศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังดำรงอยู่ของทั้ง 2 รัฐ ทั้งปาเลสไตน์ และอิสราเอล จึงต้องติดตามการช่วยเหลือคนไทยประมาณ 5,000 คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซา


นายภูมิธรรม ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความคุ้มครองชีวิตของคนไทยอย่างเต็มที่ ขณะนี้พบว่าคนไทยเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 2 ราย บาดเจ็บ 8 ราย มี 2 รายยังอยู่โรงพยาบาล ส่วนที่ถูกจับกุมตัวมี 11 ราย โดยมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการ อาจมีคนไทยเสียชีวิตถึง 12 คน โดยกองทัพอากาศพร้อมทำการบินเพื่ออพยพคนไทยทันทีที่สถานการณ์คลี่คลาย


นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขอความกรุณาสื่อมวลชนในการไม่เผยแพร่รายชื่อคนไทยที่ได้รับผลกระทบ เพราะอาจสร้างความสับสน จนกว่าข้อมูลจะแน่ชัด ส่วนการแถลงประนามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของรัฐบาลไทย เป็นหลักการตามหลักมนุษยธรรม ที่ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นฝ่ายได้ รวมถึงกรณีกลุ่มฮามาส จับกุมตัวแรงงานไทยเป็นตัวประกัน เชื่อว่าแรงงานไทยไม่ได้อยู่ในเป้าหมาย จึงเชื่อว่าจะได้รับการปล่อยตัวออกมา แต่อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลที่ชัดเจน


นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์บริเวณฉนวนกาซายังรุนแรง และทางการอิสราเอลไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าพื้นที่ และไม่อนุญาตให้ประชาชนออกจากเคหะสถานโดยเด็ดขาด โดยอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ฉนวนกาซายังใช้ไม่ได้ จึงสามารถติดต่อแรงงานได้ผ่านเบอร์โทรศัพท์ ส่วนคนไทยนอกพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบและปลอดภัยดี โดยที่ประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน ยังได้หารือถึงแผนการอพยพและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ


นอกจากนี้ กรมการกงสุลได้ติดต่อนางวนิดา อ่างแก้ว ภรรยาหนึ่งคนไทยที่ถูกจับกุม เพื่อสอบถามและให้กำลังใจ รวมทั้งกระทรวงแรงงานก็ได้ดำเนินการติดต่อญาติแรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วยและกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้สั่งการให้ สถานเอกอัครราชทูต ณกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประสาน สำนักงานปาเลสไตน์ที่มาเลเซีย เพื่อแสดงความห่วงกังวลกับสถานการณ์ และให้ประสานในการปล่อยตัวคนไทย

คุณอาจสนใจ

Related News