'นักดนตรี' งานเลี้ยงบ้านกำนันนก เผยวินาทีเกิดเหตุ ถูกให้เลิกเล่นก่อนเวลา ก่อนเสียงปืนรัวสนั่น

'นักดนตรี' ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก เผยวินาทีก่อน 'หน่อง' ยิง 'สารวัตรศิว' เสียชีวิต เก็บเครื่องเสียงไม่ถึง 5 นาที เสียงปืนรัวสนั่น

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้ไปพูดคุยกับนายอ๊อฟ นักดนตรีที่ถูกจ้างให้ไปเล่นในงานเลี้ยงบ้านกำนันนกในคืนวันเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างให้ไปเล่นดนตรีที่บ้านของกำนันนกตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม ค่าจ้าง 2,500 บาท ตนเองเดินทางไปเซ็ตเครื่องเสียงตั้งแต่ก่อน 6 โมงและเริ่มเปิดเพลง ให้แขกในงานร้องคาราโอเกะกัน

6 โมงเย็น แขกก็เริ่มทยอยเข้ามาในงาน ตนเองไม่ทันได้สังเกตว่าสารวัตรศิว เดินทางมาถึงตอนกี่โมงและมากับใคร เหตุการณ์ตอนนั้นปกติดีทุกอย่าง ทุกคนยังอยู่ในอารมณ์สนุกสนาน จึงไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก

จนเกือบ 3 ทุ่ม นายหน่อง เดินนำเงินค่าจ้างมามอบให้ตน 3,000 บอกว่าไม่ต้องทอนและให้เก็บเครื่องเสียงได้ งานเลี้ยงเลิกไวกว่ากำหนด ตนเองสังเกตว่าคนในงานไม่มีใครเมา หลังจากรับเงินก็เลยยกมือไหว้ขอบคุณ นายหน่องยังบอกว่า ให้ไปขอบคุณกำนันนก ที่เป็นคนจ่ายเงิน ตนเองก็เดินไปยกมือไหว้ขอบคุณกำนันนก ตอนนั้นสังเกตว่า กำนันนกไม่ได้มีอาการมึนเมา ตัวนายหน่องก็ไม่ได้เมา

แล้วตนก็เดินกลับไปเก็บเครื่องเสียงต่อ ไม่ถึง 5 นาที ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงหันไปมองก็พบว่า คนที่ยิงสารวัตรศิวนั้น คือ นายหน่อง ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตกใจ แล้วตำรวจบางคนก็ช่วยกันพยุงตัวคนเจ็บไปโรงพยาบาลทันที

ตนเห็นว่า หลังเกิดเหตุมีกลุ่มชายประมาณ 5-6 คน ได้เข้าไปจับตัวนายหน่อง และบอกว่า "ให้ใจเย็นๆ" ซึ่งนายหน่อง ยอมยื่นปืนให้แต่โดยดีไม่มีทีท่าขัดขืน พร้อมกับมีตำรวจ 2 คน ประคองกำนันนกไว้ ก่อนที่จะพาทั้งคู่เดินเข้าไปภายในบ้าน ตนเองตอบไม่ได้ว่า กลุ่มชายดังกล่าวเป็นตำรวจหรือไม่

และด้วยความตกใจตนจึงพยายามรีบเก็บของและออกจากที่เกิดเหตุทันที จึงไม่ได้สังเกตว่ากำนันนก และนายหน่อง ออกไปในช่วงเวลาใด สำหรับตำรวจรายอื่น ๆ นั้นก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันออกไปจากจุดเกิดเหตุทันที โดยตนไม่ทันสังเกตว่า ขบวนรถที่ออกกันไปออกไปตอนไหนอย่างไร

หลังเกิดเหตุ คนจัดโต๊ะจีนเริ่มเก็บข้าวของรวมไปถึงโต๊ะที่เกิดเหตุด้วย ระหว่างนั้นก็มีชายคนหนึ่ง ซึ่งตนไม่มั่นใจว่าเป็นตำรวจมั้ย ได้เข้ามาห้ามไม่ให้พนักงานเก็บโต๊ะจีนตัวที่เกิดเหตุ

ในส่วนประเด็นที่ว่า หลังเกิดเหตุมีคนสั่งให้ล้างคราบเลือดหรือไม่นั้น ตนเองยืนยันว่า ไม่มีใครสั่งให้ล้างคราบเลือด มีเพียงคนงานในสำนักงานของกำนันที่มีการทำความสะอาดโต๊ะยาว ซึ่งไม่เกี่ยวกับโต๊ะที่เกิดเหตุ

สำหรับนายโบ๊ท ตอนนั้นตนยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุไม่เห็นนายโบ๊ทอยู่พื้นที่จุดเกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านั้นนายโบ๊ทได้อ้างกับตนว่า ขอตังค์กลับบ้านก่อน แต่ตนก็ไม่ทราบเขาได้กลับบ้านจริง ๆ หรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น สำหรับนายเก่งนั้นตนยืนยันว่าไม่รู้จัก และไม่เคยพูดคุยกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4nWkoLhDiWY