ข้าราชการทำบัตรประชาชนปลอมให้เยาวชนพกเข้าผับ พบทำมาแล้วนับ 10 ปี กวาดเงินจากเยาวชนนับสิบล้านบาท

                 ผู้ปกครองนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ร้องสื่อ หลังพบว่า สถานบันเทิงหลายแห่ง อนุญาตให้เยาวชนอายุ 16-17 ปี เข้าไปใช้บริการ ทำให้ลูกหลานเสียการเรียน โดยเฉพาะเด็กที่มาเช่าบ้านอยู่คนเดียว เพื่อเรียนในตัวเมือง  

              แต่จากการตรวจสอบ พบว่า สถานบันเทิงทุกแห่งจะมีการ์ดคอยตรวจบัตรประจำตัวประชาชน หากอายุไม่ถึง 20 ปี ก็จะไม่อนุญาตให้เข้าไปใช้บริการ ข้อมูลจึงขัดแย้งกับที่ผู้ปกครองให้มา  แต่จากการสังเกตวัยรุ่นที่ไปใช้บริการ บางคนน่าจะอายุไม่เกิน 17 ปี แต่เมื่อตรวจสอบบัตรประชาชน พบว่า กลับมีอายุมากถึง 20-22 ปี

          จนกระทั่งตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกตรวจสถานบันเทิงอย่างละเอียดแบบปิดประตูตีแมว คืนละ 1-2 แห่ง  โดยตรวจค้นทั้งยาเสพติด อาวุธปืน สิ่งผิดกฎหมาย และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด  ซึ่งการตรวจปัสสาวะ นักเที่ยวจะต้องแสดงบัตรประชาชน โดยเจ้าหน้าที่จะใส่หมายเลขประจำตัวบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบในระบบการลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสโควิด-19  ปรากฏว่า มีเยาวชนหลายสิบคน มีอายุที่แสดงในระบบ  แตกต่างจากในบัตรประชาชน  คือ ในระบบ ระบุอายุแค่ 16-18 ปี  แต่ในบัตรประชาชน พบว่า อายุ 20-22 ปี  เมื่อตรวจบัตรประชาชนอย่างละเอียด ก็พบว่า เลข 13 หลัก , ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่ , วันและเดือนเกิด จะตรงกับข้อมูลในระบบ ยกเว้น พ.ศ.เกิด ที่ในบัตรจะมากกว่าอายุจริง

            เจ้าหน้าที่จึงแยกเด็กและเยาวชนที่พบความผิดปกติดังกล่าว พบว่า แต่ละคนพกบัตรประชาชนคนละ 2 ใบ  ใบแรกเป็นบัตรจริง และอีกใบเป็นบัตรปลอม  เมื่อเจ้าหน้าที่เค้นสอบ ทั้งหมดก็รับสารภาพว่า ไปทำบัตรประชาชนปลอม

             จากการตรวจสอบ  พบว่าจะมีข้าราชการฝ่ายทะเบียนราษฎร์ของอำเภอแห่งหนึ่ง  รับดำเนินการให้ ในราคาใบละ 1,500-3,000 บาท  โดยเยาวชนพากันบอกปากต่อปาก  ไปทำบัตรปลอมกันนับ 10 ปีแล้ว  คาดว่ามีการทำบัตรประชาชนปลอม ให้กับเยาวชนไปแล้วหลายพันใบ โดยจะมีนายหน้ามาติดต่อกับเด็ก ๆ หากใครต้องการทำบัตรประชาชน  ก็ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมเงินค่าจ้าง มามอบให้ข้าราชการฝ่ายทะเบียนของอำเภอคนดังกล่าว  โดยจะได้บัตรประชาชนปลอมภายใน 2-3 วัน  ซึ่งคาดว่าข้าราชการคนดังกล่าว จะนำไปทำด้วยระบบและเครื่องมือของทางราชการบนที่ว่าการอำเภอ  ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำ  ก็เป็นทรัพย์สินของทางราชการ  เชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ 2-3 คน สร้างรายได้ให้กับข้าราชการกลุ่มดังกล่าวมาแล้วหลายสิบล้านบาท

           ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ม.4 พอทราบเรื่อง ก็ตกใจมาก และเรียกร้องให้นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที