สาวแฉ ส.ต.ต. อ้างเป็น พ.ต.ต. หลอกให้รัก พอท้องบังคับทำแท้ง ต้นสังกัดทำโทษขังแค่ไม่กี่วัน

สาวแฉ สิบตำรวจตรี อ้างเป็น พันตำรวจตรี หลอกมาคบหา ยืมเงิน พอท้องก็บังคับทำแท้ง ด้านผู้บังคับการ ตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชนยอมรับ เป็นเรื่องจริง สั่งตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว



ผู้เสียหายเป็นแม่ค้าขายในจังหวัดนครสวรรค์ อายุ 43 ปี เล่าว่า รู้จักกับ สิบตำรวจตรีคนนี้ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ขณะตำรวจคนนี้เข้ามาจับผู้ค้ายาเสพติด และพูดคุยกันมาตลอด กระทั่งอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ตอนนั้นเขาอ้างว่าเป็นตำรวจ ยศ "พันตำรวจตรี" ระดับสารวัตร ทั้งที่เพิ่งจะอายุแค่ 27 ปี เท่านั้น จึงคบหากันเรื่อยมาเพราะเห็นว่าการงานมั่นคง และดูแลเอาใจใส่เธอดี ตลอดเวลาที่คบหากันฝ่ายชายบอกตลอดว่าอยากมีลูก เธอจึงบอกว่าต้องจดทะเบียนสมรส แต่ฝ่ายชายอ้างว่า จดไม่ได้ เพราะจดทะเบียนกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ สาเหตุที่จดเพราะกู้เงินไปซื้อบ้าน



กระทั่งเดือนกันยายน 2565 เธอรู้ตัวว่าตั้งท้องได้ 2 เดือน จึงบอกฝ่ายชาย แต่ฝ่ายชายกลับยื่นเงินมาให้ 5 หมื่นบาท และบอกให้ไปทำแท้ง โดยอ้างว่าไม่พร้อม เธอจึงเริ่มสงสัยในตัวฝ่ายชาย นำบัตรข้าราชการตำรวจของแฟนหนุ่ม ที่ระบุยศ "พันตำรวจตรี" ไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยตรวจสอบ ถึงรู้ว่าโดนหลอก ที่จริงเป็นตำรวจยศ "สิบตำรวจตรี" สังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล



เมื่อมาย้อนดูพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม พบว่ามักจะมาขอยืมเงินบ่อยครั้ง ทั้งที่หากเป็นสารวัตรจริง ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนเรื่องเงิน จนขนาดที่เธอต้องเอารถยนต์เข้าไฟแนนซ์ เพื่อช่วยเหลือตำรวจคนนี้หลายครั้ง และด้วยความเสียใจที่โดนหลอก และไม่รับผิดชอบเรื่องลูก จึงเข้าร้องเรียนกับต้นสังกัด ปรากฏว่าลงโทษแค่ธำรงวินัย สั่งขัง เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเสนอแนะให้รับเงินชดใช้ค่าเสียหายเพื่อให้จบเรื่องนี้ ซึ่งเธอยอมรับไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ต้องออกจากราชการตำรวจ และต้องมาชดใช้หนี้สิน รวมถึงเรื่องลูกในท้องด้วย



เธอยังบอกด้วยว่าพอออกมาแฉก็มีผู้เสียหายหญิงคนอื่นออกมาแสดงตัวว่าโดนตำรวจคนนี้หลอกคบหาและขอเงิน ล่าสุดผู้เสียหายอีกคนเป็นเจ้าของโรงแรมอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เคยเสียเงินให้กับตำรวจคนนี้ไปกว่า 1 ล้านบาท เคสนี้ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้



ล่าสุดทีมข่าวสอบถามไปยังพลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า สิบตำรวจตรีคนดังกล่าว เป็นตำรวจในสังกัด อคฝ.จริง ปฏิบัติงานมาแล้ว 3 ปี แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวเนื่องจากเป็นโควิด-19 จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่ได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอก อดิเรก ทองแกมแก้ว ผู้กำกับการ กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1 อคฝ. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง



คาดว่าไม่เกินวันพุธที่ 23 พฤศจิกายนนี้จะได้ข้อสรุป พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้มีมูล แต่จะผิดมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ทั้งเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร การแต่งกาย และเรื่องของเงิน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/Hx3aagjrHso