พ่อวัย 71 ถูกครูซิ่งเก๋งชนดับ ผ่านหลายเดือนคดีเงียบ สุดท้ายกลายเป็นผู้ต้องหา ซ้ำ ตร.สั่งห้ามไม่ให้วงจรปิดญาติ

ลูกบุกร้องผู้การตำรวจ หลังพ่อวัย 71 ปี ถูกครูซิ่งเก๋งชนท้ายเสียชีวิต ผ่านไปหลายเดือนคดีเงียบ สุดท้ายตำรวจแจ้งข้อหา พ่อขับรถประมาท แถมห้ามร้านไม่ให้ภาพวงจรปิดกับญาติเหยื่อ



นี่เป็นภาพวงจรปิดที่ลูกๆ ของนายจิตติน อายุ 71 ปี ผู้เสียชีวิต ไปหามาได้ เป็นภาพเหตุการณ์ก่อนที่นายจิตติน จะเสียชีวิต ขณะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปรับหลานสาววัย 5 ขวบ จากโรงเรียนแล้วกำลังจะขี่รถกลับบ้าน อยู่ในเลนขวาบนถนนสายเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อเตรียมจะกลับรถ แต่จังหวะนั้นได้ถูกเก๋งคู่กรณี ซึ่งคนขับเป็นครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ขับพุ่งชนท้ายจนร่างนายจิตติน กระเด็นกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนหลานสาวบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 68 ที่ผ่านมา



หลังเกิดเหตุปรากฏว่า เวลาผ่านมานานหลายเดือน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และชี้ว่าผู้เสียชีวิตกลายเป็นฝ่ายผิด ข้อหาฐานขับรถโดยประมาท สร้างความสงสัยให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างมาก



โดยนายรณกร ลูกชายผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัวได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพันตำรวจเอก อภิชาติ ศรีทองกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้รับเรื่องแทน



นายรณกร บอกว่า ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนไม่ยอมให้เห็นสำนวนการสอบสวนคดีแม้แต่ครั้งเดียว บอกเพียงว่า ให้ไปดูสำนวนที่อัยการ ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนเองเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ และมีโอกาสพูดคุยกับคนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุ เขายอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด ไม่ทันสังเกตเห็นรถของพ่อตนที่ขี่อยู่ด้านหน้า จึงชนท้ายเข้าอย่างจัง



ตอนแรกคิดว่าคดีไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กระทั่งมาทราบภายหลังว่า พนักงานสอบสวนนำสำนวนส่งอัยการ สรุปว่าพ่อเป็นฝ่ายผิด ขับขี่ด้วยความประมาท ตัดหน้ารถเก๋งคู่กรณี ด้วยความคาใจตนเองจึงพยายามออกเสาะหากล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าของร้านที่มีกล้อง



โดยเจ้าของร้านบอกว่า ทางตำรวจสั่งห้ามไม่ให้มอบคลิปวงจรปิดกับใครเด็ดขาด ทางตนและครอบครัวจึงพยายามขอร้อง จนเจ้าของร้านยอมมอบคลิปวงจรปิดมาให้ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วเห็นได้ชัดว่า ในช่วงที่เกิดเหตุพ่อขี่รถอยู่ในเลนขวาเพื่อรอที่จะกลับรถแล้ว แต่รถเก๋งคู่กรณีขับมาจากด้านหลัง กลับพุ่งชนรถพ่ออย่างจัง ไม่มีแม้แต่การพยายามเบรกรถ สอดคล้องกับร่องรอยบนพื้นถนนไม่มีรอยเบรคแต่อย่างใด



ด้านนายเอ (นามสมมติ) คู่กรณี เปิดใจกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็รู้สึกเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเป็นอุบัติเหตุ ที่ผ่านมาพยายามที่จะเยียวยาเท่าที่จะสามารถทำได้ ทั้งไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต และไปเยี่ยมน้อง 5 ขวบ ที่โรงพยาบาล



ส่วนเรื่องการเยียวยายังไม่ได้ข้อสรุป โดยตนเสนอแนวทางที่จะเยียวยาไป คือ ขอจ่ายเงินก้อนแรก 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นจะขอผ่อนให้เป็นงวดๆ เนื่องจากไม่มีเงินก้อน ซึ่งอาจทำให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่โอเค ส่วนทางประกัน รถตนมีประกันชั้น 1 แต่ตอนนี้ก็ต้องรอผลสรุปของคดีก่อน



ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเปลี่ยนเลนมาจริงๆ และคดีตนเองก็ไม่ได้แทรกแซงคดีแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีพ่อเป็นนักการเมือง แต่ก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรเลย และไม่ได้รู้จักกับตำรวจแต่อย่างใด



ทีมข่าวสอบถามไปที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ระบุว่า สรุปสำนวนไปตามหลักฐานที่มี ซึ่งมีมากกว่าที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเห็น ขณะนี้ก็ต้องรอทางอัยการ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสำนวน ว่าจะมีความเห็นสั่งฟ้องอย่างไรหรือไม่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/3VKarKnVzsw