สุดเอือม เพื่อนบ้านเปิดเพลงดัง ทนนานกว่า 3 ปี ตำรวจเตือนยังไม่แคร์ ยินดีเสียค่าปรับ

โดยคลิปแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาบริเวณหน้าบ้านของคู่กรณี ภายในคลิปจะเห็นได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสองนาย ขี่รถมอเตอร์ไซค์ เปิดไฟฉุกเฉินพร้อมกดออดหน้าบ้านของคู่กรณี แต่ฝั่งบ้านของคู่กรณีก็ยังเปิดเพลงเสียงดังอยู่ ไม่มีใครยอมออกมาจากบ้าน ส่วนเสียงของผู้ถ่ายคลิปถามว่า ยิ่งบอกยิ่งดัง ยิ่งแจ้งเจ้าหน้าที่มายิ่งดังขึ้น ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ถ่ายคลิปและนำหลักฐานไปแจ้งความ เพราะเพื่อนบ้านไม่ยอมออกมา

คลิปที่สอง เป็นคลิปที่ถ่ายภายในบ้านของผู้ร้อง บริเวณกำแพงบ้านที่ผนังชนกันกับฝั่งบ้านของคู่กรณีทำให้ได้ยินเสียงกระแทกมายังข้างบ้าน โดยเสียงดังมาก

ส่วนคลิปที่สาม เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อคืนนี้ ในขณะที่เจ้าของบ้านกำลังถอยรถเข้าบ้าน เพื่อนบ้านหลังดังกล่าวเดินผ่านมาและได้ตะโกนด่าทอ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย โดยบอกว่า “มองเฮียอะไรหน้าเหมือนพ่อมึงหรือไง”

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณ สิทธิกร ปรักกัมนนท์ ลงพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ย่านประเวศ อ่อนนุช พบว่าบ้านของผู้ร้องและคู่กรณีอยู่หลังติดกัน

จากการพูดคุยกับคุณธี (นามสมมุติ) เจ้าของบ้านผู้ร้อง บอกว่า ตนต้องทนกับเพื่อนบ้านมา 3 ปีแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรม เปิดเพลงเสียงดัง ตีหนึ่งจนถึงตีห้า หลังจากเข้ามาอยู่ก็เปิดเพลงเสียงดังตั้งแต่วันแรก ตีหนึ่ง ตีสอง จนถึงตีห้า ทำให้ต้องอดทนมาโดยตลอด ไม่อยากมีปัญหากัน พอแจ้งตำรวจ เพื่อนบ้านดังกล่าวก็เบาเสียงลง พอตำรวจกลับไปก็เปิดเสียงดังแถมดังกว่าเดิม

จึงตัดสินใจถึงขั้นซื้อเครื่องวัดเดซิเบล (เครื่องวัดความดังเสียง) มาตรวจวัดความดัง พอวัดเสียงดังถึง 80-100 เดซิเบล นอกจากนี้ตนได้ส่งไปในไลน์กลุ่มของหมู่บ้าน แต่ก็ไม่เป็นผล จนต้องแจ้งนิติบุคคลหมู่บ้าน แต่นิติกลับแจ้งว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางนิติทำได้แค่ขอความร่วมมือ แจ้งไปถึง 4 ครั้ง แต่ยิ่งแจ้งไปเสียงก็ยิ่งดังขึ้นไปอีก

จนล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตักเตือนเรื่องเสียงดัง เจ้าหน้าที่มายืนหน้าบ้าน เสียงเพลงก็ยังดังอยู่ เจ้าหน้าที่กดกริ่งหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ จนต้องยืนรออยู่พักใหญ่ และมีปาสิ่งของออกมาจากในบ้าน เจ้าของบ้านคงคิดว่าตนเป็นคนไปกดกริ่ง แต่พอรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา บ้านคู่กรณีกลับตอบหน้าตาเฉยว่า ยินดีเสียค่าปรับ

ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเพราะทำทุกวิถีทางแล้ว ไม่ว่าจะแจ้งกับเจ้าตัว(เพื่อนบ้าน) แจ้งกับนิติบุคคล ก็ไม่เป็นผลล่าสุดแจ้งความไว้ที่ สน.อุดมสุข แต่คดีก็ยังไม่คืบ

ทีมข่าวของเรา ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านคู่กรณี บอกว่า ตอนย้ายเข้ามาอยู่แรกๆ ตนยัง สนิทสนมกับคุณธี เป็นอย่างดี เวลาตนจะต่อเติมสวนหลังบ้าน ตนยังไปถามกันอยู่เลย

หลังจากนั้นคุณธี กลับนำผนังมาก่อปิดกั้น ทำให้ทัศนวิสัยเสีย แถมยังบทบังลมและแดด ตนบอกว่าให้เอาที่กั้นออกได้ไหม แต่คุณธีก็ไม่เอาออก หลังจากนั้นตนก็ไม่ค่อยได้คุยกับคุณธีอีกเลย

ยอมรับว่าเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเปิดเพลงเสียงดัง ชอบปาร์ตี้ ชอบเครื่องเสียง ภายบ้างตนมีเครื่องเสียงชุดใหญ่ ในรถยนต์ก็ยังมี และอย่าลืมว่าตนใช้เสียงในพื้นที่ของตนไม่ได้ไปรบกวนบ้านหลังอื่น แต่มีบางวันต้องย้ำว่าบางวันที่เปิดเสียงดังจริง แต่ไม่ใช่ว่าทุกวันอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง