คาบูลแตก! ชาวอัฟกันหนีตาย แย่งกันเกาะล้อเครื่องบินร่วงพื้นดับ 'ไบเดน' กล่าวโทษรัฐบาลอัฟกัน ไม่ยอมต่อสู้เอง

สถานการณ์ในประเทศอัฟกานิสถาน หลังกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองเป็นไปด้วยความโกลาหลมากที่สุดครั้งหนึ่งของโลก ประชาชนต่างยื้อแย่งหาทางขึ้นเครื่องบินหนีออกนอกประเทศ จนคล้ายกับเหตุการณ์ "ไซ่ง่อน แตก" เมื่อปี 1975 เมื่อชาวเวียดนามใต้จำนวนมาก พยายามยื้อแย่งขึ้นเครื่องบินของสหรัฐ หนีออกจากประเทศหลังกองทัพเวียดนามเหนือเข้ายึดครองประเทศได้

โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮามิด คาร์ไซ ซึ่งเป็นสนามบินหลักในกรุงคาบูลนั้น เกิดเหตุความวุ่นวายอย่างที่สุด เนื่องจากประชาชนหลายพันคนพยายามหาทางหนีออกออกจากประเทศ โดยคิดว่าการเดินทางมาที่สนามบินจะสามารถออกไปจากประเทศนี้ได้ ทำให้เห็นภาพการแย่งชิงกันขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ที่ยังเหลืออยู่

มีภาพชาวอัฟกันต่างพากันยื้อแย้งปีนขึ้นไปบนทางเทียบเครื่องบิน เพื่อหาทางขึ้นเครื่องบินให้ได้ จนกลายเป็นเหตุโกลาหล มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 5 คน จากการถูกยิง และเหยียบกันตาย นอกจากนี้ยังมีภาพประชาชนพากันวิ่งตามเครื่องบิน และพยายามเกาะไปกับเครื่องบิน C-17 ของกองทัพสหรัฐ ที่กำลังจะทะยานขึ้นฟ้า

และยังเกิดเหตุการณ์สุดสลด เมื่อมีประชาชนบางส่วนสามารถขึ้นไปเกาะฐานล้อของเครื่องบิน C-17 ได้ แต่หลังทะยานขึ้นฟ้าไปไม่นาน มีคนตกลงมาเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย กลายเป็นภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สะเทือนใจไปทั่วโลก

ทั้งนี้ เที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมดที่จะออกเดินทางจากกรุงคาบูล ต้องถูกยกเลิก หลังเกิดความโกลาหลดังกล่าว โดยองค์การการบินกรุงคาบูลแถลงว่า “จะไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์จากท่าอากาศยานนานาชาติ ฮามิด การ์ไซ เพื่อป้องกันการปล้นสะดมและแย่งชิง โปรดอย่ารีบเดินทางไปที่ท่าอากาศยาน

ขณะเดียวกัน สายการบินใหญ่ๆ หลายแห่งกำลังเปลี่ยนเส้นทางการบินเพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของอัฟกานิสถาน เช่น เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ของสหรัฐอเมริกา ลุฟท์ฮันซา ของเยอรมนี บริติช แอร์เวย์ส และเวอร์จิน แอตแลนติก ของอังกฤษ

นอกจากนั้น ประเทศอื่นๆ รวมถึง แคนาดา อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส ยังแนะนำให้สายการบินรักษาระดับความสูงเหนือน่านฟ้าอัฟกานิสถานที่อย่างน้อย 25,000 ฟุตด้วย

ทั้งนี้ สถานการณ์ภายในกรุงคาบูล หลังจากที่กลุ่มตาลีบัน เข้ายึดครองได้แล้วนั้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างพากันพยายามหลบหนีออกจากประเทศ ทำให้การจราจรในคาบูลติดขัดแทบจะกลายเป็นเหตุจลาจล -มีรายงานด้วยว่า สถานการณ์ที่ชายแดน ปากีสถานและอัฟกานิสถานนั้นก็มีชาวอัฟกันจำนวนมาก พยายามหลบหนีข้ามไปยังฝั่งปากีสถานด้วย

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักรบตาลีบัน ได้เริ่มปฏิบัติการยึดอาวุธของพลเรือน โดยบอกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว มีเหตุการณ์ขณะที่นักรบตาลีบัน ได้บุกเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในเขตปลอดการสู้รบ หรือกรีนโซน และได้ทำการยึดอาวุธของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้แถลงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน และยังคงยืนยันในการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน และกล่าวโทษว่า เป็นเพราะรัฐบาลอัฟกานิสถานเองที่ไม่ยอมลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มตาลีบัน จนทำให้กรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศถูกยึดครองได้

ไบเดนกล่วาว่า เขายังคงยืนยันในการตัดสินใจถอนทหารของสหรัฐฯ และความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือ บรรดานักการเมืองอัฟกานิสถาน และกลุ่มผู้นำรัฐบาลได้หลบหนีออกนอกประเทศ ทหารก็หนีด้วย โดยไม่มีการต่อสู้เลย

ขณะเดียวกัน ที่ด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้มีกลุ่มผู้ประท้วงออกมาประณามการตัดสินใจของสหรัฐที่ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานจนทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น