กราบก็ไม่หยุด! หญิงร้องสื่อ ถูกผู้มีอิทธิพลยกพวกยิงถล่ม ทำสามีเจ็บสาหัส แถมยังยึดรถสิบล้อไป

ภรรยาร้องสื่อ ถูกผู้มีอิทธิพลยกพวกยิงถล่ม ทำให้สามีเจ็บสาหัสขณะเข้าไปยึดรถสิบล้อในบ่อดินแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะที่ตนเองและลูกน้องถูกอุ้มไปทำร้ายร่างกาย-ปืนจ่อหัว ต้องกราบขอชีวิต

โดยนางสาวทิติยา อายุ 32 ปี ภรรยาของนายบัญชา อายุ 47 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้ร้องขอความเป็นธรรม ระบุว่า ตนเองกับสามีได้รับมอบอำนาจถูกต้องตามกฎหมายจากบริษัทหนึ่ง ให้มานำรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวหลังถูกยกเลิกสัญญามาประมาณ 7 เดือน โดยมาพบรถอยู่ในบ่อดินแห่งหนึ่ง และไดเข้าไปพูดคุยกับคนขับว่าตนเองมีเอกสารถูกต้อง ถ้ายังไงก็ให้เจ้าของรถไปที่ สภ.หนองขาม เพื่อลงบันทึกประจำวัน

ซึ่งขณะที่สามีตนขับรถสิบล้อออกจากบ่อดินโดยมีลูกน้องอีกคนนั่งไปเป็นเพื่อน ส่วนตนเองขับรถตามหลัง ขับออกมาได้ประมาณ 3-4 กม. มีรถแวนขับตามมาพยายามขับปาดซ้ายปาดขวา สามีตนเองได้บีบแตรเพื่อขอทาง หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถแวนและรถกระบะตามมาอีก 2 คัน ก่อนปาดหน้ารถสิบล้อที่สามีขับจนรถจอด คนในรถแวนได้ลงมา 2 คน ชักปืนยิงใส่หน้ารถสิบล้อจนพรุน และสามีของตนได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง ส่วนลูกน้องไม่โดนเพราะก้มลง

หลังจากนั้นตนก็ขับรถไปจอดแล้วลงไปกราบไหว้ร้องขอให้ปล่อยสามีกับพวกตน และขอพาสามีไปหาหมอ แต่พวกนั้นไม่ยอมยังจ่อปืนมาที่ศีรษะตนเอง แต่ไม่ยิงจนตนเองก้มลงเข้าไปกอดขาคนที่มีปืน จนแฟนตนเองพาร่างที่มีแต่คราบเลือดลงมา แล้วขึ้นไปนั่งบนรถตนเองก่อนบอกว่าให้พาไปหาหมอ ทางฝ่ายมือปืนไม่ยอมบอกให้สามีขับรถไปหาหมอเอง จนสามีขับรถไปที่ รพ.ที่อำเภอศรีราชา

ส่วนตัวเธอกับลูกน้องถูกจับไปที่บ่อดินที่ไปยึดรถตอนแรก จากนั้นลูกน้องตนเองถูกกลุ่มมือปืนซ้อมจนใบหน้าบวมปูด ตนก็ร้องขอชีวิตว่าจะเอาอะไรก็เอาไปเลยแต่ขอให้ปล่อยตนเองกับลูกน้อง เพราะตอนนี้ตนเองไม่ต้องการอะไรเพียงแต่จะไปดูสามีที่บาดเจ็บ ซึ่งกลุ่มมือปืนนั้นได้ยึดมือถือของตนเองไปทั้งหมด พร้อมเงินสดอีกเกือบ 10,000 บาท ส่วนคลิปที่ถ่ายไว้ได้นั้นเป็นของลูกน้องที่กลุ่มมือปืนหาไม่เจอ จากนั้นกลุ่มมือปินจึงพาตนเองมาส่งที่ รพ. ตนจึงบอกทาง รพ.ว่าขอย้ายสามีตนเองไปที่ รพ.กรุงเทพพัทยาเพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน

นอกจากนั้น นางสาวทิติยา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองขอความเป็นธรรมเพราะกลุ่มคนที่ทำร้าย เป็นกลุ่มของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าว เพราะตอนที่ตนและสามีรวมทั้งลูกน้องถูกล้อมนั้น คนขับรถบรรทุกผ่านไปมารู้จักหมดและยังเรียกว่า "ท่าน" พร้อมยกมือไหว้ด้วย

นางสาวทิติยา บอกด้วยว่า ตนเองทำงานมาหลายสิบปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมีเอกสารครบทุกอย่าง และก่อนจะนำรถออกจากพื้นที่ก็มีการไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตลอด ซึ่งในครั้งนี้ตนเองกลัวเพราะกลุ่มคนร้ายนั้นมีอิทธิพลจึงอย่างวอนขอความเป็นธรรมด้วย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/-KCX-dIu3MA