ยูเอ็นลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ให้หยุดยิงในกาซาโดยทันที เพื่อมนุษยธรรม

เมื่อวานนี้สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติได้รับรองร่างมติแบบไร้ข้อผูกมัดที่เสนอโดยจอร์แดน ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 120 ต่อ 14 เสียง ขณะที่อีก 45 ประเทศงดออกเสียง เนื้อหาในมติคือเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาโดยทันที เพื่อมนุษยธรรมและเปิดทางสำหรับการจัดความช่วยเหลือเข้าไปในกาซา รวมไปถึงการปกป้องและคุ้มครองพลเรือน


แม้มตินี้จะไม่มีผลผูกมัด แต่ก็มีผลทางการเมือง ซึ่งเมื่อวานนี้สหรัฐฯและอิสราเอลโหวตคัดค้าน ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์ออกมาแสดงความยินดีต่อการผ่านร่างมติดังกล่าว ส่วนฮามาสออกแถลงการณ์ชื่นชม และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะการจัดส่งความช่วยเหลือให้กับพลเรือนปาเลสไตน์


ในส่วนของอิสราเอลโจมตีการผ่านร่างมติของสหประชาชาติว่า เป็นวันแห่งความมืดมนของยูเอ็น ซึ่งอิสราเอลขอปฏิเสธ เพราะเป็นมติที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มฮามาส


เมื่อวานนี้กองทัพอิสราเอล ยังได้ประกาศ จะขยายปฏิบัติการในกาซา ทั้งทาง อากาศและภาคพื้นดิน พร้อมทั้งเตือนพลเรือนที่อยู่ทางตอนเหนือของกาซา ให้อพยพลงใต้เพื่อความปลอดภัย


ตลอดคืนที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายฮามาสทั้งจุดที่เป็นอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งตอนนี้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตและการให้บริการโทรศัพท์ในฉนวนกาซา ล่มเกือบทั้งหมดแล้ว หลังโครงข่ายผู้ให้บริการถูกอิสราเอลโจมตีได้รับความเสียหายอย่างหนัก


กองกำลังความมั่นคงอิสราเอล หรือ IDF ยังได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังองค์กรสื่อต่างประเทศว่า อิสราเอลไม่รับรองความปลอดภัยของผู้สื่อข่าว เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลมุ่งเป้าไปที่ฮามาสในกาซา ขณะที่ฮามาสยังคงเคลื่อนไหวใกล้พลเรือนและผู้สื่อข่าว


ด้านฮามาสก็ประกาศกร้าวว่า กลุ่มติดอาวุธของตนในกาซา ก็พร้อมเผชิญหน้ากับอิสราเอลเช่นกัน


ตลอด 3 สัปดาห์ของสงครามอิสราเอล-ฮามาส เป็นช่วงเวลาที่มีผู้สื่อข่าวเสียชีวิตมากที่สุดในรอบหลายสิบปี มีนักข่าวเสียชีวิตไปอย่างน้อย 29 คน เป็นชาวปาเลสไตน์ 24 คน อิสราเอล 4 คน เลบานอน 1 คน


ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาสตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในกาซ่า มากกว่า 7,000 คน


ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลจากการโจมตีแบบสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมอยู่ที่ 1,400 คน พลเรือนและทหารอิสราเอล 229 คนถูกจับเป็นตัวประกัน


https://youtu.be/7ZUDNqbcM2A