ตร.ลอนดอนทลายแก๊งอาชญากร ลักลอบขนโทรศัพท์มือถือที่ถูกขโมย 40,000 เครื่องไปจีน

ตร.ลอนดอนเปิดปฏิบัติการปราบปรามการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือครั้งใหญ่ ทลายแก๊งอาชญากรรมลักลอบขนโทรศัพท์มือถือที่ถูกขโมยไปกว่า 40,000 เครื่องไปยังประเทศจีน จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 46 ราย

ภายหลังการสืบสวนที่ใช้เวลานานเกือบ 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจลอนดอนได้เข้าไปทลายเครือข่ายอาชญากรรายใหญ่ที่ต้องสงสัยว่าลักลอบนำโทรศัพท์ที่ถูกขโมยมาจากสหราชอาณาจักรไปยังจีนมากถึง 40,000 เครื่องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกขโมยไปในลอนดอน

ปัญหาการโจรกรรมโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะการใช้จักรยานไฟฟ้าในการก่อเหตุและหลบหนี ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมากในลอนดอน โดยตำรวจเชื่อว่าแก๊งอาชญากรนี้อยู่เบื้องหลังเหตุโจรกรรมโทรศัพท์ทั้งหมดในลอนดอนถึง 40%

ในแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (7 ต.ค. 2568) ตำรวจกล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการสืบสวนมาจากการตรวจพบพัสดุต้องสงสัยที่โกดังสินค้าใกล้สนามบินฮีทโธรว์เมื่อปีก่อน ซึ่งภายในบรรจุไอโฟนราว 1,000 เครื่อง เตรียมส่งออกไปยังฮ่องกง

ตำรวจเปิดเผยว่า เครือข่ายนี้มุ่งเป้าไปที่ผลิตภัณฑ์ของ Apple เป็นหลัก เนื่องจากมีมูลค่าสูงในตลาดมืดต่างประเทศ โดยจะรับซื้อจากโจรในราคาเครื่องละ 300 ปอนด์ (ราว 13,000 บาท) และสามารถนำไปขายต่อในจีนได้ในราคาสูงสุดถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 160,000 บาท)

แอนดรูว์ เฟเธอร์สโตน หัวหน้าหน่วยปราบปรามการโจรกรรมโทรศัพท์ของสำนักงานตำรวจกรุงลอนดอนระบุว่าการทลายเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมนี้เป็นปฏิบัติการปรามปราบการโจรกรรมและปล้นชิงโทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร โดยสามารถทลายเครือข่ายอาชญากรรมได้ในทุกระดับ ตั้งแต่โจรระดับล่างตามท้องถนนไปจนถึงระดับผู้บงการองค์กรฯ

รายงานระบุว่า ในปฏิบัติการนี้ มีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 11 รายถูกจับกุมขณะกำลังปล้นรถขนไอโฟน 17 รุ่นใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ ยังมีชายวัย 30 ปีอีก 2 คนถูกจับในข้อหาฟอกเงินคาร้านโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกรุงลอนดอนพร้อมกับเงินสด 40,000 ปอนด์ (ราว 1.7 ล้านบาท)

ด้านนายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน กล่าวว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในระดับอุตสาหกรรม และเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตอย่าง Apple และ Samsung พัฒนาระบบความปลอดภัยเพื่อทำให้โทรศัพท์ที่ถูกขโมยไม่สามารถนำไปใช้งานหรือขายต่อได้อีก