'ทรัมป์' เผยสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ภาษีนำเข้าลดเหลือ 20%

ทรัมป์เผยสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ภาษีนำเข้าลดเลือ 20% ขณะสินค้าสวมสิทธิ์เจอสูงลิ่ว 40%  ส่วนสินค้าสหรัฐเข้าเวียดนามได้ภาษี 0%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ โพสต์ผ่านทรูธโซเชียลแจ้งว่า  เขาได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม ซึ่งรวมถึงอัตราภาษีนำเข้า 20% จากเวียดนามที่นำเข้าจากสหรัฐจากเดิมที่ 46%  ขณะที่ สหรัฐจะเข้าถึงตลาดของเวียดนามได้โดยไม่ต้องเสียภาษีเลย

นอกจากนั้น เวียดนามยังตกลงด้วยว่าสินค้าจะถูกเรียกเก็บภาษี 40% หากสินค้ามีแหล่งกำเนิดจากประเทศอื่นและถูกส่งมายังเวียดนามเพื่อขนส่งขั้นสุดท้ายไปยังสหรัฐ ซึ่งกระบวนการนี้ซึ่งเรียกว่า "ทรานส์ชิปปิ้ง" หรือ “การสวมสิทธิ์” ซึ่งใช้เพื่อหลบเลี่ยงอุปสรรคการค้าที่ใช้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการทรานส์ชิปปิ้งสู่ตลาดสหรัฐแทน

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการเปิดเผยไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่การหยุดชะงัก 90 วันสำหรับภาษีศุลกากรแบบตอบแทนหลายรายการของทรัมป์จะสิ้นสุดลง ส่งผลให้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จากหลายสิบประเทศพุ่งสูงขึ้น โดยมีเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามสูงถึง   46% ก่อนที่จะลดลงเหลือ 10% ในช่วงพัก 90 วัน อย่างไรก็ตาม ในข้อตกลงลาสุดนี้แม้ว่าภาษีสินค้าเวียดนามจะลดลงมาที่ 20% แต่ก็ยังจะทำให้ต้นทุนของผู้นำเข้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอยู่ดี ซึ่งอาจส่งต่อไปยังผู้บริโภคหรือซัพพลายเออร์ได้

ทรัมป์ ระบุในโพสต์วา “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าผมเพิ่งทำข้อตกลงการค้ากับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามหลังจากพูดคุยกับ นาย โตลัม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เคารพนับถืออย่างสูง ข้อตกลงนี้จะเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสองประเทศของเรา เงื่อนไขคือเวียดนามจะจ่ายภาษีศุลกากร 20% ให้กับสหรัฐสำหรับสินค้าทั้งหมดที่ส่งมายังดินแดนของเรา และภาษีศุลกากร 40% สำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือใดๆ ก็ตาม

 ในทางกลับกัน เวียดนามจะทำบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือ การให้สหรัฐอเมริกาเข้าถึงตลาดการค้าของตนได้อย่างสมบูรณ์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกเขาจะ “เปิดตลาดของตัวเองให้กับสหรัฐอเมริกา” ซึ่งหมายความว่า เราจะสามารถขายสินค้าของเราในเวียดนามได้โดยไม่เสียภาษีศุลกากร ผมคิดว่า รถ SUV หรือที่บางครั้งเรียกว่ารถยนต์เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐอเมริกา จะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเวียดนาม การติดต่อกับ โตลัม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งผมทำด้วยตนเองนั้น ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณที่ให้ความสนใจเรื่องนี้!”

ทั้งนี้ ไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้เมื่อใด หรือทั้งสองฝ่ายได้ลงนามอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่  ซึ่งเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็น 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเมื่อปีที่แล้ว   โดยหลังจากมีการเปิดเผยข้อตกลงภาษีดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัท ไนกี้  Nike และผู้ผลิตเครื่องแต่งกายรายอื่นๆ ที่มีฐานการผลิตในเวียดนามพุ่งสูงขึ้นทันที

โดยราคาหุ้นของไนกี้ เพิ่มขึ้น 4%, อันเดอร์ อามูร์ (Under Armour) เพิ่มขึ้น 2% และ ลีวาย สเตราส์ ( Levi Strauss) เพิ่มขึ้นเกือบ 2%  ขณะที่หุ้นของ แอร์ครอมบี แอนด์ ฟิตช์ (Abercrombie & Fitch) เพิ่มขึ้นราว  1%

https://youtu.be/A2BvlMUwOQI