‘หิมะเทือกเขาละลาย’ ทำน้ำท่วมรัสเซีย-คาซัคสถาน หนักสุดในรอบ 70 ปี เร่งอพยพกว่าแสนคน

'รัสเซีย-คาซัคสถาน' สั่งให้ประชาชนกว่าแสนคนในพื้นที่เสี่ยง รีบอพยพหนีภัยน้ำท่วม ที่อาจเลวร้ายสุดในรอบ 70 ปี หลังหิมะบนเทือกเขาอูราลละลายอย่างรวดเร็ว จนทำให้แม่น้ำอูราลมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากก่อนหน้านี้ ทำให้เขื่อนแห่งหนึ่งแตกไปแล้ว

ทางการรัสเซียและคาซัคสถาน ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนกว่า 100,000 คน อพยพหนีภัยน้ำท่วม เนื่องจากหิมะบนเทือกเขาอูราลละลายอย่างรวดเร็ว และมวลน้ำมหาศาลได้ไหลลงสู่แม่น้ำอูราล ซึ่งเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป จนระดับน้ำสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ทำให้รัสเซียและคาซัคสถาน  ต้องประสบอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี

โดยไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ชาวรัสเซียในเมืองออร์สค์ ทางตอนใต้ติดกับคาซัคสถาน เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมสูงฉับพลัน เนื่องจากเขื่อนแห่งหนึ่งแตกไปแล้ว

ผู้ว่าการเมืองโอเรนเบิร์ก ทางตอนใต้ของรัสเซีย ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 550,000 คน ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง รีบอพยพหนีภัยน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำอูราลในช่วงที่ไหลผ่านเมืองโอเรนเบิร์กเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ได้สูงขึ้นถึงระดับ 9.31 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับวิกฤติ ที่กำหนดไว้ที่ 9.30 เมตร

ขณะที่ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้หารือกับประธานาธิบดี คัสซิม โจมาร์ต โตคาเยฟ แห่งคาซัคสถาน ซึ่งสั่งให้ประชาชนกว่า 86,000 คน อพยพหนีภัยน้ำท่วม โดยประธานาธิบดี โตคาเยฟ ได้กล่าวว่า บางที สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ อาจเลวร้ายที่สุดในคาซัคสถานในรอบ 80 ปี

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย เตือนว่า มวลน้ำมหาศาลกำลังเดินทางมา โดยโฆษกวังเครมลินยังกล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินได้ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีแผนจะเดินทางลงพื้นที่ประสบอุทกภัย

---------------