ต่างประเทศ
'คามาลา แฮร์ริส' ยันหากชนะการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ รัฐบาลของเธอจะแตกต่างจากไบเดน
โดย paweena_c
24 ต.ค. 2567
26 views
คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตยืนยันหากชนะเลือกตั้ง รัฐบาลของเธอจะแตกต่างจากรัฐบาลของไบเดน ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันลุยหาเสียงในรัฐจอร์เจีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิที่จะชี้เป็นชี้ตายการเลือกตั้งครั้งนี้
แฮร์ริสกล่าวในการประชุมทาวน์ฮอลล์ที่ถูกจัดขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนีย และถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNN ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า รัฐบาลของเธอจะไม่เป็นการสานต่อรัฐบาลของไบเดน หลังจากที่การสำรวจจากหลายสำนักก่อนหน้านี้บอกว่า ไบเดนกำลังถ่วงการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเธอ ในขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายคนต่างอยากเห็นทิศทางใหม่ ๆ ก่อนที่การเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังได้ตอบคำถามจากผู้เข้าร่วมการประชุมหลายข้อ เช่น เรื่องเศรษฐกิจ เธอบอกว่า จะแก้ไขปัญหาราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และวางแผนที่จะลดภาษีให้กับชาวอเมริกันชนชั้นกลาง 100 ล้านคนแล้วหันไปเพิ่มภาษีเหล่ามหาเศรษฐี แฮร์ริสย้ำว่า เธอจะไม่ขึ้นภาษีสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 13 ล้านบาท)
ในส่วนสงครามตะวันออกกลาง แฮร์ริสบอกว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติ และเธอเชื่อในความเท่าเทียมกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ทั้งสองกลุ่มต่างมีสิทธิในประเทศของตนเอง
นอกจากนี้ เธอยังโจมตีทรัมป์ว่า เป็นตัวอันตรายต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกา แฮร์ริสยังถูกถามว่า เธอคิดว่าทรัมป์เป็นพวกฟาสซิสต์หรือไม่? เธอก็ตอบกลับว่าใช่ เธอคิดแบบนั้น และว่า ทรัมป์ต้องการมีอำนาจแบบที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
ด้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาตอบโต้คำพูดของแฮร์ริส โดยบอกว่า แฮร์ริสมักจะเริ่มพูดจาโอ้อวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขนาดเรียกเขาว่า เป็นอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่ไม่ว่าเธอจะเรียกอะไร เธอคิดผิด ก่อนที่จะโจมตีเธอว่า เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่งานหาเสียงในรัฐจอร์เจีย ซึ่งจัดโดยกลุ่มสายอนุรักษ์นิยมที่ชื่อว่า เทิร์นนิง พอยต์ แอคชัน (Turning Point Action) และมีทักเกอร์ คาร์ลสัน อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดังจาก Fox News และโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอิสระมาเข้าร่วม
ทรัมป์เรียกร้องให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมกับโจมตีคู่ต่อสู้ว่าเป็น “ราชินีภาษี (the tax queen)” โดยบอกว่า เธอต้องการขึ้นภาษีประชาชน ทำให้ฝูงชนพากันส่งเสียงโห่ร้อง
ทรัมป์ยังกล่าวยกย่องรัฐจอร์เจียด้วย หลังจากมีประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากันเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลการสำรวจล่าสุดของศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งของมหาวิทยาลัยฟลอริดาระบุว่า จนถึงตอนนี้ มีชาวอเมริกันทั่วประเทศออกไปลงคะแนนเสียงล่วงหน้าแล้วเกือบ 25 ล้านคน ทั้งการลงคะแนนด้วยตัวเองที่คูหาและทางไปรษณีย์ ซึ่งก็มีหลายรัฐ เช่น รัฐสมรภูมิอย่างนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย มีประชาชนออกไปลงคะแนนล่วงหน้าในวันแรกมากที่สุดจนทำสถิติใหม่
ส่วนการสำรวจคะแนนนิยมใหม่ที่จัดทำโดย Wall Street Journal และถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ (23 ต.ค. 67) ปรากฏว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมขึ้นนำแฮร์ริสแล้วที่ 47% ต่อ 45% ขณะเดียวกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังมีมุมมองที่เป็นลบต่อรองประธานาธิบดีแฮร์ริสมากขึ้น นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยมี 53% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองเธอในทางลบ ขณะที่ 45% มองเธอในทางบวก
นอกจากนี้ แฮร์ริสยังได้คะแนนประเมินการทำงานในฐานะรองประธานาธิบดีต่ำที่สุดจากการสำรวจ 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยมีเพียง 42% เท่านั้นที่เห็นชอบกับการทำงานของเธอในฐานะรองประธานาธิบดีของโจ ไบเดน
ในทางกลับกัน ทรัมป์กลับมีคะแนนสูงขึ้นในการสำรวจความนิยมครั้งนี้ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52% เห็นชอบกับผลงานของเขาช่วงดำรงตำแหน่ง ขณะที่ 48% ไม่เห็นด้วย
ทรัมป์มีคะแนนดีกว่าแฮร์ริสในการสำรวจในประเด็นเรื่องการย้ายถิ่นฐาน เศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ ขณะที่แฮร์ริสมีคะแนนนำในประเด็นจัดการปัญหาการทำแท้งได้ดีกว่า
แท็กที่เกี่ยวข้อง คามาลา แฮร์ริส ,โจไบเดน ,เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ