ต่างประเทศ

ผลสำรวจเผย 'รีพับลิกัน' ชนะ 'เดโมแครต' ในศึกดีเบตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดย paweena_c

2 ต.ค. 2567

97 views

นายทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตาและผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต และนายเจดี แวนซ์ วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอและผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันประชันวิสัยทัศน์ในศึกดีเบต เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (ตามเวลาบ้านเรา) ผลสำรวจความคิดเห็นหลังการดีเบตชี้ว่าแวนซ์เอาชนะวอลซ์ไปได้ด้วยคะแนนเบบฉิวเฉียด

การดีเบตของคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ นี้ถูกจัดขึ้นโดยสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสที่นครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ผู้ดำเนินรายการได้แนะนำผู้เข้าร่วมการดีเบตทั้ง 2 คน พวกเขาก็ได้จับมือทักทายกันและเริ่มต้นการดีเบตทันที

บรรยากาศการดีเบตของทั้งคู่เป็นไปอย่างเรียบง่ายและสุภาพ ไม่ดุเดือด หรือตึงเครียดเหมือนกับการดีเบตของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจาก 2 พรรค คือ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งต่างฝ่ายต่างเน้นการโจมตีไปที่คู่ชิงประธานาธิบดีของฝ่ายตรงข้ามเป็นส่วนใหญ่ และยังมีการพูดขอบคุณกันด้วย

วอลซ์ได้โจมตีอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ในเรื่องที่เขาชอบกล่าวอ้างความเท็จ โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งครั้งก่อน จนทำให้เกิดการจราจลที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ขณะที่แวนซ์ก็วิจารณ์แฮร์ริสเรื่องความล้มเหลว ในการแก้ไขปัญหาการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผู้สมัครทั้งสองคนตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือดและตึงเครียดที่สุดนั้นเกิดขึ้นในช่วงท้ายของการดีเบต โดยแวนซ์ ซึ่งเคยบอกว่าเขาไม่ลงคะแนนรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าเขาจะทำอย่างไรหากผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ออกมาว่าทรัมป์พ่ายแพ้

การดีเบตยังเน้นหนักไปที่การอภิปรายนโยบายต่าง ๆ รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกลาง, สิทธิการทำแท้ง, การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, และเศรษฐกิจ

เรื่องสิทธิการทำแท้งเป็นหนึ่งประเด็นที่ผู้สมัครทั้ง 2 คนถกเถียงกันยาวนานและดุเดือด โดยแวนซ์บอกกับผู้ดำเนินรายการว่าเรื่องการทำแท้งควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแต่ละรัฐ ขณะที่วอลซ์กล่าวว่ารัฐบาลกลางควรรื้อฟื้นกฎหมายรับรองสิทธิในการทำแท้งกลับขึ้นมาใหม่

ในการดีเบตครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ CBS ยังได้ทำการปิดไมโครโฟนของผู้สมัครทั้ง 2 คนด้วยหลังจากแวนซ์เริ่มโต้เถียงกับมาร์กาเร็ต เบรนแนน ผู้ดำเนินรายการ หลังเธอพูดถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของแวนซ์เรื่องผู้อพยพในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ

เบรนแนนอธิบายว่าเมืองสปริงฟิลด์ในโอไฮโอเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพชาวเฮติที่ถูกกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งแวนซ์ได้พูดขัดจังหวะเธอเพื่อขอเวลาให้เขาได้พูดปกป้องคำกล่าวอ้างของตนเอง

แวนซ์ยังได้ตั้งคำถามว่าทำไมรองประธานาธิบดีแฮร์ริสถึงไม่แก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ, ผู้อพยพ, และเศรษฐกิจให้ดีกว่านี้ในตอนที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลของไบเดน และว่าหากคามาลา แฮร์ริสมีแผนการในการแก้ไขปัญหาให้กับชนชั้นกลางที่ดีจริง เธอก็ควรทำตอนนี้ ไม่ใช่ขอให้ประชาชนเลื่อนตำแหน่งให้เธออีก

ด้านวอลซ์โจมตีทรัมป์ว่าเป็นผู้นำที่ไม่มั่นคงซึ่งให้ความสำคัญกับเหล่ามหาเศรษฐี และยังโจมตีทรัมป์ที่กดดันให้สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคว่ำร่างกฎหมายความมั่นคงบริเวณชายแดนที่ได้รับการสนับสนุนจาก 2 พรรคในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

หลังการดีเบตจบลง สถานีโทรทัศน์ CBS และ YouGov ได้จัดทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1,630 คน โดย 42% ให้แวนซ์เป็นฝ่ายชนะ ส่วนอีก 41% ให้วอลซ์เป็นฝ่ายชนะ และ 17% คิดว่าเสมอกัน

ผู้ตอบแบบสอบถามยังบอกว่าน้ำเสียงในการดีเบตที่ผู้สมัครทั้งสองใช้เป็นไปในทางบวก 88% ส่วนเรื่องการใช้เหตุผล วอลซ์ได้ 74% ส่วนแวนซ์ได้ 65%

ส่วนในประเด็นเฉพาะ ผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าวอลซ์เอาชนะแวนซ์ในประเด็นการทำแท้ง (62%) และการดูแลสุขภาพ 59% ส่วนแวนซ์ชนะวอลซ์ในประเด็นการย้ายถิ่นฐาน (52%) และเศรษฐกิจ (51%)


คุณอาจสนใจ

Related News