สิ่งแวดล้อม

สัญญาณอันตราย 2025 โลกร้อนทุบสถิติ วิกฤตที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

6 ชั่วโมงที่แล้ว

4 views

             หากเราลองสังเกตุอากาศรอบตัวเราในแต่ละวัน บางวันอากาศร้อนจัดจนผิวแทบไหม้ บางวันจู่ ๆ ฝนตกหนักจนหาร่มแทบไม่ทัน หรือฝุ่นควันที่คลุ้งทั่วเมือง บางพื้นที่หนาวจัด บางพื้นที่แห้งแล้ง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณของโลกใบนี้ที่กำลังจะบอกอะไรเรา

องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) รายงานว่า ในปี 2024 ที่ผ่านมาเป็นปีที่อุณหภูมิเฉลี่ยรวมของโลกทะลุเกณฑ์ถึง 1.5 องศาเซลเซียส และถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดในบันทึกสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงเวลา 175 ปี  

ยิ่งไปกว่านั้นรายงานจากโครงการสังเกตการณ์โลกแห่งสหภาพยุโรป (Copernicus Climate Change Service) ระบุว่า เดือนมกราคม ปี 2025 เป็นเดือนมกราคมที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิพื้นผิวอากาศสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.75 องศาเซลเซียส สถานการณ์นี้ถือเป็นการต่อเนื่องของอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ตลอดสองปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลคือ อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลในหลายภูมิภาคทั่วโลกยังคงสูงผิดปกติ

นอกจากนี้ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้เผยรายงานล่าสุดเมื่อวันที่  28 พ.ค. ระบุว่า

•    มีโอกาส 80% ที่อย่างน้อย 1 ใน 5 ปี ข้างหน้าจะมีอุณหภูมิเกินปี 2024 ซึ่งเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้

•    มีโอกาส 86% ที่อย่างน้อย 1 ใน 5 ปีถัดไปจะมีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี ค.ศ. 1850 - 1900 มากกว่า 1.5°C

•    มีโอกาส 70% ที่ภาวะโลกร้อนเฉลี่ย 5 ปีในช่วงปี 2025-2029 จะสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของความร้อนในระยะยาวอย่างน่ากังวล โดยสาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ซึ่งยังดำเนินต่อไปโดยไร้การควบคุมที่เพียงพอ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เน้นย้ำว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเพิ่มความรุนแรงและความถี่ของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วให้กับโลกของเราได้ เช่น คลื่นความร้อน ฝนตกหนัก หรือภัยแล้ง หากเราทุกคนไม่ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตที่จะกระทบต่อสิ่งเหล่านี้ที่กำลังเกิดขึ้น โลกจะเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างถาวรในอนาคตอันใกล้

หลายคนอาจคิดว่าหากอากาศร้อนขึ้นเพียง 1.5 องศาเซลเซียสนั้นคงไม่รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่หากเทียบกับโลกใบใหญ่ ที่มีพื้นที่มากถึง 510,100,000 ตารางกิโลเมตร 1.5 องศาเซลเซียสที่เกิดขึ้น  จะไม่ใช่เพียงแค่อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไป แต่สามารถสร้างมหันตภัยที่เลวร้ายให้กับมนุษย์ได้อย่างรุนแรงอย่างที่เราไม่อาจคาดคิด ซึ่งตัวเลข 1.5 องศาเซลเซียส ถือเป็น “จุดเปลี่ยนหลัก” ที่หากอุณหภูมิของโลกเราสูงเกินกว่านี้โลกก็จะก้าวไปอยู่ในจุดที่แก้ไขอะไรต่าง ๆ ได้อยากแล้ว และส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวนและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ภัยแล้ว ไฟป่า หรือการขาดแคลนอาหาร เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ทำลายพืชผลทางการเกษตร  ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้เริ่มมีให้เห็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่ส่งผลต่อระดับน้ำทะเลทั่วโลก กระแสน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกที่เริ่มชะลอตัว หรือความผิดปกติของลมมรสุมในเอเชีย ส่งผลต่อฝนและผลผลิตการเกษตร

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของอุณหภูมิ  แต่มันคือเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราทุกคน ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องหันมาให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง  และให้ความสำคัญกับทุกสิ่งที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้พลังงานทดแทน การแยกขยะและรีไซเคิลอย่างถูกวิธี เพื่อให้ทรัพยากรถูกนำกลับมาใช้อย่างคุ้มค่า หรือการสนับสนุนสินค้าและแบรนด์ที่ใส่ใจโลก ที่มีนโยบายการผลิตและการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทุกการกระทำเล็ก ๆ ของเรามีพลังมากกว่าที่คิด เพราะเมื่อคนทั้งโลกเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกัน พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นจะกลายเป็นพลังมหาศาลที่ช่วยชะลอภาวะโลกร้อนได้จริง อย่ารอให้ทุกอย่างสายเกิน เริ่มต้นวันนี้เพื่อรักษาโลกใบนี้เอาไว้เพื่อเราทุกคน


อ้างอิง

https://www.facebook.com/therapmag/posts/องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก-wmo-เผยรายงานล่าสุดเมื่อ-29-พค-ระบุว่าโลกมีโอกาสสูงถึง-8/1007790754671177/77/

https://www.dcce.go.th/6117/

https://wmo.int/news/media-centre/wmo-report-documents-spiralling-weather-and-climate-impacts?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTAAYnJpZBExdWVncFl5bEFPMmFnU3M4bQEe4VnswkQZbdnffckxEDpOJYsk3F9k3JRp8HZSrm4J1uaSN2cZuI09JFZQMzk_aem_D7uZtuvMFJXf_i1K8bdWkQ#:~:text=The%20clear%20signs%20of%20human,social%20upheavals%20from%20extreme%20weather.&text=WMO's%20State%20of%20the%20Global,doubled%20since%20satellite%20measurements%20began

คุณอาจสนใจ

Related News