อาชญากรรม

“หลวงพ่ออลงกต” รับเซ็นเอกสารการเงินอ่านไม่ละเอียด กังวลใจคนทำบุญน้อยลง

โดย nicharee_m

9 ส.ค. 2568

1.1K views

“หลวงพ่ออลงกต” เปิดใจปมเอกสารการเงินวัดพระบาทน้ำพุ รับอ่านเอกสารไม่ถี่ถ้วน พร้อมรอ “หมอบี” ชี้แจงภายใน 7 วัน ย้ำปัจจุบันไม่แตะเงินวัด กังวลเพียงผู้ป่วยกว่า 2,000 ชีวิตในความดูแลจะเดือดร้อน หลังศรัทธาลดฮวบ ยอมรับซื้อที่ดินนับพันไร่เพื่อสร้างโรงเรียนและมอบให้รัฐ

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ส.ค.) บรรยากาศที่ตลาดเช้าเคหะคลองจั่นย่านบางกะปิโดย พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้นั่งรถเข็น พร้อมลูกศิษย์ รับเงินบริจาคจากประชาชนในการช่วยเหลือตามปกติที่เคยทำ ซึ่งมีบรรดาญาติโยมก็บริจาค แต่ก็ดูเบาบางลงไป หลังจากที่มีกระแสข่าวก่อนที่หลวงพ่อจะขึ้นรถไปทำกิจนิมนต์ที่มีโยมนิมนต์มาฉันเพลที่ย่านนวมินทร์

ก่อนที่ต่อมาหลวงพ่ออลงกต จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยบอกว่าในเรื่องของเอกสารมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรก คือเอกสารการรับเงิน ยอมรับเวลาเซ็นไม่ค่อยได้อ่านรายละเอียดทั้งหมด เพราะเอกสารนั้นมีเยอะ แต่อีกเหตุผล คือหลวงพ่อไว้วางใจหลวงพ่อจึงเซ็นรับเงินเอกสารเหล่านี้ เอกสารประเภทที่ 2 คือประเภทโครงการที่หลวงพ่อต้องรับทราบ เช่นเวลาไปทำโครงการนี้มาทำเสร็จแล้วต้องทำรายงานทั้งหมดมาให้หลวงพ่อมาเซ็นรับทราบ ในเอกสารก็จะมีรายละเอียดเรื่องการเงิน ว่าแต่ละโครงการนำเงินไปใช้จ่ายอย่างไร

เมื่อถามว่าหลวงพ่อได้ อ่านถี่ถ้วนว่าภายในเอกสารมีการสอดไส้อะไรหรือไม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่าไม่มีประเภทที่มีการสอดไส้หรือสอดแทรกอะไรเข้ามาให้หลวงพ่อเซ็น เพราะว่าเวลาหลวงพ่อจะเซ็นอะไรจะดูทุกฉบับว่าเป็นเรื่องอะไร ส่วนจุดไหนที่ทำให้หลวงพ่อรู้สึกเอะใจว่าบัญชีไม่ตรงกัน หลวงพ่ออลงกต บอกว่า เข้าใจแล้วว่าอะไรมันไม่ตรงแต่อยากให้รอก่อน รอคำชี้แจงจากหมอบีโดยตรง และหลังจากนี้เราจะมีการประชุมใหญ่ และนัดหมายหมอบีภายใน 7 วัน เพราะทุกเรื่องที่สงสัยจะต้องให้หมอบีเป็นคนตอบเอง

เมื่อถามว่าเอกสารไม่มีเรื่องของวันที่ ไม่มีรายละเอียดของโครงการขนาดนั้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะทำเอกสารขึ้นมาใหม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่าไม่ใช่ เอกสารเช่นนี้อย่างไรก็ต้องทำ เพราะจะทำโครงการหนึ่งขึ้นมา เนื้อหาสาระจะต้องมีความชัดเจนว่าไปทำโครงการมาจริงหรือไม่ ส่วนใหญ่โครงการที่หลวงพ่อทำนั้นมีมากมายเป็นร้อยๆ โครงการ เช่นโครงการน้ำท่วม เพราะฉะนั้นในแต่ละโครงการหลวงพ่อจะต้องรับทราบ และต้องเป็นคนเซ็น เพราะถ้าหากทำโดยที่หลวงพ่อไม่ทราบเหมือนมีความผิดไม่น้อยเหมือนกัน

เมื่อถามว่ามีโครงการไหนที่หลวงพ่อไม่ได้เซ็นแต่ไปทำโดยพละการหรือไม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่ามี แต่เมื่อเขาทำเสร็จไปแล้วเขาก็กลับมารายงานหลวงพ่อให้หลวงพ่อรับทราบ บางครั้งจะมารายงานหลวงพ่อทุกเรื่องหลวงพ่อก็ไม่ไหว เพราะงานหลวงพ่อมีเยอะ เมื่อถามว่าเอกสารเหล่านี้หลวงพ่อเซ็นหลังจากมีคนร้องเรียน และขอให้หมอบีออกมาชี้แจงใช่หรือไม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่า เซ็นรับทราบนั้นใช่ มันมีกรณีที่คนอยากรู้ว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง

เมื่อถามว่าหลวงพ่อกังวลใจหรือไม่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลวงพ่ออลงกต บอกว่า เป็นเรื่อง ธรรมดา แต่สิ่งหลวงพ่อกังวลมีเรื่องเดียว คือจะไปเดือดร้อนคนที่อยู่ในความดูแลของหลวงพ่อกว่า 2,000 คน เพราะตอนนี้เดือดร้อนเวลาหลวงพ่อออกไปไหนก็เกิดความครางแคลงใจว่าจะทำบุญกับหลวงพ่อดีหรือไม่ ปกติเวลาหลวงพ่อออกไปไหนก็จะมีคนทำบุญกับหลวงพ่อเป็นพันๆ คน แต่ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่ง เพราะวัดพระบาทน้ำพุก็อยู่ได้ด้วยตัวหลวงพ่อถ้าหากไม่มีหลวงพ่อจะอยู่กันอย่างไร

ซึ่งตอนนี้หลวงพ่อดูแลคนป่วยอยู่ประมาณกว่า 2,000 คน ยังคงรับผู้ป่วยใหม่อยู่เรื่อยๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลวงพ่อไม่รับผู้ป่วยที่เป็น LGBTQ นั้นจริงหรือไม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่าไม่มี และอยากให้ทุกคนเรียนรู้หลวงพ่อ หลวงพ่อไม่เคยมีการแยกชนชั้น หรือเพศ และที่วัดก็มีผู้ป่วยที่เป็น LGBTQ จริงมีหลายคน

เมื่อถามว่าถ้าหลังจากนี้ตำรวจต้องการให้หลวงพ่อเข้าไปให้ปากคำ หลวงพ่ออลงกต บอกว่า สามารถเข้ามาหาที่วัดได้ ตอนนี้หลวงพ่อมอบหมายให้ทีมทนายความช่วยดูแลในส่วนของคดีความ ส่วนไวยาวัจกรก็จะดูในเรื่องเอกสารการเงินภายในวัด พร้อมบอกว่าปัจจุบันหลวงพ่อไม่ได้แตะเงินภายในวัดแล้ว ส่วนเรื่องหลักฐานหลวงพ่อมีเป็นเอกสารชี้แจง ซึ่งจะเป็นเอกสารเรื่องการยักยอกเงินไปหรืออย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวม

เมื่อถามว่าจะเสียความรู้สึกหรือไม่ถ้าหากวันนึงตำรวจไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดของหมอบี หลวงพ่ออลงกต บอกว่า หลวงพ่อทำใจเป็น ทุกคนมีทั้งสองด้าน เราไม่มีใครที่ถูกทุกเรื่องทุกอย่าง แต่ที่เขาพลาดไป ผิดไป ต้องดูว่าเป็นเพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพราะบางเวลาคนเราก็เกิดความลุ่มหลงที่ผิดที่ผิดทางเรื่องนี้มีทุกวงการ เช่นวงการพระสงฆ์

นอกจากนี้หลวงพ่ออลงกต ยังกล่าวว่าปัจจัยที่คนทำบุญผ่านหมอบีประมาณ 10% ของงานที่เราทำ พร้อมบอกว่าตัวหลวงพ่อเองออกมาเดินคนมีศรัทธามาทำบุญปีนึงก็ได้หลาย 10,000,000 บาท เงินที่หลวงพ่อได้มาหลวงพ่อให้วัดเอาไปทำประโยชน์หมด พร้อมย้ำว่าปัจจุบันหลวงพ่อไม่เคยแตะเงิน และคณะกรรมการวัดจะเป็นคนเก็บรักษาดูแล เวลาหลวงพ่อจะใช้เงินทำอะไร เช่นจะซื้อไมโครโฟนซักหนึ่งตัวก็จะต้องผ่านความคิดเห็นของคณะกรรมการวัด 13 คน แม้กระทั่งตอนนี้ เวลาออกมาแล้วมีคนมาทำบุญหลวงพ่อก็ไม่ถือบาตรแล้ว เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับหมอบีบ้างหรือไม่ตั้งแต่เกิดเรื่อง หลวงพ่ออลงกต บอกว่าตั้งแต่หมอบีเจ็บป่วยมาก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน

ส่วนกรณีของเรื่องที่ดิน หลวงพ่ออลงกต ยอมรับว่ามีการซื้อที่ดินเป็นพันๆ ไร่จริง แต่หลวงพ่อซื้อที่มาสร้างโรงเรียนมอบเป็นสมบัติให้รัฐบาล พร้อมบอกว่าที่บางแปลงซื้อในชื่อวัด แต่บางแปลงก็เป็นที่ของมูลนิธิ ซึ่งก็มีที่ดินบางส่วนเป็นปัญหาเพราะเป็นชื่อของไวยาวัจกรวัดคนเก่าที่เสียชีวิตไปแล้วทำให้ยังไม่สามารถโอนได้ ส่วนที่ซื้อไว้เป็นชื่อไวยาวัจกร เพราะในระหว่างที่พิจารณาจะใช้ที่ดินตรงนี้ทำอะไรหากโอนเป็นชื่อวัดเลย วัดก็ต้องตามไปดูแล และอาจดูแลไม่ไหว

ส่วนกรณีของคนที่ชื่อ “วรสุดา” หลวงพ่อรู้จักหรือไม่ หลวงพ่ออลงกต บอกว่ารู้จักเขาเป็นฝ่ายมูลนิธิบ้านเด็ก ซึ่งที่ดินที่คุณวรสุดาถือครองไว้ได้มีการทำพินัยกรรมไว้ ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปก็จะมอบที่ดินให้กับมูลนิธิ ส่วนกรณีของเลขาปู ที่อ้างว่าเป็นหลานของเจ้าอาวาสจริงหรือไม่ ร่วมถึงเรื่องมีฐานะร่ำรวยผิดปกตินั้น หลวงพ่ออลงกต บอกว่าไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เขาทำงานมานานกว่า 20 ปี แต่ในช่วงแรกเขาก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยขนาดนี้ แต่เขาอาจจะมีญาติพี่น้องที่ประกอบธุรกิจที่เป็นกิจการของครอบครัว

พร้อมบอกว่าตอนนี้หลวงพ่อจะพูดอะไรที่ตัดสินหมอบีไม่ได้ เพราะตอนนี้หลวงพ่ออาการหนักว่าหลวงพ่อไปปกป้องหมอบีเข้าข้าง ซึ่งตอนนี้มีเรื่องเดียว คือเราต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีมูลความผิดจริงหลวงพ่อก็จะดำเนินการ หมอบีจะสู้ในศาลหรือว่าอะไรก็ค่อยว่ากัน


https://youtu.be/2vGqnZvh6fc

คุณอาจสนใจ

Related News