อาชญากรรม
‘ลุงพล’ นอนคุกยาว! ‘ศาลฎีกา’ ไม่ให้ประกันตัว ชี้ เป็นคดีร้ายแรงมีโทษหนัก เกรงหลบหนี
โดย petchpawee_k
15 ส.ค. 2568
405 views
ภายหลังวันที่ 13 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดอ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 คดีที่น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้านพัก ในหมู่บ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนจะไปพบเป็นศพอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งในคดีนี้มีจำเลย 2 คน คือ นายไชย์พล วิภา และ นางสมพร หลาบโพธิ์ โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า นายไชยพล มีความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี รวม 20 ปี แต่เมื่อวันก่อน ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้โทษนายไชย์พล มีความผิดฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล มีโทษจำคุก 15 ปี
พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควรโทษจำคุก 10 ปี และอำพรางศพ โทษจำคุก 1 ปี รวม 26 ปี
ส่วนนางสมพร พิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้นฝั่งนายไชย์พล หลังฟังคำตัดสินของศาล ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว เพื่อมาต่อสู้คดีในชั้นฎีกา แต่ทีมทนายทำเรื่้องประกันตัวไม่ทัน ทำให้นายไชย์พล ถูกส่งตัวไปเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ก่อนมาลุ้นประกันตัวอีกครั้งในวันถัดไปคือเมื่วานนี้ 14 ส.ค.68
โดยเช้าวานนี้ 14 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวไปที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร พบว่า มีเหล่า FC นายไชย์พล ประมาณ 10 คน มาที่เรือนจำ พร้อมให้ข้อมูลว่า ได้นำของใช้ส่วนตัว 6 อย่าง ได้แก่ แชมพู แป้งเย็น ครีมอาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กาแฟแบบซองมาให้ พร้อมยังจดรายชื่อสั่งอาหารโปรดให้ ประกอบด้วย กาแฟดำ ตำแตง ข้าวเหนียว 4 ห่อ อ่อมไก่ และปิ้งปลาดุก ส่วนนางสมพร เช้านี้ไม่ได้มาเยี่ยมนายไชย์พล แต่มุ่งหน้าไปที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรอลุ้นคำสั่งศาล ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ หลังจาก FC สั่งอาหารเสร็จ ก็เดินทางไปสมทบกับนางสมพร ที่ศาลจังหวัดมุกดาหารทันที
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย มีรายงานว่า ศาลฎีกาได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคม เป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี เพราะมุกดาหารอยู่ใกล้ชายแดน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลมีคำสั่งยกคำร้องการประกันตัว นางสมพร ได้ขึ้นรถตู้ออกจากศาล ไปที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร แต่ไม่ได้ลงที่เรือนจำ โดยให้คนขับรถนำของบางอย่าง ลงไปให้นายไชย์พลแทน
ส่วนความเคลื่อนไหวของลุงพลที่นอนคึกคืนแรก คืนวันที่ 13 ส.ค.68 พบว่า นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ออกมาเผยว่า เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร รับตัวนายไชย์พล เมื่อวันก่อน ตั้งแต่เวลา 5 โมง 45 นาที การตรวจร่างกายแรกรับเป็นปกติ ไม่พบบาดแผล ไม่มีโรคประจำตัว การตรวจสุขภาพจิต ก็ไม่พบความผิดปกติ ไม่มีอาการเครียด พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้ต้องขังอื่นเป็นปกติ และยังไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ เบื้องต้นต้องเข้าห้องแยกกักโรคโควิด-19 รวม 5 วัน โดยคืนแรกนายไชย์พล พอนอนหลับได้ ไม่ได้แสดงอาการเศร้าหมอง หรือแยกตัว เมื่อแยกกักโรคครบ 5 วันแล้ว จึงจะนำไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ส่วนญาติจะสามารถติดต่อขอเยี่ยมได้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
สำหรับอาหารมื้อเย็นวันที่ 13 ส.ค.68 เป็นเมนูข้าวสวย ต้มยำไก่ ผัดคะน้าหมู โดยนายไชย์พล กินเกือบหมด โดยบอกว่า ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่ช่วงกลางวัน ส่วนอาหารเช้าวานนี้ 14 ส.ค.68 เป็นแกงจืดหมูใส่แตงกวา ข้าวสวย นายไชย์พลก็กินเกือบหมดเช่นกัน
ด้านนายพิสิษฐ์ ตรัยเจริญเมธากุล ทนายความโจทก์ร่วม เผยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษา ความผิดของนายไชย์พล จากประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลงโทษจำคุก 15 ปี เมื่อรวมกับคดีพรากเด็ก และอำพรางศพ รวมเป็นโทษจำคุก 26 ปี นั้น ทีมทนายเห็นว่า โทษจำคุกยังน้อยเกินไป เพราะความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีโทษจำคุก 15-20 ปี หรือ จำคุกตลอดชีวิต หรือ ประหารชีวิต หลังจากนี้จะยื่นศาลฎีกาเพื่อขอเพิ่มโทษ เนื่องจากการพาเด็กขึ้นไปทิ้งบนเขา แล้วหาแหล่งน้ำหรืออาหารไม่เป็น ทำให้เด็กต้องทรมานอยู่นานจนเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง และจำเลยไม่ได้รับสารภาพ ส่วนประเด็นเรื่องค่าสินไหม จะปรึกษาโจทย์ร่วมอีกครั้งว่า พึงพอใจในจำนวนนี้หรือไม่
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลุงพล ,คดีน้องชมพู่