รวบประธานมูลนิธิแสร้งใจบุญ จัดงานระดมทุน ทุจริตเงินบริจาค

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบประธานมูลนิธิแสร้งใจบุญ จัดงานระดมทุนอ้างนำไปช่วยยกระดับการศึกษา ทุจริตเงินบริจาคนำไปใช้เอง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายพิชญุตม์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4100/2568 ลงวันที่ 16 กรกฏาคม 2568 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ได้มีการกิจกรรมงานเปิดตัวสถาบันแห่งหนึ่ง โดยมีการเชิญชวนประชาชนทั่วไป รวมถึงแขกผู้มีเกียรติและบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมไทยเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งภายในงานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานได้กล่าวอ้างว่า สถาบันนี้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศให้เทียบเท่าสากล

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ที่ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทางสถาบันฯ จึงได้ประกาศเปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขอรับเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคารในนาม “มูลนิธิแห่งหนึ่ง” ซึ่งมีนายพิชญุตม์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิ

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ภายหลังการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อและร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกิจกรรมรวมเป็นเงินกว่า 1,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มผู้จัดงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทั้งสถาบัน และมูลนิธิดังกล่าว ได้ร่วมกันวางแผนถอนเงินบริจาคออกจากบัญชีในลักษณะที่ปกปิดข้อเท็จจริง โดยมีเจตนาแอบแฝงเพื่อนำเงินไปใช้ในทางที่มิชอบ ในลักษณะปกปิดข้อเท็จจริง โดยมีการนำเงินบริจาคบางส่วนโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล และยักย้ายถ่ายเทให้กับบุคคลอื่นโดยทุจริต

จากพฤติการณ์ทั้งหมด พบว่าการจัดตั้งสถาบันดังกล่าวเป็นเพียงการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาคจากประชาชนที่หลงเชื่อเท่านั้น โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งยังมีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยมีการเชิญชวนบุคคลที่เป็นที่รู้จักกันดีในสังคมขึ้นมาเป็นวิทยากรบรรยายภายในงาน ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นความผิดตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป