อาชญากรรม

รวบตาวัย 78 ปี กระทำชำเราหลานสาวแท้ๆ ตั้งแต่ 7 ขวบ จน 12 ขวบ

โดย kanyapak_w

29 พ.ย. 2567

1.1K views

รวบตาวัย 78 ปี กระทำชำเราหลานสาวแท้ๆ ตั้งแต่ 7 ขวบ จน 12 ขวบ พบประวัติแสบเคยแทงตำรวจขณะเข้าจับกุม หนีซุกประเทศเพื่อนบ้านนาน 6 ปี สุดท้ายไม่รอด


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกันจับกุม นายวิญญาฯ อายุ 78 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ จ.20/2566 ลงวันที่ 3พฤษภาคม 2566 ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล”


พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อปี 2561 ผู้เสียหาย เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ขณะนั้น อายุ 7 ปี ได้ไปเที่ยวเล่นที่บ้านของนายวิญญาฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นปู่ของเด็กหญิงเอ ที่อยู่ใกล้เคียงบ้านของเด็กหญิงเอ ผู้ต้องหาได้เรียกเด็กหญิงเอเข้าไปในบ้านและล่วงละเมิดเด็กหญิงเอจนสำเร็จความใคร่ และได้ให้เงินแก่เด็กหญิงเอ เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในปี 2564 เรื่อยมาจนถึงปี 2565 จำนวนหลายครั้ง จนเด็กหญิงเออายุ 12 ปี อีกทั้งผู้ต้องหายังเคยกระทำอนาจารโดยใช้มือจับบริเวณหน้าอกและอวัยวะเพศของเพื่อนเด็กหญิงเอด้วย


จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 มารดาของเด็กหญิงเอทราบเรื่องจึงร้องขอให้มูลนิธิวันสกาย เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงเอออกจากบ้านของผู้ต้องหา และได้ทราบภายหลังว่า ผู้ต้องหาได้พยายามติดต่อหาเด็กหญิงเอพูด จาหว่านล้อมไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 มารดาของเด็กหญิงเอได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.สังขละ จ.กาญจนบุรี


ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ จ.20/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล”


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละ ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยผู้ต้องหาได้ต่อสู้ขัดขืน


การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ และหลบหนีเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้เข้าดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาเรื่อยมา จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้พบเห็นชายมีลักษณะคล้ายนายวิญญาฯ ผู้ต้องหา อยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเพื่อจะทำการควบคุมตัวนั้น ผู้ต้องหาได้พยายามต่อสู้ขัดขืนการควบคุมตัว และผู้ต้องหาได้พกพาอาวุธมีดติดตัวมาเพื่อต่อสู้ด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้สำเร็จ พร้อมขอตรวจสอบบัตรประชาชน


จากการตรวจสอบพบว่าชายดังกล่าวคือนายวิญญาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิที่ จ.20/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ให้นายวิญญาฯ ดู อ่านเองและฟังจนเข้าใจดีแล้ว โดยนายวิญญาฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และรับสารภาพในข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป บทเรียนสำคัญต่อสังคม

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยแก่พี่น้องประชาชนทั่วไปดังนี้

ข้อแนะนำในการป้องกันภัย

1.    สอนเด็กและเยาวชนให้รู้จักการปกป้องตนเอง แยกแยะสิ่งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการสัมผัสร่างกายสอนให้ปฏิเสธและแจ้งผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ทันที หากพบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

2.    สร้างความเชื่อมั่นในครอบครัวพูดคุยและรับฟังปัญหาในครอบครัวอย่างเปิดเผยสังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติของสมาชิกในครอบครัว เช่น อาการหวาดกลัว ซึมเศร้า หรือไม่อยากอยู่ใกล้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

3.    อย่าไว้ใจบุคคลใกล้ชิดจนเกินไปหากต้องการฝากดูแลบุตรหลาน ให้มั่นใจว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ที่สามารถไว้ใจได้หมั่นตรวจสอบพฤติกรรมและถามไถ่เด็กอยู่เสมอ

4.    ให้แจ้งเหตุทันทีหากตกเป็นเหยื่อหรือพบเห็นการกระทำผิด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) มีสายด่วนสำหรับแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือสายด่วน หมายเลข 1191 เราขอย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน และเฝ้าระวังภัยในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการกระทำผิดในลักษณะนี้



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม

คุณอาจสนใจ